'นิด้าโพล'เปิดผลสำรวจ พบแท็กซี่ไม่รับบ่อยที่สุด

TCIJ 22 ก.ค. 2557 | อ่านแล้ว 1497 ครั้ง

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน  เรื่อง ‘ความในใจของผู้ใช้บริการรถแท็กซี่: แนวทางสู่การปฏิรูประบบขนส่งสาธารณะ’ ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 15–20 กรกฎาคม 2557 จากประชาชนที่ใช้บริการรถขนส่งสาธารณะ รถแท็กซี่มิเตอร์ ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล กระจายทุกระดับการศึกษาและอาชีพ รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,257 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับปัญหาในการใช้บริการรถแท็กซี่ การปรับอัตราค่าโดยสาร และแนวทางการแก้ไขปัญหาในการให้บริการ

จากผลการสำรวจ เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อปัญหาที่พบจากการให้บริการรถแท็กซี่มิเตอร์ พบว่า ผู้ที่เคยใช้บริการรถแท็กซี่มิเตอร์ส่วนใหญ่ ร้อยละ 34.12 ระบุว่า เป็นการปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร เลือกผู้โดยสาร โดยชอบอ้างว่าไปส่งรถ/แก๊สหมด/อยู่นอกเส้นทาง เลือกรับเฉพาะผู้โดยสารชาวต่างชาติ เป็นต้น รองลงมา ร้อยละ12.72 ระบุว่า เป็นการขับรถไม่ถูกกฎจราจร ขับรถหวาดเสียว ขับปาดหน้า ขับผ่าไฟแดง จอดซ้อนคัน ร้อยละ 11.98 ระบุว่า คนขับพูดจาหรือมีพฤติกรรมไม่สุภาพกับผู้โดยสารหรือผู้ใช้รถใช้ถนนอื่นๆ ร้อยละ 10.09 ระบุว่า คนขับขาดความซื่อสัตย์สุจริต เช่น ทอนเงินไม่ครบ เรียกเก็บค่าโดยสารเกินกว่าอัตราที่ทางราชการกำหนด พาผู้โดยสารไปเส้นทางที่อ้อม ออกนอกเส้นทาง

ร้อยละ 6.32 ระบุว่า สภาพรถเก่า ไม่สะอาด ประตูชำรุด แอร์ไม่เย็น เข็มขัดนิรภัยชำรุด ร้อยละ 4.91 ระบุว่า คนขับชอบพูดเรื่องการเมือง ร้อยละ 4.75 ระบุว่า ไม่เคยพบเจอปัญหาใดๆ ในการให้บริการ ร้อยละ4.08 ระบุว่า ไม่จอดรับ–ส่ง ผู้โดยสารตามป้าย จอดรถเลยป้าย จอดรถรับ–ส่งผู้โดยสารในเลนกลาง ร้อยละ 2.04 ระบุว่า คนขับรถใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ร้อยละ 2.00 ระบุว่า คนขับชอบถามเรื่องส่วนตัวผู้โดยสาร และร้อยละ 6.99 ระบุว่า อื่นๆ เช่น คนขับดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ขณะขับรถ มีพฤติกรรมส่อเจตนาไปทางการก่ออาชญากรรมหรือการล่วงละเมิดทางเพศ ไล่ผู้โดยสารลงกลางทาง สภาพคนขับไม่พร้อม บัตรประจำตัวคนขับไม่ตรงกัน ไม่ชำนาญเส้นทาง พูดเรื่องส่วนตัว เปิดวิทยุเสียงดัง

เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีการยอมจ่ายอัตราค่าโดยสารที่สูงขึ้น หากมีการบริการรถแท็กซี่มิเตอร์พิเศษ (VIP) เช่น รถแท็กซี่เฉพาะผู้หญิง (Lady Taxi) หรือรถแท็กซี่ที่มีขนาดรถใหญ่ขึ้น คนขับแต่งกายและพูดจาสุภาพ สามารถพูดภาษาต่างประเทศได้ ไม่ปฏิเสธรับผู้โดยสาร ไม่ว่าจะไปที่ไหนหรือช่วงเวลาใด และมีการให้บริการที่ดีขึ้น พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 78.44 ระบุว่า ยินดีที่จะจ่ายค่าโดยสารสูงขึ้น รองลงมา ร้อยละ 20.21 ระบุว่า ไม่ยินดีที่จะจ่ายค่าโดยสารที่สูงขึ้น  ขณะที่ ร้อยละ1.35 ระบุว่า ยังไม่แน่ใจ ต้องทดลองใช้บริการก่อนว่าจะได้รับการบริการคุ้มค่ากับอัตราค่าโดยสารที่จ่ายเพิ่มขึ้นหรือไม่

สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อสิ่งที่ต้องการให้พัฒนาในด้านการบริการของคนขับรถแท็กซี่ในด้านต่างๆ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 19.12 ระบุว่า ต้องการให้มีการพัฒนาในเรื่องของการไม่ปฏิเสธรับผู้โดยสาร/ไม่เลือกผู้โดยสาร ไม่เห็นแก่ได้ รองลงมาร้อยละ 17.25 ระบุว่า ความมีระเบียบวินัยในการขับรถ เคารพและปฏิบัติตามกฎจราจร ร้อยละ 16.98 ระบุว่า การพูดจาและพฤติกรรมที่สุภาพกับทั้งผู้โดยสารและผู้ใช้รถใช้ถนนอื่นๆ ร้อยละ 8.88 ระบุว่า การแต่งกายของคนขับที่ดูดี สะอาดสะอ้าน มีความพร้อมในการให้บริการ ร้อยละ 8.31 ระบุว่า ความซื่อสัตย์สุจริตต่อหน้าที่ ไม่เอาเปรียบผู้โดยสาร ร้อยละ 6.29 ระบุว่า การเอาใจใส่ในสภาพความพร้อมของรถที่ให้บริการ ร้อยละ 5.21 ระบุว่า การมีจิตสาธารณะในการให้บริการ ร้อยละ 4.28 ระบุว่า ความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านเส้นทาง ร้อยละ 4.22 ระบุว่า การจอดรับ–ส่ง ผู้โดยสารเฉพาะตามป้าย เลนในสุดเท่านั้น

ร้อยละ 3.37 ระบุว่า ไม่มีพฤติกรรมที่ส่อเจตนาไปทางการก่ออาชญากรรมหรือการล่วงละเมิดทางเพศ ร้อยละ 3.07 ระบุว่า เป็นการละเว้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ขณะขับรถ ร้อยละ 0.99 ระบุว่า เนื่องจากคนขับแท็กซี่ที่บริการไม่ดีมีเป็นแค่บางส่วน/เป็นเฉพาะบุคคลเท่านั้น ในภาพรวมถือว่าดีอยู่แล้ว จึงยังไม่เห็นด้านที่ควรพัฒนา และร้อยละ 2.02 ระบุว่า อื่นๆ เช่น ความปลอดภัยของผู้โดยสาร การตรวจสอบประวัติของคนขับ ป้ายทะเบียนประจำตัวผู้ขับที่ไม่ตรงกัน ความเชี่ยวชาญในด้านเส้นทาง มีจุดเรียกบริการแท็กซี่โดยเฉพาะ การลดราคาเชื้อเพลิง รวมไปถึงทักษะการป้องกันตัวของคนขับที่เกิดจากการก่ออาชญากรรม

ท้ายสุด เมื่อถามถึงความคิดเห็นของประชาชนต่อข้อเสนอแนะหรือแนวทางในการแก้ไขปัญหาการให้บริการรถแท็กซี่มิเตอร์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 19.87 ระบุว่า ควรบังคับใช้กฎหมายการกระทำผิดอย่างจริงจังและเข้มงวด รองลงมาร้อยละ19.83 ระบุว่า ควรตรวจสอบประวัติและมีการคัดเลือกผู้ขับขี่อย่างเข้มงวด ร้อยละ 17.37 ระบุว่า ควรปลูกฝังด้านคุณธรรม จริยธรรม มารยาท วินัยในการขับขี่และการให้บริการ ร้อยละ 14.32 ระบุว่า ควรมีการอบรมผู้ขับขี่ทุก 1–2 ปี ร้อยละ 14.05 ระบุว่า ควรกำหนดบทลงโทษการกระทำผิดของผู้ขับขี่รถบริการสาธารณะให้สูงกว่าผู้ขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลธรรมดา ร้อยละ 4.96 ระบุว่า ผู้ขับขี่รถบริการสาธารณะต้องผ่านการอบรมการขับขี่รถสาธารณะไม่น้อยกว่า 1 เดือน/3 - 6 เดือน/ไปจนถึง 1 ปี ร้อยละ 4.61 ระบุว่า ควรกำหนดอายุของผู้ขับขี่ โดยมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป (อายุผู้ขับเฉลี่ย 27.24 ปี) 

ร้อยละ2.97 ระบุว่า อื่นๆ ได้แก่ มาตรการเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารและคนขับ เช่น มีระบบ GPS ระบุตำแหน่งรถ การตรวจสอบประวัติคนขับ ป้ายประจำตัวผู้ขับที่ตรงกับคนขับ เพิ่มความเข้มงวดในการออกใบอนุญาตขับขี่ กำหนดระดับการศึกษาของผู้ที่จะขับรถแท็กซี่ ให้จบการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนต้น/เทียบเท่าขึ้นไป ควบคุมอายุการใช้งานของรถแท็กซี่ ควรจัดระเบียบสีแท็กซี่ใหม่ มีจุดเรียกใช้บริการรถแท็กซี่โดยเฉพาะและ ร้อยละ 2.03 ไม่มีข้อเสนอแนะ/ไม่มีความคิดเห็น

ร่วมเป็นแฟนเพชเฟซบุ๊ค TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: