เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้บริเวณบ่อขยะ ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการว่า ล่าสุดจากความพยายามอย่างยิ่งจากหลายฝ่ายในการดับไฟดังกล่าว ล่าสุดไฟบริเวณกองขยะได้ดับลงแล้ว เนื่องจากมีฝนตกมาอย่างหนักเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ช่วยให้ไฟดับได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ชาวบ้านเป็นห่วงคือเรื่องของน้ำที่ถูกใช้ในการดับไฟ อาจจะไหลลงมาปะปนกับแหล่งน้ำในชุมชน รวมไปถึงน้ำฝนที่ชะล้างควันพิษอาจจะไหลลงมาสร้างผลกระทบได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้คำแนะนำต่างๆ ในพื้นที่ด้วย

นายประพันธ์ ชอบสอน ปลัดสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลแพรกษา กล่าวว่า  ที่ผ่านมา อบต.แพรกษาได้เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเต็มที่ แต่ก็ให้ความช่วยเหลือได้ในเบื้องต้นที่ชาวบ้านได้รับผลประทบ ส่วนการบริหารจัดการอื่นๆ ที่มากกว่านั้น อบต.ไม่มีอำนาจ เพราะเป็นอำนาจของทางจังหวัด และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ส่วนผลกระทบที่ชาวบ้านได้รับในช่วงที่เกิดเหตุก็คือเรื่องของสุขภาพ และการอพยพออกจากพื้นที่ทั้งนี้หลังจากที่เกิดเหตุเพลิงไหม้บริเวณบ่อขยะแห่งนี้ แต่ทาง อบต.ยังมีบ่อขยะที่จะนำขยะไปทิ้งอีกแห่งหนึ่งในพื้นที่ของ อบต.แพรกษาใหม่ ในพื้นที่กว่า 100 ไร่เช่นกัน ซึ่งเป็นบ่อขยะของเอกชนที่ขออนุญาตอย่างถูกต้อง โดยทาง อบต.ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการนำขยะไปทิ้งในบ่อของเอกชนแห่งนี้เดือนละกว่า 250,000 บาท และตอนนี้มีการนำขยะไปทิ้งมีจำนวนมากเช่นกันซึ่งก็น่าเป็นห่วงที่อาจจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อนซึ่งทางเอกชนที่รับเหมาทิ้งขยะจะต้องดูแลกวดขัน แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ ต่อไปการจะนำขยะที่มีปริมาณมากในแต่ละวันไปทิ้งหรือเผาทำลายที่ไหนต่อไปนั้น คงต้องมีการพิจารณาร่วมกันกับทางจังหวัดเพื่อหาสถานที่ที่จะนำขยะไปทิ้ง ซึ่งคงต้องดูสถานที่ที่ห่างไกลจากชุมชน และต้องมีการกำหนดมาตรการให้กับเอกชนผู้รับสัมปทานในการที่จะกวดขันดูแลการทิ้งขยะให้เข้มงวดมากกว่านี้

“ขณะนี้ ทาง อบต.แพรกษาได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว และพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน ขณะเดียวกันก็พบว่ามีประชาชนที่อยู่ในละแวกนั้นมาแจ้งความด้วย โดยจนถึงเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันที่ 21 มีนาคม 2557 มีประชาชนเข้าแจ้งความแล้ว จำนวน 1,336 ราย” 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

http://www.facebook.com/tcijthai