แนะตั้งศูนย์ข้อมูลต้านโกง เพิ่มดัชนีโปร่งใสประเทศ

สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย 9 เม.ย. 2557 | อ่านแล้ว 1847 ครั้ง

นักวิชาการทีดีอาร์ไอแนะสังคมไทยตื่นตัวและมีแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นที่กระจัดกระจายจำนวนมาก แต่ยังขาดการนำข้อมูลเหล่านั้นมาประมวลและวิเคราะห์อย่างเป็นระบบและยังไม่มีการนำเอาข้อมูลเชิงประจักษ์ไปใช้ในการกำหนดยุทธศาสตร์ในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น เสนอควรมีศูนย์กลางเชื่อมโยงข้อมูลของทุกฝ่าย และมีการพัฒนาดัชนีฐานข้อมูล สถิติของการคอร์รัปชั่นที่เจาะลึกโดยมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องทุกปี ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ชูโมเดลเกาหลีใต้เป็นตัวอย่าง ระบุข้อมูลคืออาวุธที่จะต้านและลดคอร์รัปชั่นได้ในระยะยาว

แนะจัดระบบข้อมูลเอื้อประโยชน์จับทุจริต

รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายชาติและความสัมพันธ์ข้ามชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวว่า ปัจจุบันจะเห็นว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นอยู่มากมาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการจัดทำระบบข้อมูลต้องดูวัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้ อาทิ ในเชิงสาธารณะ ในเชิงนโยบาย และในเชิงวิชาการ แม้ว่าสังคมไทยจะมีความซับซ้อน แต่หากมีการเชื่อมโยงข้อมูลจากศูนย์กลางที่มีการรวบรวมฐานข้อมูลของหน่วยงานแต่ละภาคส่วน จะทำให้สามารถจัดระบบข้อมูลและสถิติของแต่ละหน่วยงานได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น และหากมีการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องทุกปีก็จะสามารถทราบถึงการเปลี่ยนแปลง และแนวโน้มของการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงวิเคราะห์ข้อมูลหรือการนำมาอ้างอิงในเชิงวิชาการ และขับเคลื่อนการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นได้

พบหลายข้อมูลเชื่อมโยงคอร์รัปชั่น เสนอหาผู้เชี่ยวชาญสร้างองค์ความรู้

ดร.มานะ นิมิตมงคล ผู้อำนวยการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) กล่าวว่า องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นคือผู้บริโภคข้อมูลเพื่อนำมาใช้กำหนดยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อน จึงต้องการข้อมูลที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างรอบด้าน และมีข้อสังเกตข้อมูลคอร์รัปชั่นที่มีอยู่ในปัจจุบัน ประการแรก มีข้อมูลหรือดัชนีหลายตัวที่อาจไม่เกี่ยวข้องโดยตรงต่อการทุจริตคอร์รัปชั่นหากแต่สามารถสะท้อนสถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชันได้ เช่น ข้อมูลของสถาบันพระปกเกล้า เมื่อปี 2554 ที่อธิบายเรื่องความพึงพอใจของประชาชนต่อบริการของภาครัฐ ซึ่งเนื้อหาส่วนหนึ่งให้เหตุผลถึงความไม่พึงพอใจของประชาชนในการใช้บริการที่อาจสืบเนื่องมาจากพฤติกรรมที่เป็นการทุจริตคอร์รัปชั่น หรือรายงานของมูลนิธิเพื่อคนไทย ซึ่งอธิบายถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งรวมถึงปัญหาคอร์รัปชั่น นอกจากนี้ยังมีผลการสำรวจไม่เป็นทางการหากสามารถสะท้อนความรุนแรงของปัญหาการคอร์รัปชั่นได้ เช่น ผู้รับเหมาในเมืองไทย 40 เปอร์เซนต์ เกี่ยวข้องกับนักการเมือง หรือกรณีข้าราชการซึ่งมีการสำรวจ ว่ามีข้าราชการสีดำที่มีเป้าหมายในการแสวงหาผลประโยชน์จากการทุจริตคอร์รัปชั่น 30 เปอร์เซนต์ มีข้าราชการที่ดี 20 เปอร์เซนต์ และข้าราชการสีเทาหรือที่เรียกว่า “กินตามน้ำ” 50 เปอร์เซนต์ เป็นต้น

นอกจากนี้ดร.มานะเสนอว่า ควรมีการนำดัชนีคอร์รัปชั่นที่มีอยู่มากมายทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ ทั้งในรูปสถิติ หรือการให้คะแนนต่าง ๆ นั้นมาจัดระบบ มีผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ทำให้เห็นความเชื่อมโยงในแต่ละหมวด ทำให้เกิดองค์ความรู้ที่ชัดเจนสามารถนำไปใช้งานได้ทันที

ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์

ชูโมเดลเกาหลีใต้ ข้อมูลคืออาวุธปราบคอร์รัปชั่น

เช่นเดียวกับ ดร.เดือนเด่น นิคมบริรักษ์ ผู้อำนวยการวิจัย สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย ที่เห็นด้วยกับแนวคิดที่ว่า ควรจะมีการพัฒนาศูนย์กลางในการเก็บรวบรวมดัชนีชี้วัดที่เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่น ทั้งนี้หน่วยงานของรัฐควรมีการเก็บ “สถิติการทุจริตคอร์รัปชั่น (corruption statistics)” เช่นกัน เช่น กระทรวงยุติธรรมเก็บข้อมูลจำนวนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่น และ ลักษณะของพฤติกรรมที่เป็นปัญหา สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเก็บข้อมูลสถิติการซื้อเสียงหรือรับสิ่งของเพื่อแลกกับคะแนนเสียง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเก็บสถิติเกี่ยวกับความพึงพอใจของประชาชนต่อบริการของหน่วยงานท้องถิ่นเป็นต้น

เกาหลีใต้ที่เคยเป็นประเทศที่มีปัญหาคอร์รัปชั่นอันดับต้น ๆ แต่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ เนื่องจากมีกลไกตรวจสอบที่เข้มแข็งจากทุกภาคส่วน และมีการจัดทำดัชนีชี้วัดการทุจริตคอร์รัปชั่นที่หลากหลายทุกปี โดยประเด็นที่ให้ความสำคัญมี 3 ข้อ ได้แก่ 1.การคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นที่จุดไหนบ้าง ซึ่งอาจได้มาจากการประเมินความพึงพอใจในการรับบริการของประชาชน หรือการสำรวจความเห็นเกี่ยวกับระดับและความแพร่หลายของการทุจริตคอร์รัปชั่นของหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ 2.การคอร์รัปชั่นในแต่ละหน่วยงานมีระดับความรุนแรงหรือร้ายแรงแค่ไหน 3.การคอร์รัปชั่นในหน่วยงานนั้น ๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร และอาจจะเพิ่มข้อที่ 4 คือ ผลกระทบของการทุจริตคอร์รัปชั่นดังกล่าวเป็นอย่างไร ซึ่งคำถามเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการติดตามสถานการณ์การทุจริตคอร์รัปชั่น และการออกแบบยุทธศาสตร์ หรือมาตรการในการต่อต้านคอร์รัปชั่นที่ถูกจุด

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: