เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 2 พฤษภาคม 2557 นายสมโภชน์ จันทร์ทับ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 ต.ท่าข้าม อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เจ้าของร้านขายของชำ ร้องเรียนผู้สื่อข่าวจ.ชุมพรว่า สุดทนกับโจรที่เข้ามาขโมยของในร้านขายของชำถึง 4 ครั้ง จึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่าบ้านหลังดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนของตัวบ้านและส่วนของร้านค้าขายของชำ ที่บริเวณด้านหน้าร้านค้าพบป้ายไวนิลขนาด ยาว 4 เมตรกว้าง 1 เมตร ข้อความเขียนว่า “ประกาศบ้านหลังนี้โดนขโมยเข้าลักทรัพย์ 4 ครั้งแล้วแต่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมดำเนินคดีได้แม้แต่ครั้งเดียว ขอยกย่องในความสามารถของท่านมวลมหาโจรจริงๆ” พร้อมระบุด้านล่างป้ายว่า “ข้อมูลนี้ใช้ประกอบการตัดสินใจของผู้ที่คิดจะประกอบอาชีพหรืออยู่อาศัยในพื้นที่นี้” ส่วนที่บริเวณหน้าประตูเหล็กหน้าร้านค้าก็ขึ้นป้ายขนาด 1X1 เมตร และมีข้อความว่า “ปิดหนีโจรชั่วคราว ท้องที่นี้โจรเยอะมาก”
นายสมโภชน์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ต้องขึ้นป้ายแบบนี้ เพราะว่าในระยะเวลาไม่ถึงปีครึ่ง ถูกโจรเข้ามางัดแงะร้านขายของชำถึง 4 ครั้ง ได้ทรัพย์สินไปทั้งหมดเกือบ 1 แสนบาท ครั้งล่าสุดเมื่อกลางดึกวันที่ 24 เม.ย. 2557 ที่ผ่านมา ถูกโจรงัดร้านขายของชำได้ทรัพย์สินและข้าวของไปมูลค่ากว่า 20,000 บาท ส่วนใหญ่คนร้ายจะเลือกเอาสินค้าที่มีราคาแพงเช่น เบียร์กระป๋อง สุรา บุหรี่ เงินในลิ้นชัก และทรัพย์สินที่มูลค่าสูงและขนย้ายสะดวก โดยพฤติกรรมของโจรแก๊งดังกล่าวจะตัดกรงเหล็ก เพื่อเปิดประตูเข้าไปและขนย้ายของออกทางกรงเหล็กด้านหน้าร้านที่พอมีช่องว่างอยู่บ้าง ถึงแม้ว่าตนจะพยามป้องกันอย่างไรแต่ก็ดูเหมือนจะสู้พวกโจรไม่ได้
“พื้นที่หมู่ 14 ต.ท่าข้าม มีเหตุลักเล็กขโมยน้อยเป็นประจำ ไม่เว้นแม้แต่หมากแห้งที่คนแก่ผ่าไว้เพื่อจะเอาไปขาย แค่กระสอบเดียวโจรมันยังเอาไปไม่สงสารคนแก่เลย ที่สำคัญช่วงนี้บ้านไหนที่มีลูกสาวต้องระวังเป็นพิเศษเพราะแก๊งลักชุดชั้นใน หรือพวกโรคจิต กำลังออกอาละวาดตระเวนขโมยชุดชั้นใน แต่ที่น่าเสียดายหลายคนไม่คิดแจ้งความ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ผมจึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยสอดส่องให้ชาวบ้านบ้าง หากปล่อยไว้อาจจะเกิดเหตุที่รุนแรงกว่านี้” นายสมโภชน์กล่าว
ต่อมาเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.ภาศกร ณ พิกุล ผกก.สภ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เดินทางไปพบนายสมโภชน์ เจ้าของร้านขายของชำดังกล่าว เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ นำตู้แดงของ สภ.ท่าแซะ มาติดตั้งไว้ที่หน้าร้านนี้ เพื่อใช้เป็นจุดลงเวลาตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อยภายในชุมชนดังกล่าว
ขณะที่นายสมโภชน์ได้เล่าถึงความไม่พอใจในการทำหน้าที่ของตำรวจที่ไม่สนใจคดีว่า ตนไปแจ้งความหลังเกิดเหตุ แต่ตำรวจมาดูในวันถัดไป และยังไม่ใส่ใจรวบรวมหาพยานหลักฐาน ทั้งๆ ที่เกิดเหตุการณ์ซ้ำซากมาถึง 4 ครั้ง จนตนต้องสูญทรัพย์สินไปนับแสนบาท แต่แก๊งมิจฉาชีพก็ยังออกอาละวาดลักทรัพย์สินชาวบ้านอีกหลายแห่ง สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว จนต้องระบายด้วยการทำป้ายไวนิลติดไว้หน้าร้าน โดยมีข้อความประชดประชันตำรวจ และยกย่องความสามารถของโจรดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม นายสมโภชน์ก็ได้แสดงความขอบคุณ พ.ต.อ.ภาศกร ที่เดินทางมาเยี่ยมเยียนและยืนยันว่าจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดในการทำงาน เพื่อสร้างความอบอุ่นใจให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งตนเองก็พร้อมที่จะปลดป้ายประชดประชันดังกล่าวลงทันที เพราะไม่ได้มีเจตนาจะทำให้ใครเสียหาย หรือโจมตีใคร แต่อย่างใด
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ