4 องค์กรออกแถลงการณ์เร่งรัฐตรวจสอบกรณีลอบยิงแกนนำต้านเหมืองแร่ นบพิตำ

9 ธ.ค. 2557 | อ่านแล้ว 2250 ครั้ง

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และศูนย์ข้อมูลชุมชน ออกแถลงการณ์ ขอให้เจ้าพนักงานตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามดำเนินคดีกรณีคุกคามนักต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชน (Human Rights Defenders) กรณีมีคนร้ายลอบยิงนายพิธาน ทองพนัง กรรมการสิ่งแวดล้อมกรุงชิง และแกนนำชาวบ้านในการต่อสู้กรณีเหมืองแร่ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช มีเนื้อหาระบุว่า

ตามที่ปรากฏรายงานข่าวว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 30 พฤศจิกายน 2557 ได้มีคนร้ายลอบยิง นายพิธาน ทองพนัง กรรมการสิ่งแวดล้อมกรุงชิง และแกนนำชาวบ้านในการต่อสู้กรณีเหมืองแร่ ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ในขณะที่เดินทางกลับจากการประสานงานกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่  เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินการทางคดีที่ชาวบ้านร่วมกับคณะอนุกรรมการสิ่งแวดล้อม สภาทนายความ ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราชให้เพิกถอนประทานบัตรเหมืองแร่ดังกล่าว และต่อมาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2557 ยังได้มีเหตุคนรายลอบยิงนายบุญส่ง เกิดเรือง สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล หมู่ 1 ตำบลนบพิตำ เสียชีวิตพร้อมภรรยา ซึ่งเกิดเหตุในพื้นที่เดียวกัน นอกจากนี้  ยังมีรายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2557 เวลากลางวัน ได้มีคนร้ายลอบยิง นายสมสุข เกาะกลาง จนเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย คือ นางสีดา บ่อหนา ภรรยาของผู้ตาย โดยนายสมสุขเป็นแกนนำชาวบ้าน และเป็นนักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิในที่ดินทำกินจากภาครัฐ ที่ผ่านมาได้นำชาวบ้านเข้าอยู่อาศัยและทำกินในสวนปาล์มน้ำมันของบริษัทเอกชน เรียกร้องให้รัฐตรวจสอบการถือครองเอกสารสิทธิของบริษัทเอกชน ในจังหวัดกระบี่

 

 สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (HRLA) และองค์กรดังมีรายชื่อข้างท้าย ขอประณามการกระทำดังกล่าวอันเป็นเหตุให้มีบุคคลเสียชีวิตนี้อย่างถึงที่สุด และเห็นว่า การลอบสังหารดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่มีความยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง หากทบทวนเหตุการณ์ลอบสังหารแกนนำประชาชนที่เรียกร้องสิทธิที่ผ่านมา  จะเห็นได้ว่า  มีประชาชนจำนวนมากที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการกระทำดังกล่าว  ทั้งนี้เพื่อเป็นการข่มขู่ให้ประชาชนยุติข้อเรียกร้องของกลุ่ม  ดังนั้น  จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า  หากคนร้ายยังไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี  ประชาชนที่เหลือที่ยังคงยืนยันต่อสู้เรียกร้องสิทธิของตนเองต่อไป  ย่อมตกเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายแก่ชีวิตได้  สถานการณ์ดังกล่าวเป็นภาวะที่คุกคามและละเมิดสิทธิใน ชีวิต ร่างกาย และเสรีภาพของประชาชน อันเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และเป็นการคุกคามนักปกป้องสิทธิมนุษยชน (Human Rights Defenders) ที่ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อปกป้องสิทธิในสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ สุขภาพ และสิทธิชุมชน

เพื่อปกป้องคุ้มครองการใช้สิทธิเสรีภาพและสิทธิทางศาลของประชาชน และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (HRLA)  และองค์กรดังมีรายชื่อข้างท้าย จึงมีข้อเรียกร้องดังนี้       

1. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าพนักงานตำรวจสถานีตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชและสถานีตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม  และสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตามกฎหมายให้ถึงที่สุด  โดยรอบคอบ  รวดเร็ว  เพื่อไม่ให้เกิดภาวะลอยนวลและทำซ้ำจนกลายเป็นวัฒนธรรมการใช้อำนาจนอกกฎหมาย

2. ให้เจ้าพนักงานตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการและดำเนินการเพื่อปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยของชุมชนและนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ข่มขู่คุกคาม ตลอดจนใช้ความรุนแรงและอำนาจเถื่อนกับประชาชนจนบาดเจ็บและถึงแก่ชีวิต อันเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนโดยไม่ยำเกรงต่อกฎหมายเช่นนี้ซ้ำอีก

 3. ให้รัฐบาลและหน่วยงานด้านการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องเยียวยาประชาชนผู้ได้รับความเสียหาย  และกำหนดให้มีกลไกมาตรการการคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน (Human Rights Defenders) อย่างเป็นระบบ

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: