เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 มีนาคม ที่ห้องประชุมสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ซึ่งเป็นกลุ่มชาวบ้านคัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ประมาณ 100 คน เข้าพบและยื่นหนังสือต่อนายพัตทอง กิตติวัฒน์ รักษาราชการแทนอุสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี คัดค้านคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการประชุมเบื้องต้น กับผู้มีส่วนได้เสียในโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ซึ่งกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ได้มีคำสั่งที่ 72/2557 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2557 แต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้น ตามมาตรา 88/9 แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 เพื่อทำหน้าที่คัดเลือกตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียในเขตคำขอประทานบัตร จัดประชุมตัวแทนผู้มีส่วนได้เสีย และดำเนินการตามกระบวนการตั้งกองทุนสนับสนุนโครงการศึกษาวิจัยรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ของกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ในการทำเหมืองแร่ใต้ดิน ตามมาตรา 88/10 แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2510 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแร่ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2545 ตามขั้นตอนการขออนุญาตประทานบัตรทำเหมืองแร่ใต้ดิน
หลังจากกพร.ได้รับรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) แล้ว เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ให้เหตุผลในการคัดค้านว่า เป็นคำสั่งที่หมกเม็ด ไม่โปร่งใส เนื่องจากกลุ่มชาวบ้านได้ดำเนินการรวบรวมรายชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน จำนวน 1,580 แปลง และรายชื่อผู้มีส่วนได้เสียภายในขอบเขตพื้นที่โครงการฯ จำนวน 5,765 รายชื่อ ยื่นโต้แย้ง คัดค้านคำขอประทานบัตรทำเหมืองแร่โปแตชอุดรธานี คำขอที่ 1-4/2547 ของบริษัท เอเซีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด ครบถ้วนถูกต้อง ตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2510 กำหนด และมีการติดตามผลการยื่นโต้แย้ง คัดค้านอย่างต่อเนื่อง
กระทั่งมีบันทึกการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ระหว่างกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กับกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี โดยการทำข้อตกลงร่วมกัน 2 ข้อ ได้แก่ ข้อ 1. ให้แต่งตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่าง กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี เพื่อตรวจสอบความถูกต้องการไต่สวนพื้นที่ รายละเอียดต่าง ๆ ของแผนที่ประกอบคำขอประทานบัตรที่ 1-4/2547 และหารือประเด็นข้อกฎหมาย ในการดำเนินงานตามกระบวนการขออนุญาตประทานบัตรเหมืองแร่ใต้ดิน ตามมาตรา 88/9 ให้ได้ข้อยุติ และข้อ 2. กรณีข้อ 1.ยังไม่ได้ข้อยุติทั้งสองฝ่ายมีความเห็นร่วมกัน ให้ชะลอการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามมาตรา 88/10 และในการขอความเห็นจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อประกอบการพิจารณาคำขอประทานบัตร
นายบุญเลิศ เหล็กเขียว กรรมการกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กล่าวว่า กพร.ได้ละเมิดข้อตกลงร่วมกันระหว่าง กพร.กับกลุ่มอนุรักษ์ฯ เนื่องจากคณะกรรมการศึกษาติดตาม กระบวนการขออนุญาตประทานบัตร โครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ตามคำสั่งกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ แต่งตั้งชุดก่อน (คำสั่งที่ 77/2555 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2555) ยังดำเนินการไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งการแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ขึ้นมาอีกเพื่อเดินหน้าต่อในขั้นตอนการขออนุญาตประทานบัตร โดยฟังไม่เสียงคัดค้านของชาวบ้าน จึงเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และยิ่งจะนำพาความขัดแย้งรุนแรงในพื้นที่ระลอกใหม่เกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน
“ขอให้มีการยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อให้คณะกรรมการที่มีอยู่ระหว่างกพร.กับกลุ่มอนุรักษ์ฯ ทำหน้าที่ จนได้ข้อสรุปที่ชัดเจนเสียก่อน ซึ่งปัญหาเก่าตามที่ชาวบ้านคัดค้าน ในมาตรา 49 ของกฎหมายแร่ กพร.ก็ยังไม่มีตอบ แล้วยังจะเอาปัญหาใหม่มาให้ชาวบ้านอีก” นายบุญเลิศกล่าว
ด้านนายพัตทอง กิตติวัฒน์ รักษาราชการแทนอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี และในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการจัดการประชุมเบื้องต้น กับผู้มีส่วนได้เสียในโครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี ชี้แจงว่า ตามขั้นตอนเมื่อสผ.ผ่านความเห็นชอบรายงานอีเอชไอเอแล้ว แจ้งเรื่องมาทางอธิบดีกพร. ตามหนังสือวันที่ 20 ม.ค.2557 ที่ผ่านมา ซึ่งตามกรอบกฎหมาย กพร.ต้องแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการประชุมเบื้องต้นกับผู้มีส่วนได้เสียขึ้นมา โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และส่วนราชการในจังหวัดรวมแล้ว 14 คน ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะมีหน้าที่แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้าน ไปคัดเลือกตัวแทนผู้มีส่วนได้เสียในเขตคำขอประทานบัตร หมู่บ้านละ 2 คน และแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตคำขอประทานบัตรคัดเลือกตัวแทนฯ หน่วยงานละ 2 คน เมื่อได้ตัวแทนฯ แล้วคณะกรรมการก็จะมาทำหน้าที่จัดการประชุม แต่ในวันนี้กลุ่มอนุรักษ์ฯมาคัดค้าน ตนก็จะรวบรวมประเด็น แล้วเสนอต่อผู้ว่าราชการลงนามถึงอธิบดีกพร. เพื่อหารือเรื่องนี้ให้พิจารณาว่าเป็นอย่างไร ให้มีคำตอบออกมา ซึ่งระหว่างนี้ก็จะเสนอให้มีการชะลอการทำหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ออกไปก่อน คือยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ จนกว่าจะได้รับคำตอบจากกพร.
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ