เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยแกนนำม็อบทั้ง 5 เวที ขึ้นเวทีศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ โดยนายสุเทพระบุว่า เราต่อสู้โดยมีเป้าหมายชัดเจนคือ ขจัดระบอบทักษิณให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย เมื่อขจัดไปแล้ว ปวงชนชาวไทยจะได้ใช้อำนาจอธิปไตยในฐานะเจ้าของประเทศ เมื่อรัฐบาลนี้ปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญก็แสดงว่ารัฐบาลปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจึงหมดความชอบธรรมตามกฎหมาย แต่รัฐบาลก็ยังดื้อด้าน ไม่ยอมคืนอำนาจให้ประชาชน ดังนั้นประชาชนจึงจำเป็นต้องลงมือปฏิบัติการด้วยตัวเอง เพื่อให้ระบอบทักษิณหมดสิ้นไปจากแผ่นดินไทย
จากนั้นนายสุเทพได้กล่าวแนะนำตัวแทนกลุ่ม เครือข่าย องค์กรประชาชนในสาขาอาชีพต่าง ๆ ที่ร่วมมือต่อสู้ระบอบทักษิณ ประกอบด้วย กลุ่มนักวิชาการ ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นายไชยวัฒน์ จิระนันท์ เครือข่ายพีเน็ต รศ.ดร.ชัยวัฒน์ บุญสม มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย นักวิชาการอิสระ ผศ.ดร.สุวิชา เป้าอารีย์ จากนิด้าผศ.ดร.ทวี สุรฤทธิกุล
กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย นายนิติธร ล้ำเหลือ นายอุทัย ยอดมณี นายสุริยะใส กตะศิลา กลุ่มประชาคมนักธุรกิจสีลม นายสาธิต เซกัล นายราเชน ตระกูลเวียง นายมหัศจักร โสดี กลุ่มเครือข่ายนักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตย นายพรศักดิ์ ลิ้มบุญญประเสริฐ กองทัพธรรม ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ นายมั่นแม่น กะการดี กองทัพประชาชน พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ พล.อ.ชูเกียรติ ตันสุวัฒน์ พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี นายพิเชษฐ พัฒนโชติ น.พ.ระวี มาศฉมาดล กลุ่มเครือข่ายประชาชนปฏิรูปประเทศ 77 จังหวัด นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจ 45 แห่ง นายคมสัน ทองศิริ นายมานพ เกื้อรัตน์ นายสาวิทย์ แก้วหวาน นายสมศักดิ์ โกศัยสุข กลุ่มนักสู้ของประชาชน นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ กลุ่มอดีต ส.ส. อาทิ นายถาวร เสนเนียม นายชุมพล จุลใส นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ นายสกลธี ภัททิยกุล
นายสุเทพกล่าวว่า นับแต่นี้เป็นต้นไปกลุ่มต่าง ๆ เหล่านี้จะรวมกันภายใต้ชื่อ “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” หรือชื่อย่อ กปปส. โดยตนจะเป็นเลขาธิการ กปปส. ทั้งนี้ คณะกรรมการได้ปรึกษาหารือกันและได้ตัดสินใจแล้ว กำหนดวันแห่งชัยชนะ ของมวลมหาประชาชนคือวันที่ 1 ธันวาคม 2556 โดยจะเริ่มลงมือตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป คือพี่น้องที่นี่ทำหน้าที่ควบคุมพื้นที่ศูนย์ราชการ ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการของทุกกระทรวงที่นี่
“ขอประกาศในนาม กปปส.ว่า ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป กองกำลังของมวลมหาประชาชนจะควบคุมพื้นที่ศูนย์ราชการแห่งนี้โดยสมบูรณ์เด็ดขาด และตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป ข้าราชการที่ทำงานที่ศูนย์ราชการแห่งนี้ไม่ต้องมาทำงานอีกแล้ว อนุญาตให้ทำงานได้เฉพาะข้าราชการในสังกัดศาลปกครอง ข้าราชการศาลรัฐธรรมนูญ และข้าราชการของกองทัพไทยเท่านั้น และเราจำเป็นต้องเข้าควบคุมพื้นที่ บริษัท กสท โทรคมนาคม และบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน)”
นายสุเทพกล่าวอีกว่า วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน ตนและแกนนำจะใช้สถานที่ศูนย์ราชการเป็นจุดประสานงาน เป็นศูนย์บัญชาการ ดังนั้นงานแรกคือรักษาที่มั่นศูนย์ราชการตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป ส่วนวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม กองกำลังส่วนอื่นของ กปปท.จะเข้าไปปฏิบัติควบคุมพื้นที่ ทำเนียบรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ กรมประชาสัมพันธ์ กระทรวงการต่างประเทศ ส่วนกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณเราควบคุมพื้นที่อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว สาเหตุที่เราต้องเข้าควบคุมพื้นที่ทุกกระทรวง ทบวง กรม เพื่อให้พี่น้องข้าราชการไม่ต้องมาทำงานอีก และขอแจ้งข่าวถึงพี่น้องที่ทำงานในรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง ไม่ต้องทำงานตั้งแต่วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคมเป็นต้นไป ยกเว้น การบินไทย การรถไฟ บขส. และขสมก. โดยพี่น้องใน กทม.สะดวกที่ไหนไปที่นั่น ส่วนพี่น้องต่างจังหวัดตั้งแต่พรุ่งนี้เช้าเป็นต้นไป ให้ดำเนินการที่ศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด เหมือนที่เราทำที่กรุงเทพฯ แล้วบ่ายวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม เราจะมีแถลงการณ์ประกาศชัยชนะขั้นเด็ดขาดของประชาชนด้วยกัน เวลานั้นจะไม่มีระบอบทักษิณอยู่ในแผ่นดินนี้อีกต่อไป และเมื่อเราชนะแล้ว ถ้าเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีกับเรา เราก็ยินดี จะไม่หนีไปไหน และเมื่อจัดการระบอบทักษิณเราจะเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยด้วยมือประชาชน ให้ประเทศก้าวหน้าอย่างประเทศที่มีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์
ขอบคุณภาพจากไอเอ็นเอ็น
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ
