มติสธ.ให้เลิกใช้‘แร่ใยหิน’ อุตฯยื้อ5ปี-ไม่กำหนดเลิก

4 ส.ค. 2557 | อ่านแล้ว 1347 ครั้ง

วันที่ 3 สิงหาคม เคยูโฮม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินแห่งประเทศไทย จัดประชุมความพร้อมในการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการทำให้สังคมไทยไร้แร่ใยหิน และข้อเสนอต่อ คสช. โดยในที่ประชุม นพ.นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แจ้งว่า ได้ส่งผลสรุปจากกระทรวงสาธารณสุขให้กระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว สนันสนุนให้ยกเลิกแร่ใยหินทันที โดยนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงนามในหนังสือเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ทั้งนี้ผลการประชุมคณะกรรมการศึกษาผลกระทบสุขภาพจากใยหิน ที่มีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2557 ให้ยืนยันยกเลิกการใช้แร่ใยหินในทุกผลิตภัณฑ์ ตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 12 เม.ย.2554 โดยถือเป็นบทบาทหน้าที่ของกระทรวงที่ต้องรับผิดชอบประชาชน ให้มาตรการเป็นไปแนวทางเดียวกับองค์การอนามัยโลก

“ที่สรุปว่าทางเดียวที่จะขจัดโรคที่มาจากใยหินได้คือ การยกเลิกการใช้ทุกชนิด โดยขอให้สำนักควบคุมวัตถุอันตรายของกรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม พิจารณาใยหินเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 และให้ปรับค่ามาตรฐานของฝุ่นใยหินในที่ทำงานให้เหลือ 0.1 เส้นใยต่ออากาศ 1 ลบ.ซม. จากปัจจุบันที่สูงถึง 5 เส้นใยต่ออากาศ 1 ลบ.ซม. สนับสนุนเทคโนโลยีการใช้วัสดุหรือสารทดแทน มาตรการป้องกันการรับสัมผัส ปรับปรุงระบบวินิจฉัย และ ต้องกองทุนผู้ได้รับผลกระทบจากใยหิน ส่วนผู้แทนอุตสาหกรรมคงยืนยันขอยืดเวลาออกไปอีก 5 ปี โดยไม่มีกำหนดว่าจะเริ่มเมื่ิอใด

ด้านนางสมบุญ สีคำดอกแค เครือข่ายรณรงค์ยกเลิกแร่ใยหินแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอชื่นชมกระทรวงสาธารณสุข ที่ทำหน้าที่ในการปกป้องสุขภาพคนไทย ให้พ้นจากอันตรายจากพิษภัยของแร่ใยหิน ซึ่งแตกต่างสิ้นเชิงกับกระทรวงอุตสาหกรรมที่จะยืดอีกห้าปีโดยไม่รู้จะเริ่มเมื่อใด กระทรวงอุตสาหกรรมต้องดำเนินการยกเลิกใยหินโดยด่วน ทั้งนี้ตามที่เครือข่ายได้ไปยื่นเรื่องต่อคสช.นั้น ทางคสช.แจ้งว่าได้ส่งเรื่องนี้ไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมแล้ว ซึ่งเครือข่ายจะไปติดตามอีกครั้งที่กระทรวงอุตสาหกรรมในวันที่ 16 ส.ค. เพราะให้เวลากระทรวงอุตสาหกรรมมานานแล้ว ขอให้เลิกซื้อเวลาให้ธุรกิจใยหินทำร้ายคนไทยอีกต่อไป

ศ.นพ.สุรศักดิ์ บูรณตรีเวทย์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกและองค์การแรงงานระหว่างประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศที่สำคัญมากมายอาทิ ธนาคารโลก คณะกรรมาธิการระหว่างประเทศด้านอาชีวอนามัย สมาคมระบาดวิทยา องค์การเดินเรือทางทะเลระหว่างประเทศ สมาคมหลักประกันทางสังคมระหว่างประเทศ ได้แนะนำให้ยกเลิกการใช้ใยหินทุกประเภท เนื่องจาก เป็นสารก่อมะเร็ง ประเทศไทยมีมติครม.ให้ยกเลิกการนำเข้า การใช้ใยหินทุกชนิด แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่เกิดผล ดังกล่าว ขอชื่นชมกระทรวงสาธารณสุขที่เอาสุขภาพเป็นตัวตั้งให้เลิกใยหินทันที แตกต่างจากกระทรวงอุตสาหกรรม  สังคมจึงต้องร่วมกันติดตามว่าทำไมอุตสาหกรรมถึงล่าช้าและขอเวลาอีก 5 ปี เครือข่ายนักวิชาการพร้อมให้ข้อมูลต่อคสช.หากต้องการ และเห็นว่าขณะนี้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังจับตามองประเทศไทยว่า เหตุใดมีมติครม.แล้ว แต่ยังยื้อเรื่องอยู่ ทั้งนี้จะมีการประชุมเครือข่ายนักวิชาการนานาชาติเพื่อสนับสนุนการยกเลิกใยหินในประเทศไทยในเดือนพ.ย.ปีนี้ที่ประเทศไทย

ติดตามข้อมูลข่าวสารจากแฟนเพจเฟสบุ๊คของ TCIJ

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: