เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม กรุงเทพธุรกิจรายงานว่า ในการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาร่างพ.ร.บ.วิชาชีพเภสัชกรรม ตามที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ทั้งนี้ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้มีสาระสำคัญ คือ การเพิ่มเติมนิยามคำว่า “วิชาชีพเภสัชกรรม” ให้มีความหมายครอบคลุมถึงการกระทำในการเตรียมยา การผลิตยา การเลือกสรรยา การควบคุมและการประกันคุณภาพยา การปรุงและการจ่ายยาตามใบสั่งยาของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม ผู้ประกอบการวิชาชีพสัตวแพทย์ และผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุขตามที่กฎหมายว่าด้วยวิชาชีพนั้นๆ กำหนด รวมทั้งการร่วมกับผู้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์และสาธารณสุขในการค้นหา ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้ยา
นอกจากนี้ยังกำหนดให้การขึ้นทะเบียน การออกใบอนุญาต การต่อใบอนุญาต การออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมสาขาต่าง ๆ และหนังสือแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพเภสัชกรรม ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาเภสัชกรรม โดยให้ใบอนุญาตมีอายุ 5 ปี นับแต่วันที่ออกใบอนุญาต
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสนช.อภิปรายว่า กฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่ดี เพราะจะเป็นการให้ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมต้องต่ออายุของใบอนุญาต จากเดิมที่ไม่ต้องต่ออายุใบอนุญาต อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่าเงื่อนไขของการจะให้ใบอนุญาตของใครได้รับการต่ออายุ จะต้องมีอะไรบ้าง เช่น จะต้องมีสอบหรือไม่ เป็นต้น
ด้านภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม ชี้แจงว่า การต่ออายุให้กับใบอนุญาตจะใช้ระบบการศึกษาต่อเนื่องเป็นหลัก โดยไม่จำเป็นต้องจัดให้มีการสอบก่อน แต่ยกเว้นเฉพาะที่ขอใบอนุญาตใหม่
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ 178 เสียงรับหลักการในวาระที่ 1 ของร่างพ.ร.บ.วิชาชีพเภสัชกรรม พร้อมกับตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญจำนวน 15 คนเพื่อพิจารณาในรายละเอียดโดยมีกรอบระยะเวลาในการพิจารณา 30 วัน
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ