สุเทพยืนยันวันที่ 2 ธ.ค.จะไม่มีข้าราชการทำงาน
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 30 พฤศจิกายน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ขึ้นเวทีปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันที่ 1 ธ.ค.ถือเป็นวันแห่งชัยชนะของประชาชน โดยการลงมือปฏิบัติการขจัดระบอบทักษิณให้พ้นจากแผ่นดินไทยตั้งแต่เช้าวันที่ 30 พ.ย. มีผลปฏิบัติราบรื่นมีความสำเร็จตามที่กำหนดแผนการไว้และที่ศูนย์ราชการฯ ถือเป็นศูนย์รวมหน่วยราชการ มีความชัดเจนว่า วันที่ 2 ธ.ค.นี้ จะไม่มีข้าราชการมาทำงานแน่นอน มีเพียงบางส่วนของกองทัพไทยและศาลต่าง ๆ เท่านั้น ที่เหลือถูกควบคุมหมดแล้วรวมทั้งพื้นที่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด ที่เป็นหน่วยงานควบคุมการสื่อสารก็อยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว สาเหตุที่ต้องควบคุมทั้ง 2 บริษัท เพราะในสมัยนี้รัฐบาลสั่งการผ่านการสื่อสารของ 2 บริษัทดังกล่าว นอกจากนั้นมีคนภายในแจ้งมายังกปปส.ว่า เมื่อรัฐบาลถูกควบคุมพื้นที่สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และกระทรวงการคลัง ก็พยายามใช้สถานที่ทั้ง 2 แห่ง เพื่อกอบกู้สถานการณ์ ทำให้ กปปส.ต้องควบคุมพื้นที่นี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
นายสุเทพกล่าวต่อว่า ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ กปปส.จะเข้าควบคุมทำเนียบรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยนัดหมายพร้อมกันที่เวทีราชดำเนิน เวลา 10.45 น.แต่ถ้าใครรู้สึกว่าไม่เร้าใจ ก็ให้ไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นัดรวมพลที่หอศิลป์ แยกปทุมวัน ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.เป็นต้นไปทุกหน่วยงานจะถูกควบคุมโดยกองกำลังประชาชน ส่วนในต่างจังหวัดขอให้ลุกขึ้นปฎิบัติการที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อไม่ให้รับใช้ระบอบทักษิณได้อีกต่อไป
“ขอประกาศว่ากปปส. จะไม่มีการเจรจากับรัฐบาล เพราะเป็นการวางแผนมาต้มพวกเราให้หมดแรง และไม่ต้องมาบอกว่า จะยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนไม่ต้องมาคืน เพราะพวกเราจะมาเอาคืนเองและขอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาคำพูดที่บอกว่าจะไม่หนี ถึงเวลาอย่าเปิดตามพี่ชายไปก็แล้วกัน เมื่อรัฐบาลชุดนี้ทรยศต่อประชาชน เราก็มีสิทธิริบอำนาจคืน เพราะอำนาจเป็นของปวงชนไม่ใช่เป็นขอบคนตระกูลชินวัตร” นายสุเทพกล่าว
นายสุเทพกล่าวว่า วันที่ 1 ธ.ค. พวกเราจะลุกขึ้น ต่อสู้จนกว่าจะชนะ ไม่ยอมแพ้เด็ดขาดและจะใช้อำนาจตั้งสภาประชาชน กำหนดนโยบาย และตั้งฝ่ายนิติบัญญัติ ตั้งรัฐบาลประชาชน ที่อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้มีประชาธิปไตยสมบูรณ์
โวยรัฐบาลปล่อยสัญญาณรบกวนดาวเทียม
ต่อมาเวลา 20.35 น.นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ปราศรัยระดมประชาชนเข้าไปช่วยประชาชนและนักศึกษาที่อยู่ในพื้นที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงหลังจากที่ถูกกลุ่มอันธพาลทำร้าย นอกจากนั้นขอให้รัฐบาลและ ศอ.รส. เข้าระงับเหตุการณ์ปะทะดังกล่าวอย่างเต็มที่ ทั้งนี้หากพบว่า เจ้าหน้าที่รัฐอำนวยความสะดวกและสนับสนุนกับกลุ่มอันธพาลฝ่ายรัฐบาลจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง นอกจากนั้นจากกรณีการรบกวนสัญญาณจนทำให้สัญญาณการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์บูลสกายและทีนิวส์ ไม่เป็นปกติ จากการตรวจสอบพบว่าฝ่ายรัฐได้เข้ากวนสัญญาณดาวเทียม รวมถึงการแอบอ้างกลุ่มกปปส. ที่เข้าไปทำลายระบบการสื่อสารของ กสท. ทั้งนี้ยืนยันว่ากลุ่ม กปปส. ไม่ได้ทำ และการขี่มอร์เตอร์ไซต์ป่วนเมืองเช่นกัน ดังนั้นหากประชาชนพบกลุ่มก่อกวนลักษณะดังกล่าวขอให้จับตัวและส่งให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย
นัดรวมพลเคลื่อนขบวนบุกสตช.
สำหรับภารกิจในวันที่ 1 ธ.ค.จะเคลื่อนพร้อมกันทุกจุด กทม. แบ่งปฏิบัติการ 3 ส่วน คือ 1.ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ จะเคลื่อนไปยังกระทรวงพาณิชย์ และพื้นที่อื่น ๆ โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. จะประกาศในวันพรุ่งนี้ (1ธ.ค.) 2.กระทรวงการคลัง จะขยายพื้นที่ควบคุมคือ กรมประชาสัมพันธ์ และ 3.เวทีราชดำเนิน โดยมีกลุ่มกองทัพธรรม และ คปท. จะเคลื่อนเข้าพื้นที่และควบคุมทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงการต่างประะทศ ขณะที่กลุ่มมวลชนเวทีราชดำเนิน จะรับผิดชอบ 9 พื้นที่ แบ่งเป็น 8 ขบวนที่เริ่มตั้งแต่ถนนราชดำเนิน คือ 1.ไปบช.น.จะขยายพื้นที่ควบคุม ถึงกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงมหาดไทย 2.ไปกระทรวงแรงงาน นำโดยนายอิสระ สมชัย 3.ไปกระทรวงมหาดไทย นำโดยสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ส่วนอีก 5 พื้นที่จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ (1ธ.ค.) เนื่องจากไม่ต้องการให้ฝ่ายความมั่นคงรู้ก่อน ทั้งนี้จะมีรถติดเเครื่องเสียงนำ 8 คัน นัดรวมตัวกันเวลา 09.00 น. ก่อนเคลื่อนขบวน 10.45 น. และส่วนอีก 1 ที่มั่น คือ หอศิลป์ กทม. มีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เป็นแกนนำ เพื่อเคลื่อนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเวลา 10.45 น. นอกจากนั้นจะแบ่งกำลังอีก 1 ส่วนเพื่อรักษาพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อไม่ให้คนเสื้อแดงมายึดพื้นที่ โดยมีตนและคณะจะเป็นผู้รักษาเวที แจ้งข่าวสารที่ถูกต้อง รวมถึงส่งอาหาร ส่งกำลังบำรุงไปยังทุกจุดที่เข้าควบคุมพื้นที่
“ก่อนเดินทาง สำรวจตัวเองให้พร้อม อาทิ อาหาร ร้องเท้า น้ำดื่ม ใครไปทำเนียบ หรือ บช.น. ให้เตรียมผ้าขนหนูเพื่อเช็ดเหงื่อ ทั้งนี้ต้องยึดหลักสันติ อหิงสา ขันติ ไม่มียั่วยุเจ้าหน้าที่ ขอให้คนที่ไปฟังแกนนำและไม่ฝ่าฝืนมติของแกนนำ ทั้งนี้รัฐบาลจะส่งคนมาปะปนกับพวกเราเพื่อยุแหย่ให้ทำความรุนแรง ขอให้ควบคุมตัวไว้” นายสาทิตย์กล่าว
ขอกำลังทหารช่วยตร.เฝ้าสถานที่ราชการ
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวยอมรับว่า ทางศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.)ได้ร้องขอกระทรวงกลาโหม และกองทัพไทยให้สนับสนุนกำลังทหารจาก3เหล่าทัพ เพื่อช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในการรักษาความปลอดภัยตามสถานที่ราชการต่างๆภายหลังจากที่กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมจะมีการเคลื่อนขบวนไปยังทำเนียบรัฐบาลและสถานที่ราชการสำคัญต่าง ๆ
“ทางกองทัพยืนยันว่า ไม่ใช่การนำกำลังทหารไปปฎิบัติการใด ๆ กับผู้ชุมนุม แต่เป็นการปฎิบัติหน้าที่ในการดูแลสถานที่ราชการเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย โดยจะไม่มีการใช้ความรุนแรงใด ๆ ของพี่น้องประชาชนอย่าได้วิตกกังวล” พ.อ.วินธัยกล่าว
แหล่งข่าวนายทหารระดับสูง เปิดเผยว่า ศอ.รส.ได้ทำหนังสือขอกำลังทหารจาก 3 เหล่าทัพ ช่วยดูแลความสงบเรียบร้อยเนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวจะเคลื่อนไปยังสถานที่ราชการต่าง ๆ รวมถึงทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ประกาศให้มวลชนบุกยึดสถานที่ราชการหลายแห่งในวันที่ 1 ธ.ค. นั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำหน้าที่หลายจุด และกำลังไม่เพียงพอ ซึ่งอาจรับมือไม่ไหว และผู้ชุมนุมอาจทำสถานที่ราชการเสียหาย ในหลักการตำรวจสามารถร้องขอกำลังทหารสนับสนุนได้ ในฐานะผู้ช่วยเจ้าพนักงาน โดยกฎหมายระบุไว้ว่า การขอใช้กำลังต้องทำหนังสือผ่านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.กลาโหม และพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตามขั้นตอน ทหารจึงจะออกมาปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยได้ โดยไม่มีอาวุธใดๆ ทั้งสิ้น เพราะทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายเท่านั้น ไม่ได้เผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมแต่อย่างใด โดยทหารเป็นผู้ช่วยพนักงานเท่านั้น ตำรวจจะอยู่แถวหน้า ทหารจะอยู่ข้างหลังดูแลป้องกันอาคาร สถานที่ราชการ ไม่มีการตั้งด่าน ออกมาอยู่บนถนน
การชุมนุมที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง
ศอ.รส.ประกาศห้ามเข้าพื้นที่สตช.
พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษก ศอ.รส. แถลงว่า ศอ.รส.ออกประกาศศอ.รส. ให้พื้นที่บริเวณโดยรอบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โรงพยาบาลตำรวจ สถาบันนิติเวช วิทยาลัยพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลจุฬา เป็นพื้นที่ห้ามเข้า โดยบริเวณหน้าตร. นั้นครอบคลุมบริเวณทางเดินเชื่อมต่อรถไฟฟ้า หรือสกายวอล์คด้วย โดยประชาชนทั่วไปสามารถเดินทางเข้าออกตามปกติ เว้นแต่ บุคคลที่มีลักษณะที่จะสร้างความวุ่นวายและขยายเวลาการ ประกาศปิดถนนรอบทำเนียบรัฐบาล และรอบรัฐสภาทั้ง 14 สายด้วย
นักศึกษาถูกยิงบาดเจ็บสาหัส
นักศึกษารามถูกยิงสาหัส 3 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน เวลา 20.30 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มนักศึกษารามคำแหง บริเวณด้านหลังของมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า เสียงปืนที่ดังขึ้นนั้น ดังมาจากฝั่งทางด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ทำการควบคุมสถานการณ์อยู่บริเวณดังกล่าว โดยผู้ได้รับบาดเจ็บได้ถูกนำตัวส่งไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ ทางกลุ่มนักศึกษาได้เรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการร์ และให้เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
‘ณัฐวุฒิ’ให้แดงยกระดับขั้นสูงสุดสู้ม็อบสุเทพ
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ในฐานะแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ แถลงข่าว ประกาศเจตนารมณ์แนวทางการต่อสู้ของคนเสื้อแดง ต่อท่าทีของกปปส. โดยนายณัฐวุฒิ ได้ประกาศให้คนเสื้อแดง ส่งเสียงไปยังนายสุเทพ รวมถึงนักวิชาการ นักธุรกิจ ที่รวมตัวกันก่อตั้งเป็นแกนนำ กลุ่ม กปปส. ว่า ยังมีหัวใจที่หาญกล้าอยู่อีกหรือไม่ ที่ปล่อยให้มวลชนออกไปยึดที่นั่นที่นี่ โดยไม่เห็นหัวแกนนำสักคน โดยเฉพาะส.ส.ประชาธิปัตย์ ที่ยุยง ปลุกปั่นประชาชน แต่แอบอยู่ข้างหลัง ไม่ออกมาเคียงข้างประชาชน
“ผมขอเรียกร้อง ให้นายสุเทพ และนักวิชาการ ด็อกเตอร์ทั้งหลาย ที่รวมตัวประกาศเป็นแกนนำปฏิวัติประชาชน ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อคนทั้งประเทศ ในวันพรุ่งนี้ (1 ธ.ค.) ที่จะยึดสถานที่ต่างๆ ถามว่า จะดำเนินการอย่างไรกับประเทศไทยต่อไป ประเทศไทยหลังจากพรุ่งนี้หน้าตาเป็นอย่างไร ต้องให้ความชัดเจน เพราะสิ่งที่ทำอยู่ นั้่นส่งผลกระทบความเดือดร้อน ทำลายประชาธิปไตย ทำลายความเชื่อมั่นในสายตานานาชาติอย่างย่อยยับ ท่านประกาศพรุ่งนี้ เป็นวันแห่งชัยชนะของพวกท่าน ซึ่งหากทำอย่างที่พูด พรุ่งนี้จะเป็นวันพ่ายแพ้อย่างย่อยยับของคนไทยทั้งประเทศ ถ้าต่อสู้เพื่อประชาชนแล้ว ต้องเป็นชัยชนะของคนไทย ไม่ใช่ชัยชนะของสุเทพ และอำนาจนอกระบบทั้งหลาย” นายณัฐวุฒิ กล่าวและว่า
กลุ่มนปช.ชุมนุมที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน
ถ้านายสุเทพขึ้นเวที แถลงข่าวประกาศชัยชนะ นั่นจะเป็นวินาทีอัปยศที่สุดของประเทศไทย ในประวัติศาสตร์ ที่ประกาศสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่ทำลายกลไกประชาชนไม่มีเหลือ หากประกาศว่า นั่นคือการต่อสู้ด้วยสันติวิธี อยากจะบอกว่า ที่เขาพูด เขาทำ เขายอมรับกัน เป็นสันติวิธีที่แสดงออกทั้งกาย ใจ เจตนา หาใช่สันติวิธีที่ ข่มขู่ กดขี่ รุกราน ละเมิดกฎหมาย สันติวิธี มีไว้โค่นล้มเผด็จการ ไม่ได้ฉีกรัฐธรรมนูญของประชาชน
การต่อสู้ตามแนวทางของสันติวิธี มีไว้ต่อต้านผู้ปกครองที่มีที่มาไม่ชอบธรรม ไม่ใช่ต่อต้านรัฐบาลที่มาจาการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมของประชาชน ต้องนำมาสู่สันติภาพ ไม่ใช่นำพาซึ่งความมืดดำของสงครามที่ทำกันอยู่ เพราะการต่อสู้ไม่ชอบธรรม เพราะระบอบที่ทำไม่ใช่ประชาธิปไตย จึงไม่อาจยอมรับได้
พร้อมกันนี้นายณัฐวุฒิ ยังประกาศให้ผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ชุมนุมปักหลักอยู่แต่ในที่ตั้ง อย่างอดทน อดกลั้น ด้วยสมาธิ เนื่องจากรอบถนนรามคำแหงมีการปิดถนนเพื่อรักษาความสงบปลอดภัยให้คนแดงแล้ว ขณะที่ยังมีพี่น้องคนเสื้อแดงอีกจำนวนมากที่กำลังหลั่งไหลมาที่สนามราชมังคลากีฬาสถานแห่งนี้ ซึ่งขอเชิญชวนให้มารวมตัวกัน
นอกจากนี้แกนนำ นปช.ยังได้มีการประกาศปลุกระดม ให้พี่น้องคนเสื้อแดงทั้งแผ่นดิน เตรียมตัวขั้นสูงสุด หากนายสุเทพ บุกยึดสถานที่ต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา มีการประกาศให้ยึดศาลากลางทุกจังหวัด ดังนั้น คนเสื้อแดงจะแสดงให้ดู ว่า ถ้าฝ่ายนายสุเทพยึดได้ คนเสื้อแดงก็ยึดได้มากกว่านี้ นายสุเทพ และนักวิชาการทั้งหลายจะมาเดิมพันกันหรือไม่
“ไม่มีการต่อสู้ครั้งใดแล้ว ที่จะยิ่งใหญ่และสำคัญมีพัฒนาการเท่าการต่อสู้ เท่าการแสดงพลังครั้งนี้ ถ้าสุเทพจบ เราก็จบ ถ้าสุเทพหยุด เราก็หยุด ถ้าสุเทพเลิก เราก็เลิก ถ้าสุเทพทำ เราก็ทำ สุเทพไล่รัฐบาล เราจะไล่สุเทพ เทือกสุบรรณ กปปส. ไล่นายกฯ เราจะไล่ไอ้นักวิชการและแกนนำทั้งหลาย อย่านึกว่า เราจนกว่า เรียนน้อยกว่าแต่หัวใจเราใหญ่กว่า ได้ยินมั้ย ชาวไร่ชาวนา ก็มีหัวใจ แยกออก ว่า อันไหนเผด็จการ อันไหนประชาธิปไตย ไอ้นักวิชาการ เรียนจบด็อกเตอร์ ยังไม่รู้ แยกไม่ออก”
ขอบคุณข่าวจากคมชัดลึกออนไลน์
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ