เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนกรุงเทพฯ ที่จะได้เดินทางไปท่องเที่ยวต่างจังหวัด รวมถึงคนต่างจังหวัดที่พำนักอยู่ในกรุงเทพฯ ก็จะได้เดินทางกลับภูมิลำเนา ส่วนผู้ที่พำนักอยู่ในกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างจังหวัดหรือกลับภูมิลำเนา ก็ยังมีทางเลือกที่หลากหลายในการเฉลิมฉลอง โดยพบว่า การออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างสูง จึงกล่าวได้ว่าเทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาทอง ที่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารในกรุงเทพฯจะแข่งขันเพื่อแย่งชิงลูกค้าอย่างคึกคัก
ปีใหม่ 2557 คนกรุงฯ รับประทานอาหารนอกบ้าน เงินสะพัดร้านอาหารในกรุงเทพฯ 1,900 ล้านบาท
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สำรวจพฤติกรรมการรับประทานอาหารนอกบ้านของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ระหว่างวันที่ 12-23 ธันวาคม 2556 จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนกรุงเทพฯ หรือเป็นคนต่างจังหวัดที่เข้ามาศึกษา/ทำงานในกรุงเทพฯ ที่ยังคงพำนักอยู่ในกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลปีใหม่จำนวน 522 คน ครอบคลุมในทุกช่วงอายุและทุกช่วงระดับรายได้ โดยมีผลการสำรวจซึ่งประกอบไปด้วยประเด็นสำคัญ ดังนี้
ส่วนใหญ่เลือกรับประทานอาหารที่เป็น Stand Alone
จากผลการสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีแผนรับประทานอาหารนอกบ้าน เพื่อเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ เลือกรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร ภัตตาคาร และสวนอาหาร ที่มีลักษณะเป็น Stand Alone (ร้านเดี่ยว) สำหรับมื้ออาหารที่สำคัญที่สุด คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 62 โดยจะเห็นได้ว่าในเกือบทุกช่วงอายุมีสัดส่วนการเลือกรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร ภัตตาคาร และสวนอาหารสูงที่สุด (ยกเว้นกลุ่มตัวอย่างที่ช่วงอายุ 15-22 ปี ซึ่งเลือกรับประทานอาหารที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ในสัดส่วนที่สูงกว่า) เนื่องจากร้านอาหาร ภัตตาคาร และสวนอาหาร มีลักษณะเป็นร้าน Stand Alone ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถรองรับลูกค้าได้จำนวนมาก รวมถึงยังมีห้องจัดเลี้ยงสังสรรค์ที่มีความเป็นส่วนตัว ในขณะที่มีกลุ่มตัวอย่างเลือกรับประทานอาหารที่ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ และร้านอาหารในโรงแรม คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 29 และร้อยละ 9 ตามลำดับ
ส่วนรสชาติอาหาร เป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ที่กลุ่มตัวอย่างให้ความสำคัญในการเลือกสถานที่รับประทานอาหารนอกบ้าน รองลงมาได้แก่ ความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งผลการสำรวจมีความสอดคล้องกับสภาพการจราจรภายในกรุงเทพฯ ที่ติดขัดมากขึ้นกว่าในอดีต ส่งผลให้กลุ่มตัวอย่างให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านความสะดวกในการเดินทางเป็นลำดับต้น ๆ ในการเลือกสถานที่รับประทานอาหารนอกบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่
งบประมาณรับประทานอาหารนอกบ้านของคนกรุงเทพฯไม่น้อยกว่าปีที่แล้ว โดยโปรโมชั่นให้ส่วนลดยังมาแรง
จากผลการสำรวจพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่สัดส่วนร้อยละ 53 มีงบประมาณสำหรับรับประทานอาหารนอกบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่เฉลี่ยต่อคนต่อมื้อเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างสัดส่วนร้อยละ 43 มีงบประมาณเฉลี่ยต่อคนต่อมื้อเท่ากับปีที่แล้ว และมีกลุ่มตัวอย่างเพียงสัดส่วนร้อยละ 4 ที่มีงบประมาณเฉลี่ยต่อคนต่อมื้อลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว
สัดส่วนร้อยละ 77 ของกลุ่มตัวอย่าง ที่มีงบประมาณสำหรับรับประทานอาหารนอกบ้านเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ให้เหตุผลสำหรับงบประมาณที่เพิ่มขึ้นว่า มีสาเหตุมาจากราคาอาหารที่สูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องตามสภาวะค่าครองชีพของคนกรุงเทพฯ ที่สูงขึ้นในปัจจุบัน โดยเมื่อพิจารณาผลการสำรวจรูปแบบโปรโมชั่นที่ถูกใจควบคู่กันไป จะพบว่า โปรโมชั่นที่กลุ่มตัวอย่างให้ความสนใจสูงสุดคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 37 คือ การให้ส่วนลดเงินสด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า การแข่งขันด้านราคาเป็นปัจจัยที่สามารถดึงดูดคนกรุงเทพฯ ให้เลือกรับประทานอาหารภายใต้สภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในอนาคตได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจก็ยังได้สะท้อนให้เห็นว่า แม้ว่าคนกรุงเทพฯจะเผชิญสภาวะค่าครองชีพที่ส่งผลให้ราคาอาหารสูงขึ้น แต่จะเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ก็ยังไม่ลดงบประมาณในการรับประทานอาหารนอกบ้านในช่วงเทศกาลปีใหม่ลง ซึ่งหมายความว่าในปี 2557 นี้ กลุ่มตัวอย่างยังคงให้ความสำคัญกับการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่โดยการรับประทานอาหารนอกบ้านอยู่
โซเชียลเน็ตเวิร์ค โทรทัศน์ และบุคคลรอบข้างมีผลต่อการตัดสินใจรับประทานอาหารนอกบ้าน
กลุ่มตัวอย่างสัดส่วนร้อยละ 65 ระบุว่า สื่อโฆษณามีผลต่อการตัดสินใจรับประทานอาหารนอกบ้าน โดยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับโซเชียลเน็ตเวิร์ค เช่น Facebook, Instagram คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22 ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับสื่อโฆษณา ที่เจาะผู้ชมในวงกว้าง อย่างเช่นโทรทัศน์ นอกจากนี้คำแนะนำของบุคคลรอบข้างก็มีผลต่อการตัดสินใจรับประทานอาหารนอกบ้านของกลุ่มตัวอย่างด้วยเช่นกัน โดยคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประมาณการมูลค่าตลาดธุรกิจร้านอาหาร ระหว่างวันที่ 28 ธันวาคม 2556 - 1 มกราคม 2557 ว่า จะมีเม็ดเงินสะพัดในธุรกิจร้านอาหารในกรุงเทพฯไม่ต่ำกว่า 1,900 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหนุนมาจากงบประมาณสำหรับรับประทานอาหารนอกบ้าน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เฉลี่ยต่อคนต่อมื้อของคนกรุงเทพฯ ที่เพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว ประกอบกับระยะเวลาหยุดยาวถึง 5 วัน ซึ่งช่วยกระตุ้นให้คนกรุงเทพฯ ออกมารับประทานอาหารนอกบ้าน เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่กันมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ตลาดธุรกิจร้านอาหารในกรุงเทพฯน่าจะมีมูลค่าสะพัดสูงสุดในวันที่ 31 ธันวาคม 2556 ซึ่งเป็นวันที่ผู้คนนิยมรวมตัวกันเฉลิมฉลองในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยคาดว่าสถานที่ในย่านใจกลางเมืองจุดต่างๆ ที่มีการจัดงานเค้าท์ดาวน์ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จะได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง ที่จะส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารในบริเวณนั้น ๆ ได้รับอานิสงส์จากการเข้าร่วมกิจกรรมของคนกรุงเทพฯจำนวนมากไปด้วย
ร้านอาหารแข่งเดือดช่วงปีใหม่ แนะผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงการตัดราคา
เทศกาลปีใหม่ เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารในกรุงเทพฯต่างแข่งขันเพื่อช่วงชิงลูกค้าด้วยรูปแบบที่แตกต่างกันตามลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้สรุปรูปแบบการแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 โดยจำแนกตามรูปแบบร้านอาหารได้ดังรายละเอียดต่อไปนี้
จากการแข่งขันระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารที่รุนแรงมากขึ้น ประกอบกับความต้องการและพฤติกรรมของลูกค้าในกรุงเทพฯกลุ่มต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดให้ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารต้องเร่งปรับกลยุทธ์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้เสนอแนะแนวทางในการแข่งขันเพื่อช่วงชิงลูกค้าของผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร จำแนกตามรูปแบบร้านอาหาร ดังนี้
ทั้งนี้ เป็นที่ปรากฏอย่างชัดเจนว่า กลุ่มตัวอย่างในกรุงเทพฯ ชื่นชอบโปรโมชั่นการรับส่วนลดมากกว่าโปรโมชั่นในรูปแบบอื่นๆ เนื่องจากการให้ส่วนลดเป็นวิธีการที่ลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ในทันที อย่างไรก็ตาม การแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารในการให้ส่วนลดกับลูกค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่เพียงอย่างเดียวย่อมนำมาซึ่งภาวะการตัดราคาระหว่างผู้ประกอบการ ประกอบกับภาวะต้นทุนการประกอบธุรกิจที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ต้นทุนวัตถุดิบ พลังงาน แรงงาน รวมถึงค่าเช่าสถานที่ ก็ยิ่งเป็นปัจจัยบีบคั้นให้กำไรของธุรกิจลดลงได้ ดังนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารควรให้ความสำคัญกับปัจจัยอื่น ๆ เพื่อดึงดูดคนกรุงเทพฯให้เข้ามาใช้บริการในช่วงเทศกาลปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรสชาติอาหาร ความหลากหลายของอาหาร การตกแต่งร้าน ซึ่งจากผลสำรวจได้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่า สำหรับคนกรุงเทพฯแล้ว ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการตัดสินใจเลือกร้านอาหารในลำดับต้น ๆ ไม่น้อยไปกว่าปัจจัยด้านราคา
นอกจากนี้ ยังเป็นที่ปรากฏอย่างชัดเจนว่า โซเชียลเน็ตเวิร์คได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะช่องทางที่คนกรุงเทพฯจะรับทราบถึงข้อมูลต่าง ๆ ของร้านอาหารทุกประเภท จึงส่งผลให้อุปสรรคในด้านการเข้าถึงลูกค้าไม่เป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารอีกต่อไป หากแต่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารจำเป็นต้องสื่อสารเนื้อหาและกำหนดรูปแบบกิจกรรมการจัดงานปีใหม่ที่มีความแปลกใหม่และเป็นที่น่าสนใจ เพื่อสร้างความโดดเด่นท่ามกลางผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวนมากที่ต่างก็ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นช่องทางในการโฆษณาร้านอาหารและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ