เครือข่าย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขงออกแถลงการณ์ค้านกรมน้ำดอดคุยลาวสร้างเขื่อนดอนสะโฮง

13 พ.ย. 2557


เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ที่จ.อุดรธานี เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง และผู้ฟ้องคดีเขื่อนไซยะบุรีซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองพร้อมทั้งทีมทนายความ ได้เปิดโต๊ะแถลงข่าว กรณีเขื่อนดอนสะโฮง แสดงจุดยืนขอมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการสร้างเขื่อนดังกล่าว เนื่องจากกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในพื้นที่ โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีเนื้อหาดังนี้

แถลงการณ์เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง จุดยืนต่อกระบวนการปรึกษาหารือโครงการเขื่อนดอนสะโฮง

 12 พฤศจิกายน 2557

ตามที่รัฐบาล สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้ประกาศที่จะดำเนิน โครงการเขื่อนดอนสะโฮง แขวงจำปาสัก ทางตอนใต้ของ สปป.ลาว ซึ่งจะเป็นเขื่อนแห่งที่ 2 บนแม่น้ำโขงตอนล่าง  และได้นำโครงการนี้เข้าสู่ กระบวน PNPCA ซึ่งจะต้องมีการดำเนินกระบวนปรึกษาหารือล่วงหน้า (Prior Consultation) ในแต่ละประเทศ ตามข้อตกลงแม่น้ำโขง พ.ศ.2538 ซึ่งได้กำหนดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน ซึ่งต่อมา คณะกรรมการร่วม 4 ประเทศ ได้ตกลงเริ่มกระบวนการฯ ในปลายเดือนกันยายนและจะสิ้นสุดระยะเวลา 6 เดือนในเดือนมกราคม 2558

ขณะนี้ ทางกรมทรัพยากรน้ำ ในฐานะสำนักงานเลขาธิการแม่น้ำโขงของประเทศไทย กำลังเดินหน้าจัดเวทีปรึกษาหารือล่วงหน้ากรณีเขื่อนดอนสะโฮง ในวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่จ.อุบลราชธานี และวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ จ.นครพนม และเหลืออีก 4 เวทีซึ่งยังไม่ระบุรายละเอียด

แม้ว่าเครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ได้เคยมีจดหมายไปยังกรมทรัพยากรน้ำและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาแล้วมากกว่า 3 ครั้ง รวมไปถึงการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างรองอธิบกรมทรัพยากร น้ำและตัวแทนเครือข่ายฯ เมื่อวันที่ 27 กันยายน ณ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ผลปรากฏว่า จนถึงปัจจุบันทางเครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขงยังไม่เคยได้รับการตอบกลับใดๆ ทั้งอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ และไม่ได้รับเชิญใดๆ ทั้งที่พวกเรา คือ “ผู้ที่กำลังจะได้รับความเดือดร้อนโดยตรงจากโครงการเขื่อนบนแม่น้ำโขงสาย หลักแห่งนี้และอีก 9 แห่ง”

พวกเรามีมีความกังวลใจเป็นอย่างยิ่งกับกระบวนการและ วิธีการที่กรมทรัพยากรน้ำกำลังดำเนินการสำหรับกรณีเขื่อนดอนสะโฮง  ที่กำลังจะซ้ำรอยและแย่ ยิ่งกว่ากรณีเขื่อนไซยะบุรี เมื่อปี 2554  โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งการเปลี่ยนความหมายของคำว่า “Prior Consultation” เป็นการ “ให้ข้อมูล” ไม่ใช่เป็นการ “ปรึกษาหารือ”  เป็นการกีดกันเสียงของ ประชาชนผู้ที่จะได้รับผลกระทบ ทำให้ไม่มีความหมาย และไม่มีสิทธิอันใดในฐานะประชาชนลุ่มน้ำโขงเลย

ข้อเรียกร้องต่างๆ ที่ทางเครือข่ายฯ ได้เคยเสนอไป เช่น การจัดเวทีรับฟังประชาชนริมน้ำโขงให้ครบทุกพื้นที่ การแปลเอกสารรายงานต่างๆ และเผยแพร่ให้ผู้เข้าร่วมได้อ่านก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน รวมไปถึงให้เจ้าของโครงการได้เข้าร่วมชี้แจงร่วมกับตัวแทนสำนัก งานเลขาธิการแม่น้ำโขง และกรมทรัพยากรน้ำ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับใดๆ

กระบวนการที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้ ถือว่าทำให้กระบวนการ PNPCA ตามข้อตกลงแม่น้ำโขง ปี 2538 (Mekong Agreement 1995) มีมาตรฐานตกต่ำลงไปอีก 

พวกเราสิ้นหวังต่อกรมทรัพยากรน้ำในฐานะหน่วยงานรัฐตัว แทนรัฐบาลไทย ที่ไม่ได้ทำหน้าที่ในการที่จะปกป้องสิทธิของประชาชนชาวไทยผู้ที่ จะได้รับผลกระทบจากโครงการสร้างเขื่อนดอนสะโฮง  และโดยเฉพาะการกีดกัน ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำโขงให้ไม่สามารถเข้าร่วม ไม่สามารถแม้แต่จะได้รับเชิญ สิ่งนี้เป็นการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และขัดต่อหลักกฎหมายสากล

ดังนั้น พวกเราจึงขอให้กรมทรัพยากรน้ำ ยุติกระบวนการทั้งหมดของกระบวนการโครงการสร้างเขื่อนดอนสะโฮง และร่วมกันวางแผนกระบวนการให้ถูกต้อง ครอบคลุม และมีมาตรการที่จะทำให้มั่นใจว่าผู้ที่จะเดือดร้อนจะสามารถเข้า ร่วมกระบวนการได้ และนำไปสู่การตัดสินใจที่รับผิดชอบต่อประชาชนในลุ่มน้ำโขงอย่าง แท้จริง

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

http://www.facebook.com/tcijthai

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: