วันที่ 2 กรกฎาคม คมชัดลึกออนไลน์ รายงานว่า เวลา 09.00 น. บรรยากาศบริเวณห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานไทย มาจัดเตรียมสถานที่รับรองการเดินทางกลับประเทศไทยของนายวีระ สมความคิด แกนนำกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ หลังได้รับการอภัยโทษจากกษัตริย์นโรดมสีหมุนี ของประเทศกัมพูชา ตามคำร้องขอของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งนายวีระได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำเปรย์ซอว์ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา หลังจากถูกจองจำนานกว่า 3 ปี 6 เดือน กับอีก 2 วัน
ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ กระทรวงต่างประเทศ ชี้แจงทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนที่มาติดตามทำข่าวว่า จะอนุญาตให้เก็บภาพได้บริเวณโถงห้องรับรองพิเศษเท่านั้น โดยจะไม่มีการให้สัมภาษณ์ใด ๆ ซึ่งรายละเอียดต่าง ๆ นั้น นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศจะมีการแถลงข่าว ในเวลา 14.00 น. อย่างไรก็ดี บรรยากาศโดยรวมได้มีบรรดาสื่อมวลชน และประชาชนจำนวนหนึ่ง รวมถึง ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ อดีต ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกจับพร้อมกับนายวีระมารอต้อนรับด้วย
กระทั่งเวลา 11.40 น. นายวีระ พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษาเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) มาถึงห้องรับรอง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยนายวีระ มีสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับยกมือไหว้ทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ โดยมวลชนต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ พร้อมตะโกนว่า “วีระสู้ๆ” “วีระวีรบุรุษ” ก่อนจะฝ่าฝูงชนขึ้นรถไปกับนายนิติธร ในฐานะทนายความส่วนตัว ไปยังกองบังคับการกองปราบปราม เพื่อยื่นประกันตัวในคดีก่อการร้าย จากเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ในช่วงการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ทั้งนี้ นายวีระ ให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า ต่อไปจะทำงานตรวจสอบเรื่องทุจริต และในส่วนของคดีความภายในประเทศ ส่วนตัวเชื่อว่าทำถูกต้อง จึงไม่ซีเรียส อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณทุกคนที่ให้ความช่วยเหลือ และถ้ามีโอกาส ก็จะไปขอบคุณคสช. รวมทั้งให้อภัยและอโหสิกรรมแก่ทุกคน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ได้เข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่อาคารพีซ พาเลซ บวกกับการประสานงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่อาศัยความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพบกของทั้งสองประเทศ ส่งผลให้นายวีระ สมความคิด แกนนำภาคีเครือข่ายประชาชนคนไทยหัวใจรักชาติ ได้รับพระราชทางอภัยโทษ
นายสีหศักดิ์ เปิดเผยว่า สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาแสดงความเข้าใจต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทย ที่กำลังมีพัฒนาการเพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตย และย้ำว่าปัญหาการเมืองต้องแก้ไขด้วยคนในประเทศนั้นๆ กัมพูชาจะไม่แทรกแซง และจะไม่สนับสนุนกลุ่มหรือองค์กรใดที่จะต่อต้านรัฐบาลไทย และแสดงความเชื่อมั่นว่าแนวทางที่ฝ่ายไทยกำลังดำเนินการกันอยู่จะสามารถนำกลับเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตยและมีเสถียรภาพในอาเซียน
โดยนายสีหศักดิ์ได้แจ้งให้ทางกัมพูชาทราบเจตนารมณ์ของฝ่ายไทยที่ต้องการเดินหน้าพัฒนาความสัมพันธ์ทุกด้าน ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่นโยบายต่างประเทศยังคงขับเคลื่อน
ส่วนประเด็นแรงงานกัมพูชาที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชาความเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้เหตุการณ์ก็ได้เข้าสู่ภาวะปกติ โดยจะร่วมมือเพื่อให้มีช่องทางนำแรงงานกัมพูชากลับเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยฝ่ายกัมพูชาได้ลดค่าธรรมเนียมทำหนังสือเดินทางจาก 200 เหรียญสหรัฐ เหลือเพียง 4 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ฝ่ายไทยก็ได้เร่งขั้นตอนการออกวีซ่า จาก 3 วัน เหลือเพียง 1 วัน
สมเด็จฮุนเซนและนายฮอ นัมฮง ยังได้แสดงความเป็นห่วงกรณีชาวกัมพูชา 14 คนที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาใช้วีซ่าปลอมเดินทางเข้าประเทศไทย โดยสมเด็จฮุนเซนบอกว่า ทั้งหมดไม่มีเจตนาจะละเมิดกฎหมายไทย เพียงแต่ถูกหลอก จึงขอให้ฝ่ายไทยพิจารณาปล่อยตัว ซึ่งนายสีหศักดิ์จะนำไปหารือกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อไป
รายงานยังกล่าวถึงการที่นายสีหศักดิ์ได้นำกรณีการช่วยเหลือนายวีระ สมความคิด ที่ยังคงรับโทษคุมขังอยู่ในเรือนจำเปรยซอว์ ในกรุงพนมเปญ ขึ้นหารือกับสมเด็จฮุนเซน โดยชี้แจงว่าไทยไม่ได้ประสงค์จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา แต่นายวีระได้รับโทษมาพอสมควร และด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมและความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ จึงขอให้กัมพูชาพิจารณาตามคำขอของฝ่ายไทย โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชาก็ได้รับไว้พิจารณาอย่างจริงจัง
ล่าสุด นายวีระ สมความคิด ได้เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 11.25 น. หลังจากที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสครบ 1 ปี การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จเจ้านโรดม สีหนุ ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ และเพื่อความสัมพันธ์ที่ดีของไทยและกัมพูชา
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ