เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม นายโกศล ขำศิริ ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ (1) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ ตรวจสอบโครงการปรับปรุงพื้นที่รัฐสภา ตามที่นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องให้ตรวจสอบประเด็นที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ใช้งบประมาณจัดซื้อจัดจ้างโครงการด้วยวิธีพิเศษหลายรายการ เกรงว่าจะเกิดความไม่โปร่งใส โดยมีนายสุชนา ศรีสิยวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มงานอาคารสถานที่ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร นำเจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ตรวจสอบ
หลังการตรวจสอบพื้นที่ นายโกศลให้สัมภาษณ์ว่า ลงพื้นที่ตามที่นายวัชระส่งคำร้องไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.โดยในชั้นนี้เป็นการแสวงหาข้อเท็จจริง โดยตรวจสอบ 6 จุด ได้แก่ 1.โครงการปรับปรุงพื้นที่ห้องผู้สื่อข่าว 2.ปรับปรุงห้องกรรมการยุทธศาสตร์ 3.ปรับปรุงห้องงบประมาณ 4.ปรับปรุงห้องจำหน่ายตั๋วโดยสาร 5.ปรับปรุงห้องจำหน่ายของที่ระลึกและห้องรับเรื่องราวร้องทุกข์ 6.ปรับปรุงซ่อมแซมลานพระราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7
นอกจากนั้น ทางสำนักงาน ป.ป.ช.ได้ส่งหนังสือถึง นายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้ส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้าง เช่น แบบแปลน สัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ทีโออาร์ เป็นต้น เบื้องต้นหากได้รับเอกสารและได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องครบถ้วน ทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทุกด้าน และหากพบว่ายังต้องการข้อมูลเพิ่ม อาจส่งหนังสือเชิญพยานบุคคลให้คำชี้แจงเพิ่มเติมได้ เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบข้อเท็จจริง และสรุปว่าจะรับเรื่องไว้ไต่สวนต่อไปหรือไม่ ช่วงต้นปี 2557
“ในชั้นแสวงหาข้อเท็จจริง เบื้องต้นในประเด็นที่ถูกมองว่า ราคาก่อสร้างที่แพงกว่าปกติ ทางหน่วยงานอาจขอความร่วมมือหน่วยงานประเมินราคา ที่เป็นหน่วยงานกลางทำเรื่อง เพื่อประเมินราคา เพื่อให้ทราบว่า โครงการนั้น ๆ มีค่าก่อสร้างแพงกว่าปกติจริงหรือไม่ ผมทราบว่า ทางกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ได้มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ดังนั้น จึงได้ประสานงานเพื่อขอข้อมูลกันอย่างต่อเนื่อง แต่ทางกรรมาธิการฯ มีปัญหาคือไม่ได้รับความร่วมมือในเรื่องการขอเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ แต่ในชั้นของสำนักงาน ป.ป.ช.เชื่อว่าจะได้รับเอกสาร” นายโกศล กล่าว
ด้านนายวิลาศ ซึ่งเป็นผู้นำตรวจพื้นที่ในรัฐสภา ที่มีการปรับปรุงซ่อมแซม รวมทั้งวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จัดซื้อ อาทิ นาฬิกาดิจิทัล ติดผนังพร้อมอุปกรณ์ (240 เรือน มูลค่า 15 ล้านบาท) เครื่องทำน้ำดื่มระบบอัตโนมัติ จากเกาหลีใต้ (62 เครื่อง มูลค่า 3.1 ล้านบาท) เปิดเผยว่า กรณีที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.มาตรวจสอบวันนี้ เป็นเพียงเบื้องต้น ที่นายวัชระ เพชรทอง ยื่นเรื่องร้องเรียนไป 6 เรื่อง สำหรับตนจะยื่นเรื่องต่อนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช.ในวันที่ 30 ต.ค.นี้ เพื่อให้ตรวจสอบโครงการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดของรัฐสภา ที่มีมูลค่าเกิน 2 ล้านบาท เนื่องจากวิธีการส่อไม่โปร่งใส เพราะโครงการทั้งหมดส่วนใหญ่ ไม่ได้ดำเนินการประมูลแบบปกติ แต่เลือกใช้วิธีพิเศษ
“ขณะนี้ มีส.ส.เกือบทุกพรรค ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ประชาธิปัตย์ เพื่อไทย ภูมิใจไทย ชาติไทย ชาติพัฒนา พลังชล รักประเทศไทย เป็นต้น ร่วมเซ็นชื่อภายในวันเดียว รวมแล้ว 100 กว่าคน เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อประธาน ป.ป.ช. เพราะส.ส.ชุดนี้เห็นว่าในสภาฯ มีเรื่องไม่โปร่งใสมาก โดยขอให้เร่งรัดตรวจสอบเร่งด่วน เป็นกรณีพิเศษ เพื่อป้องกันการแก้ไขเอกสาร ซึ่งผมเสนอให้ตรวจสอบทุกรายการจัดซื้อจัดจ้างที่วงเงินเกิน 2 ล้านบาท เบื้องต้นที่ผมมีข้อมูลอยู่มากกว่า 20 รายการ ที่จะยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ จากนั้น ผมจะแถลงข่าวให้สาธารณชนทราบอีกครั้ง และเรื่องนี้ ยืนยันว่า ไม่ใช่เรื่องการเมือง หรือการกลั่นแกล้งกัน อย่างที่เลขาธิการสภาฯ อ้าง เพราะการตรวจสอบมีการร้องเรียนและมีหลักฐานเอกสารชัดเจน” นายวิลาศกล่าว
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ