เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นางรสนา โตสิตระกูล อดีตวุฒิสมาชิก กรุงเทพมหานคร หนึ่งในสมาชิกกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทย หรือ จปพ. กล่าวถึง ข้อเสนอเร่งด่วนต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ ครส. ให้เร่งปฏิรูปพลังไทย เสนอให้ยกเลิกการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม หรือ LPG โดยให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนรีสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2551 ที่ระบุให้จัดสรรก๊าซ LGP ที่ผลิตได้ในประเทศ โดยจัดสรรให้กับภาคปิโตรเคมีและภาคครัวเรือนเป็นลำดับแรก ซึ่งในความเป็นจริงผลผลิตที่ได้นั้นถูกภาคปิโตรเคมีนำไปใช้มากที่สุด จนไม่เพียงพอกับความต้องการของการใช้ในครัวเรือน ส่งผลให้มีการนำเข้าจากต่างประเทศและภาระค่าใช้จ่ายกลับตกอยู่ที่ประชาชนในภาคครัวเรือน
เลิกค่าพรีเมี่ยมน้ำมัน หั่นราคาเท่าภาคขนส่ง
กลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทยได้แนะให้คสช.มีมติจัดสรรก๊าซ LPG ขึ้นใหม่ ให้ LPG ที่ผลิตได้จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย จัดสรรให้ภาคครัวเรือนเป็นลำดับแรกด้วยราคาต้นทุนที่แท้จริง บวกกำไรที่เหมาะสมและเป็นธรรมต่อทั้งผู้ผลิตและบริโภค โดยไม่อิงราคาตลาดโลก เสนอราคาเท่ากับภาคขนส่งที่กิโลกรัมละ 21.38 บาท พร้อมเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการที่เข้มงวดป้องกันการลักลอบขายก๊าซ LPG ส่งต่างประเทศ
ยกเลิกโครงสร้างคาน้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปที่อิงราคา สมมติว่านำเข้าจากสิงค์โปร ให้ยกเลิกการเก็บค่าพรีเมี่ยม เช่น ค่าขนส่ง ค่าประกันภัย ค่าความสูญเสียระหว่างการขนส่งจากประเทศสิงคโปร์มาประเทศไทยซึ่งไม่มีจริง และให้รัฐบาลกำหนดราคาจำหน่ายเชื้อเพลิงสำเร็จรูปตามราคาส่งออกจากไทย ซึ่งกำหนดโดยกลไกตลาดโลก และให้บริษัทน้ำมันเผยแพร่รายงานต้นทุนที่แท้จริงของโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซธรรมชาติ
“ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้คือ กิจการพลังงานของประเทศตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ หมายถึง ธุรกิจการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ระบบท่อส่งก๊าซ การขนส่งน้ำมัน ไปจนถึงการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ทั้งน้ำมันสำเร็จรูปและก๊าซ NGV,LPG อยู่ภายใต้การผูกขาดของกลุ่มธุรกิจพลังงานขนาดใหญ่เพียงไม่มี่กลุ่มทีมีอำนาจเหนือตลาดรวมถึงอิทธิพลเหนือกลไกรัฐบาลจนยอมให้มีการกำหนดราคาเชื้อเพลิงเป็นไปตามความต้องการของกลุ่มธุรกิจ อีกทั้งผลประโยชน์ทับซ้อนของข้าราชการและนักการเมืองที่มีตำแหน่งอยู่ในกิจการพลังงานดังกล่าว” นางรสนากล่าว
ชี้‘ประจิน’เทียบรมต.ไม่หวั่นนั่งบอร์ดพลังงาน
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึง กรณีปรากฏชื่อ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้า คสช.ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ นั่งเป็นกรรมการอิสระของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ทางกลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทยกล่าวว่า ภาระกิจของรองหัวหน้า คสช.ตอนนี้เทียบได้กับเท่ารองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ และหากพิจารณาจากในอดีตจะพบว่าไม่ปรากฎรายชื่อรัฐมนตรีหรือรองนายกฯรับตำแหน่งในรัฐวิสาหกิจ กรณีที่เกิดขึ้นทางกลุ่มจึงไม่คิดว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด
ทั้งนี้กลุ่มจับตาปฏิรูปพลังงานไทยยังเสอให้ปรับปรุงโครงสร้างของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ให้มีตัวแทนภาคประชาชนในสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนโดยตรงต่อการกำหนดนโยบายและวางแผนพัฒนาพลังงาน และต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเสนอข้อมูลและแสดงความคิดเห็นในการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองโดยเท่าเทียมกันกับภาครัฐและภาคธุรกิจ อาทิ เรื่องการแยกโครงข่ายท่อส่งก๊าซธรรมชาติมาตั้งเป็นบริษัทใหม่และแปรรูปเป็นเอกชนในตลาดหลักทรัพย์
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ