เว็บไซต์คนชายข่าวคนชายขอบ (http://transbordernews.in.th) รายงานว่า เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา ที่บริเวณริมแม่น้ำกกบ้านแคววัวดำ อ.เมือง จ.เชียงราย ชาวบ้านชุมชนลุ่มน้ำกก สมาคมสร้างสรรค์ชีวิตและสิ่งแวดล้อม(ACED) ผู้แทนส่วนราชการและผู้นำชุมชนท้องถิ่น ได้ร่วมกันจัดพิธีสืบชะตาแม่น้ำกกตอนบน ซึ่งมีชาวบ้านหลากหลายชาติพันธุ์มาร่วมงานกว่า 100 คน โดยมีนายวิทยา มะสะ นักวิชาการจากสำนักงานประมงจังหวัดเป็นประธานเปิดงาน และมีนางเตือนใจ ดีเทศน์ ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา หมายเลข 1 จังหวัดเชียงราย มาร่วมด้วย

นายเทวิน อัครศิลาชัย ผู้อำนวยการ ACED กล่าวว่าแม่น้ำกกถือว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ของชาวเชียงราย ซึ่งสมัยก่อนมีความอุดมสมบูรณ์มากโดยมีพันธุ์ปลานานาชนิด แต่วันนี้ต้องมาจัดงานเพราะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายคือเมื่อฝนตกก็เกิดน้ำท่วมรุนแรง แต่พอหน้าแล้งก็แล้งอย่างหนัก แถมล่าสุดยังมีโครงการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำกกขึ้นในเขตรัฐฉาน ประเทศพม่า ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทยที่บ้านแม่อาย จ.เชียงใหม่ เพียง 30 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากบ้านแคววัวดำราว 70 กิโลเมตร แม้โครงการนี้จะเพิ่งริเริ่ม แต่ได้มีการนำเครื่องจักรกลเข้าไปในพื้นที่แล้ว ดังนั้นจึงต้องมีพิธีสืบชะตาเพื่อให้แม่น้ำกกอยู่ตลอดไป

“เขื่อนถือว่าเป็นมหันตภัยของชาวบ้านและแม่น้ำ ดังนั้นการจัดพิธีสืบชะตาครั้งนี้เพราะต้องการให้สังคมและรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไทยหรือรัฐบาลพม่ารับรู้ว่าชาวบ้านรู้สึกหวงแหนแม่น้ำกกอย่างจริงจัง ผมเชื่อว่าภายใน 1-2 ปีนี้ พวกเราต้องเผชิญกับกับปัญหาผลกระทบเขื่อนแน่นอน” นายเทวิน กล่าว และว่าในวันที่ 2 เมษายนจะมีการจัดพิธีสืบชะตาแม่น้ำกกอีกขึ้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โดยจะมีการทำหนังสือเปิดผนึกถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้ประสานไปยังรัฐบาลพม่าว่า ชุมชนไม่เห็นด้วยกับการสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำกก และขณะนี้ชาวบ้านรู้สึกกังวลใจกันมาก

นายวิทยา มะสะ นักวิชาการจากสำนักงานประมงจังหวัดเชียงรายกล่าวว่า แม่น้ำกกไม่ใช่ใครจะเป็นเจ้าของ แต่เป็นแม่น้ำของทุกคน แม้ขณะนี้ชาวเมืองเชียงรายจะยังไม่รู้สึกอะไรกับการสร้างเขื่อน แต่ทุกวันนี้น้ำประปาที่ประชาชนอำเภอเมืองเชียงรายใช้กันก็นำมาจากแม่น้ำกก ดังนั้นคนในเมืองต้องได้รับผลกระทบแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อมีการสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำกกตอนบน ทางออกหนึ่งในการดูแลแม่น้ำกกคือต้องขยายแนวความคิดอนุรักษ์แม่น้ำเหมือนที่ทำกันในวันนี้

อนึ่ง แม่น้ำกกมีความยาว 285 กิโลเมตร มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาทางตอนเหนือของเมืองกก ในเมืองเชียงตุง เขตรัฐฉาน ประเทศพม่า โดยไหลผ่านเมืองกกและเมืองสาด ก่อนเข้าประเทศไทยที่ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นไหลผ่านจังหวัดเชียงรายผ่าน 677 หมู่บ้านก่อนไหลลงแม่น้ำโขงที่อำเภอเชียงแสน

สำหรับโครงการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำกกครั้งนี้อยู่ในเขตพื้นที่ของกลุ่มกองทัพว้า(UWSR) บริเวณดอยโป่งตอง อำเภอเมืองสาด เขตรัฐฉาน โดยสร้างเป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ออกแบบโดยวิศวกรชาวจีน ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี(2556-2560) ใช้เงินลงทุนประมาณ 400-500 ล้านบาท

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

http://www.facebook.com/tcijthai