‘หญิงรักหญิง’ตปท.ท้องสูงกว่าต่างเพศ ห่วงไทยซุกปัญหาทำเด็กตกในภาวะเสี่ยง

กฤษฎา ศุภวรรธนะกุล TCIJ 15 ก.ย. 2557 | อ่านแล้ว 6142 ครั้ง

ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งในต่างประเทศ ระบุว่า วัยรุ่นหญิงที่เป็นเลสเบี้ยนหรือหญิงรักหญิงและไบเซ็กชวล มีอัตราการท้องในวัยรุ่นสูงกว่าผู้หญิงรักต่างเพศ 2-7 เท่า

ความคิดแรกที่ผุดขึ้นหลังจากรับรู้ข้อมูลนี้คงเป็นคำถาม-หญิงรักหญิงแล้วตั้งครรภ์ได้อย่างไร ข้อกังขาข้างต้นเกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่นำไปสู่การตีกรอบทางความคิดเกี่ยวเพศวิถีของผู้คนในสังคมที่มีความหลากหลายซับซ้อนมากขึ้น อีกประการหนึ่ง เมื่อนำข้อมูลข้างต้นมาตีแผ่จะเห็นอคติ การไม่ยอมรับ และความรุนแรงที่แฝงฝังหลบซ่อน ซึ่งนำมาสู่การตั้งครรภ์ไม่พร้อมในกลุ่มวัยรุ่นหญิงรักหญิง

วัยรุ่นหญิงรักหญิงแคนาดาท้องไม่พร้อม 2-7 เท่า

ศรัทธารา หัตถีรัตน์ จากกลุ่มโรงน้ำชา กล่าวว่า ยังไม่มีงานศึกษาวิจัยเกี่ยวกับหญิงรักหญิงในประเทศไทยเลย ข้อมูลการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่นหญิงรักหญิง ในระดับชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลาย เป็นการศึกษาในประเทศแคนาดา ที่มีการศึกษาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2535, 2541 และ 2546 ในวัยรุ่น 30,000 คน ในบริติชโคลัมเบีย

จากการสอบถามกลุ่มตัวอย่างพบว่า ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา วัยรุ่นหญิงรักหญิงมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม ร้อยละ 15 มีเพศสัมพันธ์กับทั้งสองเพศ ร้อยละ 56 และมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันร้อยละ 29 ขณะที่ผู้หญิงไบเซ็กชวล (ในที่นี้หมายถึงมีเพศสัมพันธ์ได้มากกว่าหนึ่งเพศ) มีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม ร้อยละ 62 มีเพศสัมพันธ์กับทั้งสองเพศ ร้อยละ 33 และมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน ร้อยละ 5

ข้อมูลนี้รื้อกรอบความเชื่อที่ว่า หญิงรักหญิงต้องมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นความจริง และคงช่วยตอบคำถามได้ว่าเหตุใดจึงตั้งครรภ์ แต่นี่ก็ยังไม่ใช่สาเหตุรากฐานเสียทีเดียว

จากการวิเคราะห์ผลของงานศึกษาที่ว่า รากฐานปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมของวัยรุ่นหญิงรักหญิงและไบเซ็กชวล พบว่า วัยรุ่นกลุ่มนี้ที่ถูกปฏิเสธจากครอบครัว จนเกิดความเครียดซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยง ทำให้มีโอกาสมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันมากกว่าเดิม 3.4 เท่า และยังพบอีกว่า กลุ่มวัยรุ่นหญิงเลสเบี้ยนและไบเซ็กชวลที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมนี้มีแนวโน้มเคยเผชิญกับการเลือกปฏิบัติในช่วงปีทีผ่านมา

และเมื่อดูแนวโน้มตั้งแต่ 2535-2546 จะเห็นได้ว่า การละเมิดทางร่างกายและทางเพศในกลุ่มหญิงรักหญิงและไบเซ็กชวลมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งมีความเสี่ยงที่จะข้องเกี่ยวกับยาเสพติด เหล้า หรือต้องเผชิญแรงกดดัน ความโศกเศร้า ความสิ้นหวัง และมีความพยายามฆ่าตัวตายมากกว่า

ขอบคุณภาพจาก www.chilwellroadmethodist.org.uk

วัยรุ่นหญิงรักหญิงไทยเผชิญปัญหาหลากหลาย

งานศึกษาข้างต้นแม้จะเป็นการศึกษาในต่างประเทศที่มีบริบทแตกต่างจากประเทศไทย แต่น่าจะพอสันนิษฐานได้ถึงแรงกดดัน อคติ และการขาดข้อมูลความรู้ที่คล้ายคลึงกันกับในสังคมไทย ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบที่เกิดกับหญิงรักหญิงในหลายด้าน โดยเฉพาะการตั้งครรภ์ไม่พร้อม

สนธญา ห้วยหงษ์ทอง โครงการหญิงรักหญิง สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย เล่าถึงกรณีที่มีวัยรุ่นหญิงรักหญิงติดต่อเข้ามาขอคำปรึกษากับทางโครงการ ว่า กรณีของเด็กหญิงวัย 14 ที่รู้สึกชอบและมีความสุขยามอยู่ใกล้ชิดเพศเดียวกัน แต่ก็มีความลังเล สงสัย และไม่ชัดเจนในอัตลักษณ์ทางเพศของตน จึงไปปรึกษากับเพื่อนชายที่สนิทสนม เพื่อนชายคนดังกล่าวแนะนำให้มีเพศสัมพันธ์กับตน ภายหลังเหตุการณ์นั้น ฝ่ายหญิงก็เกิดความวิตกกังวลว่าตนจะท้องหรือติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

กรณีทอมรายหนึ่งมีเพื่อนสนิทเป็นกลุ่มผู้ชาย วันหนึ่งกินเหล้ากับกลุ่มเพื่อนชายและได้ทดลงกินยาตัวหนึ่งที่เพื่อนชายนำมา เมื่อกินเข้าไปแล้วรู้สึกมึน จนนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์และตั้งครรภ์ในที่สุด

อีกกรณีที่โทรศัพท์เข้าไปยังโครงการฯ ระบุว่า เป็นเลสเบี้ยนและชอบการมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงมากกว่า ขณะเดียวกันก็มีความอยากรู้อยากเห็นว่าการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายจะรู้สึกแตกต่างอย่างไร

สุดท้าย เป็นกรณีที่พ่อแม่กีดกันลูกสาวตนเองไม่ให้คบหากับทอมรายหนึ่ง เด็กผู้หญิงคนนี้จึงคบหาผู้ชายเพื่อให้พ่อแม่ยอมรับและแอบคบทอมอย่างลับ ปรากฏว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายข้างต้น โดยฝ่ายผู้ชายไม่ยอมรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น

ขอบคุณภาพจาก board.postjung.com

ผู้ใหญ่ไม่ยอมรับเสี่ยงท้องไม่พร้อม-ความรุนแรงถูกซุก

สนธญาอธิบายว่า ทั้ง 4 กรณีข้างต้นได้เผยให้เห็นลักษณะบางอย่างเกี่ยวกับสังคมไทยต่อเพศวิถีที่แตกต่าง ประการแรกคือ กลุ่มวัยรุ่นหญิงรักหญิงไทยยังขาดข้อมูลและความรู้ในการป้องกันตัวเอง รวมถึงทักษะการปฏิเสธและการต่อรอง สอง-ไม่มีชุดความรู้และคำตอบให้แก่เพศวิถีที่แตกต่าง ผลักให้วัยรุ่นกลุ่มนี้ต้องเสาะแสวงหาคำตอบด้วยตนเอง และประการสุดท้าย-พ่อ แม่ ครู และผู้ใหญ่ขาดความเข้าใจและไม่เปิดรับ ทำให้เด็กที่มีความหลากหลายทางเพศไม่กล้าขอคำปรึกษาในสิ่งที่ตนต้องเผชิญอยู่ ซึ่งนำไปสู่การตั้งครรภ์ไม่พร้อมและปัญหาด้านสุขภาวะ

      “ถามว่าทำไมต้องเอาตัวเองเข้าไปเรียนรู้ เพราะเขาอยากหาคำตอบจากสิ่งที่เขาไม่เคยได้จากผู้ใหญ่ มันทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวตรงนี้อันตรายมาก เพราะการเอาตัวเองเป็นเครื่องมือของการเรียนรู้ โดยไม่มีชุดทักษะย่อมมีความเสี่ยง”

จากจำนวนการขอคำปรึกษาที่เข้ามายังสมาคมฟ้าสีรุ้งฯ กรณีที่เป็นหญิงรักหญิงมีน้อยกว่ากลุ่มชายรักชายประมาณ 3 เท่า โดยเรื่องที่โทรมาขอคำปรึกษามักเป็นเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพและความรัก รวมถึงความรู้สึกโดดเดี่ยวที่เกิดขึ้นจากการที่ไม่ได้รับการยอมรับ

ส่วนกรณีที่เป็นการกระทำรุนแรงนั้นมี 2 กรณีและได้ถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว อย่างไรก็ตาม สนธญากล่าวว่า ความรุนแรงทั้งทางเพศและต่อร่างกายที่หญิงรักหญิงถูกกระทำนั้นน่าจะมีอยู่เป็นจำนวนมาก เพียงแต่ถูกซุกซ่อนอยู่ เหตุผลหนึ่งคือตัวเหยื่อที่ถูกกระทำมักเลือกไม่ดำเนินคดี เพราะไม่ต้องการถูกกระทำซ้ำจากกระบวนการทางกฎหมาย

ปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมจึงไม่ได้เกิดเฉพาะในกลุ่มคนที่รักเพศตรงข้ามเท่านั้น ในกลุ่มหญิงรักหญิงเองก็กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่อย่างเงียบๆ อันเนื่องจากการตีกรอบ การไม่ยอมรับ และการขาดองค์ความรู้ด้านสุขภาวะทางเพศของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศในสังคมไทย

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

http://www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: