การเมืองช่วงเปิดสมัยประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป 1 สิงหาคม 2556 ระอุทั่วด้าน

ฝ่ายเพื่อไทย ตกเป็นฝ่ายตั้งรับ ตั้งสู้ อีกรอบ

ดังนั้น เปิดสมัยประชุม  เดือนแรก (สิงหาคม) รัฐบาลเพื่อไทย ต้องการหมกหมุ่น เพียง 3 วาระ

วาระแรกตั้งรับด้วยการประคองให้กฏหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 วงเงินงบประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท ผ่านการลงมติในวาระ 2-3 เสียก่อน

วาระที่สอง ตั้งรับด้วยการผลักดันกฏหมายปรองดอง “ฉบับวรชัย เหมะ” ที่ฉากหน้าต้องการช่วยเหลือกนักโทษการเมือง ไม่รวมแกนนำ ให้ผ่านเสียก่อน เพื่อเอาคะแนนกับเครือข่ายฐานเสียงชาวเสื้อแดงทุกเฉดสี ทุกระดับ

วาระที่สาม ตั้งรับด้วยการเร่งวาระให้กฏหมายเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ผ่านการลงมติวาระ 2- 3 ไปได้

ทั้ง 3 วาระ มีเดิมพัน 4.5 ล้านล้าน

หากทั้ง 3 เรื่องราบรื่น จากนั้นในเดือนกันยายน จะรุกการเมือง แบบเทหมดหน้าตัก

เริ่มจากระดับดีกรีเข้มข้นน้อย-ไปจนถึงดีกรีดุเดือด เรียบเรียงไว้ 3 ระดับ

ระดับแรก  นำเสนอร่างกฏหมายที่ไม่มีนักการเมืองมีส่วนได้เสียมาก เป็นเรื่องระเบียบปฏิบัติของฝ่ายบริหาร คือร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม มาตรา 190 ว่าด้วยการทำสัญญาระหว่างประเทศ

ระดับที่สอง พรรคเพื่อไทยประเมินว่า อยู่ในระดับแดงอ่อน-เข้มข้นน้อย และเก็บดอกผลได้ในระยะสั้น คือนำร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. .... แก้ไขเพิ่มเติม ที่มาของส.ว โดยแก้ไขให้บุพการี คู่สมรส หรือบุตรของผู้ดำรงตำแหน่งส.ส.และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สามารถลงรับสมัครเลือกตั้งใหม่ได้

ระดับที่สาม แดงเข้ม-ดีกรีการเมืองสูง ระดับการต่อต้านสูง คือ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช ...แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 68 และมาตรา 237  ว่าด้วยการล้มล้างการปกครองและการใช้อำนาจของอัยการสุงสุดและศาลรัฐธรรมนูญ ในการยุบพรรคการเมือง

ระดับสุดท้าย แดงเดือด-แตกหัก  หากร่างกฎหมายทุกฉบับ ติดล็อคการเมือง ไม่สามารถเดินหน้าได้ราบรื่น ทีมยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เสนอแนบท้ายไว้ว่า ให้นำร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ เข้ามาบรรจุวาระเพื่อลงมติวาระสาม  แล้วนำใส่มือน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำขึ้นทูลเกล้าฯ แล้วให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย

แหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคเพื่อไทย วิเคราะห์ว่า “ในเวลาที่รัฐบาลจะไร้เสถียรภาพ ไปต่อไม่ได้ ทุกปัญหาจะรุมเร้า เข้ามา ทั้งเรื่องเศรษฐกิจตกต่ำ เรื่องในคณะรัฐมนตรี ฝ่ายนิติบัญญัติเสนอกฏหมายไม่ได้ จนในที่สุดรัฐบาลต้องอยู่ไม่ได้”

ถึงเวลานั้น รัฐบาลจะมีไม้เด็ด คือ “ยุบสภา” โดยมีการคาดการณ์ไว้ว่า ช่วงเวลาที่รัฐบาลต้องเผชิญกับปัญหาในระดับที่รุนแรงที่สุด น่าจะอยู่ในเดือนตุลาคม 2556

ทั้งนี้ก่อนที่ พรรคเพื่อไทย รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะพ้นจากวาระ ยังมีพันธกิจ ที่จะต้องช่วยให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้กลับบ้าน ขณะที่กฎหมายนิรโทษกรรม ติดล็อคความมั่นคง หลังคลิปบทสนทนาลับระหว่าง บุคคลเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ กับคู่สนทนาจากเมืองไทย เสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ดังขึ้น

ทางเลือก ทางรอด ทางลับ ที่ทำให้พรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง ยังไม่หมดหวัง คือ กรณีการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่คนเสื้อแดงและแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ดำเนินการไว้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2552 ซึ่งขณะนี้การตรวจสอบจำนวนกว่า 6 ล้านรายชื่อ และความถูกต้องเสร็จสิ้นแล้ว หลังนายชัยเกษม นิติสิริ อดีตอัยการสูงสุด เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

ทั้งการฝ่าด่านร่างกฏหมายงบประมาณ เดิมพัน 4.5 ล้านล้าน และร่างกฎหมายอันตราย การแตกหักด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยิ่งทำให้รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และชีวิต พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตกอยู่ในความเสี่ยง อีกครั้ง!!