วันที่ 29 พฤศจิกายน ที่หอประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน จ.กาญจนบุรี แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ กรณีโครงการเพื่อการออกแบบและก่อสร้างระบบบริหารทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย โดยในส่วนของ จ.กาญจนบุรี จะมีโครงการผันน้ำ หรือ ฟลัดเวย์ จากแม่น้ำปิงมาลงที่บ้านท่าล้อ อ.ท่าม่วง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านเริ่มทยอยเดินทางมาถึงหน้าหอประชุม ตั้งแต่ 07.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลและตำรวจภูธรกว่า 400 นาย คอยรักษาความสงบและดูแลการเข้าร่วมเวทีอย่างเข้มงวด โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ควบคุมอย่างใกล้ชิด
จากนั้นเวลา 08.00 น. บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก กบอ.ได้ให้ชาวบ้านที่ได้รับบัตรสีส้ม ซึ่งเป็นคนที่ได้รับการคัดเลือกจากกบอ.แล้วเท่านั้น ที่มีสิทธิเข้าร่วมในเวที ส่วนผู้ที่ได้รับบัตรสีเขียวหรือกลุ่มที่ลงทะเบียนทางออนไลน์ ทั้งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและไม่ได้รับผลกระทบ และผู้ที่ได้บัตรสีฟ้า ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้า ต้องฟังอยู่ด้านนอก โดยมีชาวจ.กาญจนบุรี จำนวนหลายหมื่นคนเดินทางมาคัดค้านเวทีดังกล่าว พร้อมทั้งมีการลงชื่อคัดค้านกว่า 3 หมื่นคนร่วมลงชื่อ ขณะที่ชาวบ้านจาก จ.ราชบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม และนครปฐม เดินมาร่วมให้กำลังใจด้วย ทำให้บรรยากาศหน้าหอประชุมเป็นไปอย่างตึงเครียด เมื่อประชาชนที่คัดค้านโครงการต้องการเข้าร่วมเวที แต่ถูกตำรวจปราบจลาจลตั้งแถวกั้นขวางไว้ จึงเกิดการผลักดันจนชาวบ้านสามารถฝ่าแนวตำรวจชั้นแรกไปได้ แต่ตำรวจปราบจลาจลกลุ่มใหญ่ยังยืนขวางบริเวณประตูกระจกทางเข้าหอประชุม ทำให้เกิดการผลักและยื้อกันอีกหลายระลอก ท่ามกลางเสียงนกหวีดและเสียโห่ไม่เอาฟลัดเวย์ จนเกิดความวุ่นวายขึ้น
ขณะเดียวกัน นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าฯกาญจนบุรี เดินทางมาถึงและรอดูสถานการณ์อยู่ในเต็นท์ด้านหน้าหอประชุม เพราะไม่สามารถเข้าไปเปิดงานได้ เนื่องชาวบ้านที่มาคัดค้านประกาศว่าจะเดินตามผู้ว่าฯเข้าห้องประชุมด้วย โดยมีนางภินันท์ โชติรสเศรณี ประธานกลุ่มอนุรักษ์กาญจน์ เป็นแกนนำชาวบ้านยืนประจันหน้ากับนายชัยวัฒน์ พร้อมทั้งประกาศให้ผู้ว่าฯเข้าใจชาวบ้านที่ไม่ต้องการฟลัดเวย์ พร้อมทั้งขอให้ชาวบ้านได้เข้าร่วมเวที แต่นายชัยวัฒน์มีท่าทีนิ่งเฉย ในที่สุดนางภินันท์จึงประกาศชักชวนชาวบ้านไปร่วมกับกลุ่มผู้คัดค้านอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังจะบุกเข้าห้องประชุม
กระทั่งเวลา 09.30 น. ชาวบ้านที่คัดค้านโครงการพากันเดินหน้าผลักดันเข้าหอประชุมอีกครั้ง จึงเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกับเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลอีกครั้งนานประมาณ 10 นาที จึงสามารถเปิดประตูเข้าหอประชุมได้
เวลา 10.00 น. นายชัยวัฒน์ได้เดินเข้าสู่หอประชุมพร้อมกล่าวกับประชาชนว่า ได้พยายามประสานกับวิทยากรที่จัดประชุม แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงต้องยกเลิกเวทีไปโดยปริยาย ส่วนจะมีการจัดเวทีอีกหรือไม่ ไม่ทราบ จะนำข้อเสนอของประชาชนกาญจนบุรีที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการรายงานไปยังฝ่ายที่เกี่ยวข้องในทันที หลังจากนายชัยวัฒน์พูดจบ แกนนำประชาชนที่คัดค้านโครงการ ได้ประกาศต่อหน้านายชัยวัฒน์ว่า การจัดเวทีในครั้งนี้ยกเลิก เพราะประชาชนไม่ต้องการโครงการอย่างเด็ดขาด และถือว่าแบบสอบถามเป็นโมฆะ
แกนนำภาคประชาชนจ.กาญจนบุรี อ่านแถลงการณ์ว่า ได้มีการให้นักศึกษานำแบบสอบถามไปสอบถามความคิดเห็นของประชาชนล่วงหน้า ทั้งๆ ที่ยังไม่เคยมีการจัดประชุมใดๆ ใน จ.กาญจนบุรีเลย ส่อให้เห็นว่าเป็นการกระทำอันมิชอบ ทุจริตและผิดหลักทางวิชาการอย่างร้ายแรง เป็นการโกหกประชาชน ดังนั้น พลเมือง จ.กาญจนบุรีขอประณาม กบอ. นักวิชาการ นักวิจัยที่รับจ้าง และบริษัท เค วอเตอร์
1.พลเมืองกาญจนบุรีขอคัดค้านโครงการคลองระบายน้ำตั้งแต่ขาณุวรลักษบุรีถึงท่าม่วง 2.ขอประณามผู้ที่ทำร้ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน 3.ประชาชนเมืองกาญจน์อาศัยอยู่มานานหลายชั่วโคตรจะไม่ยอมเคลื่อนย้าย รื้อถอน และขอคัดค้านการเวนคืนที่ดิน
ด้วยชีวิตและศัสตราวุธทุกชนิด 4.ขอเป็นศัตรูกับ กบอ. บริษัท เค วอเตอร์ และข้าราชการ นักวิชาการ นักวิจัย เจ้าหน้าที่ ทั้งภายในและนอกจังหวัดที่เข้ามาละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ชุมชน ตราบชั่วลูกชั่วหลาน 5.ขอสาปแช่งให้บุคคลที่คิดร้ายต่อแผ่นดินเกิด และหวังผลประโยชน์ใส่ตนและพวกพ้องจงประสบความฉิบหาย ตกนรกอเวจี ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด
หลังจากอ่านแถลงการณ์เสร็จสิ้น ผู้ว่าฯและแกนนำได้ประกาศยุติเวทีในเวลา 10.15 น. ชาวบ้านแยกย้ายกันเดินทางกลับ แต่ยังมีชาวบ้านที่คัดค้านอีกจำนวนหนึ่ง ยังคงเฝ้าอยู่ในบริเวณจัดงาน เนื่องจากไม่ไว้ใจกบอ. เพราะเกรงว่าจะแอบประชุมกันต่ออีก
ขอบคุณภาพประกอบข่าวจากภาสกร จำลองราช
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ