ขาหุ้นสุราษฎร์เข้าชุมพร รุกผ่าเผด็จการพลังงาน

วันชัย พุทธทอง TCIJ 6 ก.ย. 2557 | อ่านแล้ว 1837 ครั้ง

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 6 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจังหวัดสุราษฎร์ธานีประกาศยืนยันเจตนารมณ์เดินเท้าจากอ.เมือง พุนพิน ท่าฉาง ไชยา ท่าชนะ รวมระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตรเพื่อส่งธงให้กับขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจ.ชุมพร ทำหน้าที่เดินต่อเข้าสู่กรุงเทพฯในที่สุด เพื่อผลักดันให้การปฏิรูปพลังงานของประเทศไทยเกิดขึ้น ตามเจตจำนงของประชาชนอย่างแท้จริง หลังจากขาหุ้นปฏิรูปพลังงานทั้ง 8 คน ได้รับอิสรภาพจากการกักขังที่ค่ายวิภาวดีรังสิต ขาหุ้นปฏิรูปพลังงานจ.สุราษฏร์ธานีพร้อมกันออกเดินถนนสายปฏิรูปพลังงานอีกครั้ง แม้แรงกดดันจากกลุ่มผลประโยชน์ด้านพลังงานทั้งน้ำมันและถ่านหินผนวกกับสถานการณ์ทางการเมืองทำให้การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในการจัดการพลังงานยากทวีคูณ แต่ความมุ่งมั่นของประชาชนในฐานะขาหุ้นปฏิรูปพลังงานกลับสวนทาง

นายประวีณ จุลภักดี ขาหุ้นปฏิรูปพลังงานสุราษฎร์ธานีกล่าวว่า พื้นที่จ.สุราษฎร์ธานี เป็นแหล่งเป้าหมายสำคัญในการขุดเจาะปิโตรเลียม ซึ่งพื้นที่บนบกกว่า  4 ล้านไร่ ซึ่งครอบคลุมจ.กระบี่และนครศรีธรรมราชได้อนุมัติให้สัมปทานเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งพื้นที่สัมปทานในทะเลรอบเกาะสมุย พะงัน เต่าและหมู่เกาะอ่างทอง  ผลกระทบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทั้งด้านความมั่นคงทางอาหารและการท่องเที่ยวคือหัวใจหลักที่รัฐต้องคำนึงถึง ทุกวันนี้คำว่า พลังงานหายาก พลังงานหมด กรอกหูประชาชนแบบล้างสมอง ทั้งที่ข้อมูลความจริงไม่เคยถึงมือประชาชนในฐานะเจ้าของทรัพยากรตัวจริง

ส่วนการเดินหน้าผลักดันการปฏิรูปพลังงานของขาหุ้นสุราษฎร์ธานี มาจากการต่อสู้กับระบบสัมปทานปิโตรเลียมมากว่า 5 ปี ทั้งการต่อสู้ในพื้นที่และการฟ้องร้องคดีต่อศาลปกครอง นายอานนท์ วาทะยานนท์ ขาหุ้นปฏิรูปพลังงานสมุย ยืนยันว่า การขุดเจาะปิโตรเลียมตามระบบสัมปทานแบบเดิมก่อให้เกิดความขัดแย้งและการแย่งชิงทรัพยากรจากประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด สิ่งที่ต้องปฏิรูปต่อจากการเปลี่ยนระบบสัมปทานแล้ว รัฐจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดทำการโซนนิ่งพื้นที่พลังงานกับพื้นที่อาหารและท่องเที่ยวออกจากกัน ผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งจากการจัดการพลังงานที่ขาดความเป็นธรรมและไร้ประสิทธิภาพกำลังทำให้ประชาชนและประเทศชาติสูญเสียทางด้านเศรษฐกิจมหาศาล เพราะพื้นที่เหล่านั้นเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพทางการลงทุนทั้งด้านการส่งออกสินค้าประมง เกษตรและท่องเที่ยว สิ่งเหล่านี้คือพื้นฐานความเป็นธรรมที่สอดคล้องกับความเป็นธรรมด้านพลังงานที่รัฐต้องทำความเข้าใจและอย่าเพิกเฉย

ด้านนายประสิทธิชัย หนูนวล ขาหุ้นปฏิรูปพลังงานภาคใต้ กล่าวว่า การเดินเท้าต่ออย่างมั่นคงภายใต้เจตนารมณ์และเจตจำนงอันแน่วแน่ของประชาชน กำลังปลุกให้เจตจำนงของรัฐบาลต้องทบทวนการจัดการพลังงานของประเทศไทยเสียทีทั้งการสูญเสียผลประโยชน์ของชาติจากการใช้ระบบสัมปทานและการผลักดันโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศ ประเทศจำเป็นต้องปฏิรูปพลังงานก่อนการเดินหน้าอนุมัติโครงการด้านพลังงาน ถึงเวลาที่รัฐต้องเปิดเผยข้อมูลและความจริงให้กับประชาชนรับรู้ การปฏิรูปพลังงานจึงเป็นความท้าทายของรัฐบาลยุคนี้ที่จะต้องฝ่าเผด็จการการจัดการพลังงานให้ได้ เพราะที่ผ่านมานักการเมืองและคนที่มีอำนาจล้มเหลวเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

http://www.facebook.com/tcijthai

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: