เปิดคำเจรจา‘เสธ.มทบ.42-นพ.สุภัทร’ ก่อนคุมตัว11แกนนำขาหุ้นฯ-ห้ามเข้ากรุง

วันชัย พุทธทอง TCIJ 21 ส.ค. 2557 | อ่านแล้ว 2601 ครั้ง

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือน เข้าเจรจากับคณะเดินเท้า “ขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน” บริเวณปั๊มน้ำมันทีพี สาขารัตภูมิ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เพื่อให้ขาหุ้นที่ประกาศเดินเท้าไปกรุงเทพมหานคร เพื่อรณรงค์การปฏิรูปพลังงานขอให้หยุดเดิน โดยอ้างว่า เป็นการผิดกฏหมาย แต่ทางเครือข่ายขาหุ้นปฏิรูปพลังงานยืนยันว่าทำตามรัฐธรรมนูญ ปรากฏว่า การเจรจาไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 42 (มทบ.42) ค่ายเสนาณรงค์ จึงนำรถบัส พร้อมด้วยกำลังควบคุมตัวแกนนำจำนวน 11 คน ขึ้นรถบัส ไปควบคุมตัวที่ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประกอบด้วย นายเชภาดร จันทร์หอม นายวิสุทธิ์ ทองย้อย นายศักดิ์กมล แสงดารา นายประสิทธิชัย หนูนวล นายอนุพล คงเอียด นายสิทธิพงศ์ สังข์เศรษฐ์ น.ส.วิลัยพร โกไสยกานนท์ ว่าที่ร.ต.พร้อมศักดิ์ จิตจำ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ น.ส.กรรณิกา แพรแก้ว และนายเอกสิทธิ์ เบญจสุตะณรงค์

พ.อ.วรพน วรพันธ์วรพันธ์ เสนาธิการมทบ.42 กำลังเจรจากับนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา (เสื้อขาว) ซึ่งร่วมเดินรณรงค์ด้วย

อย่างไรก็ตามก่อนหน้าที่จะควบคุมตัว พ.อ.วรพน วรพันธ์วรพันธ์ เสนาธิการมทบ.42 ได้เจรจากับนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ จ.สงขลา ซึ่งร่วมเดินเท้าครั้งนี้ด้วย โดยมีรายละเอียดดังนี้

พ.อ.วรพนกล่าวว่า การที่สร้างสภาปฏิรูปขึ้นมาก็เพื่อให้ทุกคนเข้าสู่สภาปฏิรูป สภานิติบัญญัติแห่งชาติกำลังจะแก้กฎหมายในเรื่องต่าง ๆ เพื่อเข้าสู่ระบบพวกนี้ แต่ถ้าเราไปทำในลักษณะแบบนี้ ผลที่เกิดขึ้นมันจะกลายเป็นศูนย์

นพ.สุภัทรกล่าวว่า ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ ผมเดินแบบสุภาพ

พ.อ.วรพนกล่าวว่า อยากบอกหมอให้เข้าใจว่า ตอนนี้มันป็นกฎอัยการศึกอยู่ หมอจะเขียนป้ายบอกว่าผมทำถูกต้องกับกฎอัยการศึก แต่ตอนนี้ยังมีกฎอัยการศึกอยู่เขาห้าม ไม่ว่าจะกรณีใดใดก็ห้ามเรียกร้องอะไรทั้งสิ้นไม่ว่าจะถูกหรือจะผิด และมันจะมีผลต่อตัวหมอเอง หมอก็รู้ว่าที่พวกผมทำมันไม่ได้มีประโยชน์ต่อตัวผมเอง แต่ต้องการให้ประเทศชาติสงบสุข ตอนนี้หมอรู้มั้ยว่า บรรยากาศหาดใหญ่มันเริ่มดีขึ้นมาแล้ว แต่ถ้าเรามาทำอย่างนี้ น้องเขามาเดิน น้องเขาไม่เข้าใจก็ต้องมาเดินเรียกร้อง คิดว่าที่เราต่อสู้อยู่มันถูกต้องแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้น จะทำให้ภาพที่เกิดขึ้นขยายออกไปจะทำให้คนที่มาเที่ยว เขาไม่มาแล้ว เข้าใจมั้ยครับที่ทำอยู่ ถ้าเข้าใจแล้วทำไมถึงทำอีก ผมขอร้องให้เข้าไปสู่ระบบที่ถูกต้องได้ไหม กฎอัยการศึกที่ประกาศอยู่ตอนนี้เขายังไม่ยกเลิกประกาศและคำสั่งในการปฏิบัติ พวกผมมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบเป็นเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ ถ้าพวกไม่ยอมที่จะดำเนินการทำอย่างใดอย่างหนึ่งและปล่อยให้พวกคุณเดินไปอยู่อย่างนี้ พวกผมมีความผิด

นายประสิทธิชัยกล่าวว่า ผมขอถามพวกพี่อย่างหนึ่งคือ สาระของกฏอัยการศึกคืออะไร

พ.อ.วรพนกล่าวว่า สาระของกฏอัยการศึกนะครับ เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยของคนในประเทศ และเข้าสู่ระบบที่จะจัดระเบียบในประเทศโดยใช้ช่องทางกฎหมายที่ถูกต้อง ผมไม่ใช้อำนาจมาบอกคุณ แต่ผมดำเนินการตามกฎหมายและประกาศของคสช.ที่มีอยู่ทั้งหมด นั่นคือกฎหมายที่ลงมาถึงพวกผม และพวกผมต้องนำเอาไปปฏิบัติ ตอนนี้น้อง ๆ ทั้งหมดกำลังทำให้พวกผมลำบากใจในการปฏิบัติงาน ผมไม่อยากทำหรอกก็เป็นประชาชนที่เห็นๆ กันอยู่ พี่น้องกันทั้งนั้น ผมก็เลยเรียกไปคุยกันหลาย ๆ คนแล้ว ตอนนี้ก็หยุด ๆ แกนนำหลาย ๆ แบบ จะอะไรก็แล้วแต่ เขามีช่องทางให้ได้ส่ง สภาปฏิรูปก็มีแล้วคุณหาช่องทางไปส่งได้มั้ย ถ้าไม่ได้ก็มาส่งที่ผมเนี่ย ผมเป็นตัวกลางส่งผ่านได้ทั้งหมด ทำไมต้องเดินผมไม่เข้าใจ ผมถามหน่อยว่าทำไมถึงต้องเดิน? เดินเพื่อให้เกิดอะไรขึ้นมา?

นายประสิทธิกล่าวว่า ที่จริงเราพูดกันหลายรอบนะครับ ช่วงกฎอัยการศึกมีการประชุมกันทั่วประเทศ

พ.อ.วรพนกล่าวว่า ไม่ใช่ น้องทำไม่ถูกต้อง ถ้าน้องทำไม่ถูกต้อง ต้องเข้าระบบราชการให้ถูกต้อง น้องต้องไปเปิดเวทีประชาคม เรียกผู้ว่าราชการจังหวัดมานั่งคุย น้องควบคุมหรือดำเนินการเองมันผิด น้องเข้าใจหรือเปล่าว่ามันผิด น้องไม่เข้าไปสู่สภาปฏิรูป สภาปฏิรูปเขาไม่จำกัดนะ น้องต้องเข้าใจว่าสภาปฏิรูปเขาไม่จำกัด ทุกเพศ ทุกวัย สถานะอะไรเขาไม่สนใจ คุณไปสมัคร

นายประสิทธิชัยกล่าวว่า มาดูความจริงนิดนึงครับ กลไกของการได้มาซึ่งกรรมการปฏิรูป 1.มี 5 คนในจังหวัดคัดเลือกมา ถ้าอย่างนั้นถ้าหากพี่จะยุติธรรมพี่ต้องไปสืบแต่ละจังหวัดนะครับ ว่าเขามีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบหรือไม่

พ.อ.วรพนกล่าวว่า ก็นี่ไง ผมถึงบอกว่า ผมมีความยุติธรรมให้กับทุกคนอยู่แล้ว แต่เพียงแต่วิธีการทำของน้องมันผิด เข้าใจมั้ย ในปัจจุบันมีประกาศและคำสั่งที่เขาสั่งลงมาเนี่ย การชุมนุมเนี่ยผิด ถ้าน้องเข้าไปบอกขอพบผู้ว่าฯ ผมขออนุญาตท่านผู้ว่าฯครับ ผมมาร้องเรียนเรื่องนี้ ขออนุญาตตั้งและนั่งคุยให้จบ และผมขอเสนอเรื่องนี้เข้าสู่สภาปฏิรูป เข้าสู่คสช.เนี่ยไม่ผิด น้องเข้าใจมั้ยว่ามันไม่ผิด แต่อย่างนี้มันผิด แล้วน้องทำเนี่ย ให้พวกนี้มามีความผิดด้วยเนี่ย น้องทำถูกมั้ย น้องลองคิดสิ น้องคิดถึงตัวน้องเองก่อนว่าน้องทำถูกมั้ย ถ้าน้องเข้าสู่ระบบสภาปฏิรูป น้องเอาพวกนี้ไปนั่งคุยกับพวกพี่ ไปนั่งคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัด พี่ไม่ว่าเลย แล้วก็ตั้งเวทีขึ้นมา หมอก็ได้ หมอเป็นตัวหลัก หมอเนี่ยเรียนสูงขนาดนี้แล้ว หมอน่าจะรู้ดีว่าควรจะทำยังไง ผมขอร้องพี่ ๆ น้อง ๆ เราได้มั้ยครับ ว่าตอนนี้หยุดแค่นี้ก่อน ผมไม่อยากจะทำอะไรที่มันเกินเลยไป หรือใช้อำนาจมากไป จบแค่นี้ แล้วเดี๋ยวเราไปนั่งคุยกันได้มั้ย เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดมาแล้วมานั่งคุยกันนะครับ แล้วก็ส่งให้เป็นเรื่องเป็นราวออกทีวีไปให้ทั่วเลย พวกเราต้องการแบบนี้แล้วก็ส่งไปเลย ไม่ใช่มาเดินแบบนี้ มันไม่ได้อะไรขึ้นมา แล้วภาพมันออกมารู้มั้ยว่าตอนนี้เขาจะไม่มาเที่ยวกันอยู่แล้ว ถ้าภาพนี้มันออกไปก็คงไม่มีใครเที่ยวอีกเลย หาดใหญ่ของเราจะเกิดความปั่นป่วน แล้วที่ทำมาก็หมดความหมาย ศูนย์กันไปหมด เขากำลังเข้าระบบให้อยู่แล้ว ไปเรียกร้องกับทางทหารในทางที่ถูกต้องซะ ผมคิดว่าไม่มีใครหรอกที่ไม่ยอมรับ ผมยังยอมรับ แต่ผมเพียงแต่ขอให้เข้าทางที่ถูกต้องเท่านั้นเอง หยุดแค่นี้แล้วเดี๋ยวไปคุยกับผู้ว่าฯก็ได้ เดี๋ยวผมพาไป ไปนั่งคุยกัน เดี๋ยวนี้ เดี๋ยวจะให้รถมารับ

เอาเป็นว่าที่ผ่านมา พี่ๆน้องๆทุกคนหยุดตรงนี้ก่อน เพราะผมเนี่ยไม่อยากจะใช้ในส่วนของกฏหมายซึ่งมันจะบังคับใช้แน่นอน ตอนนี้ผมพยายามหยุด ผมบอกอย่าบังคับใช้พี่ๆน้องๆเราคุยกันก่อน ขอให้หยุดแค่นี้ก่อนเดี๋ยวผมจะหาช่องทางให้มันถูกต้อง โดยพวกผมเป็นตัวผ่านและผลักดันไปให้เอามั้ยครับ

นพ.สุภัทรกล่าวว่า เรื่องผลประโยชน์นี้คงเคลียร์นะ ว่าต่างฝ่ายต่างไม่มีผลประโยชน์ต่อกัน เข้าใจเจตนารมณ์ที่ชัดเจน แต่วิธีคนละวิธีกัน พี่ต้องรักษากฎหมาย พวกผมก็รักษาทัศนความคิด จุดยืน ต่างคนต่างทำหน้าที่ซึ่งกันและกัน เราเตรียมการ เตรียมพร้อม เราเดินด้วยใจ เราไม่มีทัศนว่าต้องมากดดันว่าคสช. ไม่ใช่เห็นคสช.เป็นศัตรู มาโวยวายเรียกร้องคสช. แต่เราเรียกร้องประชาชน เราอยากเห็นประชาชนตื่นตัว

พ.อ.วรพนผมเข้าใจ แต่ขอให้พี่หยุดก่อนเถอะ แต่เดี๋ยวเราไปหาวิธีกัน ว่าจะเอาแบบไหนถูกต้องตามกฎหมายได้มั้ย ผมเข้าใจว่าพี่ต่อต้านตามระบบ แต่ช่วงเวลานี้มันไม่เหมาะกับวิธีนี้ เข้าใจมั้ยครับพี่

นพ.สุภัทรกล่าวว่า ขออนุญาตแสดงความเห็นส่วนตัว อย่างแรกผมคิดว่าคสช.เป็นความหวัง แต่การที่เป็นความหวังจะต้องไม่ผูกขาดการทำทุกอย่างเพื่อชาติ การทำเพื่อชาติมันเป็นสิทธิของทุกคน ทุกคนรักชาติ ที่เห็นประเด็นที่เราจะช่วยได้ ถ้าคสช.ผูกขาดสิ่งเหล่านี้ จบนะครับ มันไม่มีใครเป็นซุปเปอร์แมนทำได้ทุกเรื่องครับ อันนี้ผมคิดว่าการเปิดกว้างระดับนึงเนี่ยสำคัญ นำไปสู่ความยั่งยืนของคสช.เอง ที่จะดูแลประเทศกันยาว ๆ เรื่องปฏิรูปทั้งหลายเนี่ย ปีนึงมันไม่เสร็จหรอกเรื่องมันยาก ปฏิรูปพลังงานเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ

ข้อเรียกร้องสามข้อ ขอให้น้ำมันและแก๊สมีราคาที่เป็นธรรม ผู้ว่าฯ สงขลาทำอะไรไม่ได้เลยครับ เราต้องการยกเลิกระบบสัมปทานให้เปลี่ยนเป็นระบบแบ่งปันผลผลิต เราขอยกเลิกสัมปทานครั้งที่ 21 การเดินครั้งนี้ก็เป็นการเดินไปสู่กทม. แน่นอนเราก็ยอมรับว่าเป็นการสร้างกระแสให้มวลชน ให้ประชาชนมีการตื่นตัวขึ้นจะเป็นผลดีต่อการปฏิรูปพลังงาน อันนี้เป็นสิ่งที่ทางคสช.เข้าใจ ผมก็ทราบว่าไม่ถูกตามประกาศ แต่โดยเจตนารมณ์ ไม่ได้ที่จะขัดคำสั่ง และถล่มคสช.ถ้าพี่ไม่แยกแยะประชาชนที่สนับสนุนคสช.ก็จะเปลี่ยนไป

            “ถ้าคสช.บล็อกทุกเรื่อง แบบนี้ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย ที่มันควรจะเป็น แต่พวกผมก็เซ็นเซอร์ตัวเองเยอะมากนะ โทรโข่งยังไม่ใช้เลย เดินอะไรไม่มีโทรโข่ง ชาวบ้านก็งง ป้ายก็มีแต่ป้ายเล็กๆ การเซ็นเซอร์ตัวเองเนี่ยมีการผ่านการคุยกันหลายครั้ง ลดขบวนลง เพื่อพวกพี่จะได้ไม่ลำบากใจ พวกผมก็ได้บรรลุภารกิจ นี้ก็พบกันครึ่งทาง ผมไม่รู้ว่าพี่น้องเราจะเอายังไงนะ แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ พี่มีหน้าที่จับ เรามีหน้าที่เดิน ก็แค่นั้น ตรงไปตรงมา ถ้าจับเราก็ไปนอนค่ายทหารวันสองวัน สามวันเจ็ดวันไม่ใช่ปัญหา แต่ว่าผมอยากให้พี่ส่งสัญญานเสียงตรงนี้ไปให้ผู้บัญชาการ พรุ่งนี้ก็จะเป็นนายกรัฐมตรีของประเทศไทยละ ถ้าเรื่องแค่คนเดินกลางถนน เดินกันไม่กี่คน เดินกันแค่นี้ มีธงแค่นี้ เดินกันไม่ได้แบบนี้ไม่คู่ควรที่จะเป็นนายกฯ ที่เปิดกว้าง เพื่อการปฏิรูป ประโยคนี้สำคัญ ปฏิรูปต้องมีส่วนร่วมครับพี่” นพ.สุภัทรกล่าว

พ.อ.วรพนกล่าวว่า ผมอยากบอกว่าตอนนี้มันช่องทางให้ดำเนินการอยู่แล้ว

นพ.สุภัทรกล่าวว่า ผมทราบ แต่การเดินก็เป็นอีกช่องทางนึง

พ.อ.วรพนกล่าวว่า แล้วทำไมไม่ใช้วิธีที่มันถูกต้อง

นายประสิทธิชัยกล่าวว่า ถ้าสมมุติว่าเราต้องการความจริงจากการปฏิรูปจริง ทำไมคสช.จึงตั้งบอร์ดโน่นบอร์ดนี่เต็มไปหมดเลย พีดีพีก็ฟันธงว่าสร้างเสร็จภายในสามเดือน แล้วจะสร้างถ่านหินเต็มภาคใต้เลย หมื่นเมกะวัตต์ถ้าจริงใจทำไมต้องรีบทำก่อนมีสภาปฏิรูป เราทั้งประเทศ พลังงานเป็นเรื่องใหญ่ แล้วเราก็ยื่นหนังสือไปตั้งแต่มีรับสัมปทานใหม่ ๆ ทุกคนรู้ว่าคสช.คือทางออกของประเทศ ที่จะจัดการปัญหานักการเมืองไม่เป็นธรรม แต่พอผ่านมาสองสามเดือน เห็นว่ามันเป็นไปไม่ได้ ช่องทางที่บอก เขาทำกันไปหมดแล้ว พวกผมมันไม่สนุกนะครับที่ทำอยู่ตอนนี้ ประเด็นก็คือว่า เราก็รอความหวัง เราก็จับตามอง คณะกรรมการสภาปฏิรูปคสช.ได้ตั้งปตท.มาสามสี่คน ตั้งกฟผ.มามันจะปฏิรูปอะไรละครับ

          “เหตุการณ์พวกนี้ เราก็ไปอ่านรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 เขียนชัด มาตรา 4 ก็เขียนชัด ว่าสิทธิเสรีภาพที่ยังมีคงเหลือเดิม แล้วพันธะผูกพันในระหว่างประเทศสิทธิเสรีภาพนั้นย่อมได้รับการคุ้มครอง เราก็ไปอ่านมาตรา 44 ถ้ามีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้ง ก่อให้เกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจ ต่อประเทศ อำนาจและราชบัลลังค์ทั้งหมด เราก็มาดูว่าเรื่องปฏิรูป มันเข้ามาตรา 44 หรือเปล่า เพราะ 1 ก็คือว่า เรื่องปฏิรูป ทหารประกาศเองไม่ใช่หรือ ต้องการคืนความสุขให้ประชาชน เรื่องพลังงานไงครับ ที่จะคืนความสุขให้กับประชาชนคนไทย แล้วเรื่องพลังงานมีอยู่ในมาตรา 27 (7) ว่า ต้องมี แล้วก็มาดู อีกอันหนึ่งก็คือว่า สิ่งที่เราทำเราเซนเซอร์ตัวเอง เมื่อวานคนที่หาดใหญ่ คนมองทั้งเมืองว่าขบวนอะไร รถเครื่องเสียงก็ไม่มี เราก็บอกว่าเราไม่ใช้ สิ่งที่เรามีก็คือใบลงเจตนารมณ์ของประชาชนเพื่ออ้างถึงคสช.แล้วที่เดินไปถึงกทม.ก็เดินไปยื่นถึง สภาปฏิรูปครับ แล้วถ้าคสช.จะคืนความสุขให้คนไทย ให้มีการปฏิรูปก็ต้องยอมให้ประชาชนทำกิจกรรมบางอย่าง” นายประสิทธิชัยกล่าว

พ.อ.วรพนกล่าวว่า ผมถามหน่อยว่า ผมรู้อยู่แล้วว่าที่เดินไปยื่นให้กับสภาปฏิรูป ทำไมพวกเราไม่ส่งผู้แทนแล้วไปคุยกับเขาโดยตรง แล้วทำไมต้องเดิน แล้วก่อให้เกิดภาพที่มันออกไป ผมห่วงจังหวัดสงขลาและหาดใหญ่ ซึ่งมันกำลังเริ่มปรับตัวที่จะเข้าสู่ระบบใหม่ โดนระเบิดไปคราวที่แล้วมันแย่อยู่แล้ว พวกผมก็ต้องมารับเรื่องพวกนี้ ผมเข้าใจดีว่าทุกคนมีความตั้งใจดี แต่ทำไมไม่เข้าไปโดยตรงที่จุดเขาเลยแล้วถ้ามันไม่ได้ แล้วต้องไปเดินที่กทม .ส่วนตรงนี้แหละผมจะรับผิดชอบ ผมไม่เข้าใจทำไมต้องเดิน เพื่อรณรงค์ไปแบบนี้ซึ่งมันผิด ทำไมไม่หิ้วเอกสารทั้งหมดแล้วก็เดินเข้าไปในสภาปฏิรูป

นายประสิทธิชัยกล่าวว่า พี่ต้องเข้าใจก่อนว่า วิธีการของการจัดการเรื่องพลังงาน เราทำเรื่องนี้มากันสิบปีแล้ว เราใช้น้ำมันแพงอยู่ตอนนี้ แล้วเรื่องนี้ถ้าสมมุติว่ามีคนสิบคนยี่สิบคนหิ้วเอกสารไป ใครจะฟังเราละ

พ.อ.วรพนกล่าวว่า ถามว่าในความเป็นจริงว่า จำเป็นมั้ยที่ต้องเดินไปอย่างนี้ แค่น้องไปแต่ละจังหวัดไปขอลายเซ็นแต่ละคน ว่าเห็นด้วยกับเรื่องพวกนี้แล้วก็ส่งไปมันไม่ดีกว่าหรือ ไม่ต้องมาเดิน

นายประสิทธิชัยกล่าวว่า ไม่ได้ครับ เพราะว่าเวลาเราทำเรื่องปฏิรูป นิสัยของเราว่าจะทำอะไรก็ตาม คนไม่มีความรู้ เวลาจะให้เขาเซ็น เขาจะไม่เซ็น สิ่งที่เราเดิน เพราะว่าเราได้จัดเวทีให้ความรู้กับประชาชนว่าต้องเปลี่ยนราคาน้ำมันให้เหลือลิตรละ 20 บาท เปลี่ยนให้เหมือนมาเลเซีย มีข้อเท็จจริงอะไรบ้าง เราจะบอกว่า เอาข้อเสนอทั้งหกข้อ แล้วให้ชาวบ้านเซ็นไม่ใช่วิธีการของเรา เพราะเขาไม่รู้ว่าทำไมต้องเซ็น คุณหลอกลวงอะไรหรือเปล่า ทั้งหมดมันต้องมีข้อมูลก่อนแล้วบอกเขาให้ได้ตัดสินใจก่อน

พ.อ.วรพนกล่าวว่า แล้วทำไมไม่ตั้งเวทีแต่ละพื้นที่ละ มันทำได้วิธีที่ถูกต้องมันมีอยู่แล้ว

นายประสิทธิชัยกล่าวว่า ผมไม่เข้าใจว่าเดินมันผิดตรงไหน เดินมันเป็นกิจกรรมของคนปกติ

พ.อ.วรพนกล่าวว่า ในข้อกำหนดหรือประกาศที่มันออกมา การชุมนุมมันทำไม่ได้ในช่วงขณะนี้ ต้องเข้าใจด้วยว่าทำการชุมนุมไม่ได้เลย เมื่อวานผมก็พยายามชี้แจงให้ทุกคนเข้าใจ เพื่อไม่ต้องเกิดเหตุการณ์ควบคุมตัว พวกผมก็ไม่อยากทำเรื่องพวกนี้ เพราะเข้าใจว่าเป็นเจตนาดีของทุกคน

นายประสิทธิชัยกล่าวว่า ผมก็ยังงงอยู่ดีครับ ว่าการเดินมันผิดตรงไหน ชุมนุมมันต้องรวมตัวสิครับ

พ.อ.วรพนกล่าวว่า เนี่ยก็นั่งอยู่นี่ครับเกินกว่าห้าคน

นายประสิทธิชัยกล่าวว่า ถ้างั้น ถ้าพี่ใช้มาตฐานแบบนี้ ในตอนนี้ในมอ. (มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์) มีการประชุมสามสี่รายการ มันก็คือการรวมตัวออกสื่อออกทีวี

พ.อ.วรพนกล่าวว่า นั่นมันถูกกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อการเจรจามาถึงตรงนี้ ทหารก็ลุกออกไปจากโต๊ะพูดคุย ทางเครือข่ายก็ยืนยันจะเดินและออกเดิน ไปได้ระยะทางประมาณ 500 เมตร ทั้งหมดจึงถูกทหารควบคุมตัว

นายประสิทธิชัยให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า เจตนารมณ์การแสดงออกทางการปฎิรูปพลังงานของกลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงานไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง บทพิสูจน์อันยาวนานเรื่องพลังงานได้รับการเรียกร้องมานาน ได้ยื่นหนังสือคัดค้านมานาน และได้ทำทุกวิถีทางแล้ว ตามข้อเสนอของผู้มีอำนาจได้เสนอให้ทำ สิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาขั้นต้นได้ดำเนินการไปหมดแล้วตามขั้นตอน แต่มีผลที่ออกมากลับตรงข้ามกับข้อเรียกร้อง จึงตัดสินใจว่าต้องออกมาเรียกร้อง โดยยึดเอาเจตนารมณ์ที่มีพื้นฐานผลประโยชน์ประชาชน เป็นหลักโดนการเดินปฏิรูปพลังงานในช่วงที่มีการประกาศกฏอัยการศึกของกลุ่ม ไม่ได้ก่อให้เกิดการขัดแย้ง ยืนยันชัดเจนว่าการออกก้าวเดินเพื่อผลประโยชน์ของชาติ ถ้าไม่ทำวันนี้ เตรียมรับวิบากกรรมเรื่องพลังงาน ในกรรมสิทธิปิโตรเลียมของเอกชน

ทางด้านนพ.สุภัทรกล่าวว่า ทหารจากค่ายเสนาณรงค์ ได้เข้าเจรจาขอให้ทางกลุ่มหยุดเดิน มาตลอดทั้ง 2 วัน โดยมีตนและเพื่อนเป็นตัวแทนในพื้นที่จ.สงขลา โดยทางทหารอ้างว่าผิดกฏหมายให้หยุดเดิน แต่หลังจากการปรึกษาหารือทางกลุ่มชัดเจนในเจตณารมณ์และความตั้งใจที่ยังคงจะใช้ 2 เท้าเดินต่อไป เพื่อสร้างกระแสทางสังคมในการปฏิรูปพลังงาน โดยทราบดีว่าการปฏิรูปพลังงานเป็นเรื่องยาก ไม่ใช่เฉพาะคสช.เท่านั้นที่จะทำ แต่ภาคประชาชนจะต้องมีส่วนที่ทำให้ประเด็นนี้เป็นจริง

           “ลักษณะการเดินของกลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงานว่า เราเดินอย่างระมัดระวังด้วยหัวใจและสองเท้าไม่มีเครื่องเสียงแล้ว การเดินเพื่อปฏิรูปพลังงานในครั้งนี้เจตจำนงของกลุ่มยังคงเหมือนเดิม และการเรียกร้องให้ปฏิรูปพลังงานอย่างมีส่วนร่วม คือทำหน้าที่ของตนเอง การเดินครั้งนี้ อะไรจะเกิดขึ้นดูต่อไป เพราะเข้าใจว่าต่างคนต่างต้องทำหน้าที่ เรามีหน้าที่เดิน” นพ.สุภัทรกล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ‘ขาหุ้นปฏิรูป’เดินเท้าจากสงขลาเข้ากทม. จี้แก้นโยบาย‘พลังงาน-ไฟฟ้า’ทั้งระบบ

http://tcijthai.com/tcijthainews/view.php?ids=4767

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

http://www.facebook.com/tcijthai

 

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: