ขาหุ้นวอน'รัฏฐาธิปัตย์' อย่าเตะตัดขาประชาชน

รวิวรรณ รักถิ่นกำเนิด TCIJ 25 ส.ค. 2557 | อ่านแล้ว 1765 ครั้ง

การจับกุม 7 นักเคลื่อนไหวกลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงาน เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม หลังจัดกิจกรรมเดินเท้าจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังสวนจตุจักร ขณะที่ก่อนหน้านี้แกนนำกลุ่ม 11 คน ที่มุ่งหน้าเดินเท้าจากจ.สงขลา เข้ากรุงเทพฯ ถูกเจ้าหน้าที่ทหารคุมตัวที่ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ พร้อมคำสั่งห้ามเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพฯ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างคำถามต่อสังคมในวงกว้างว่า เหตุใด ‘รัฏฐาธิปัตย์’ ที่เสนอตัวเข้ามาทำหน้าที่เพื่อประชาชน ทั้งประกาศนโยบายการปฏิรูปประเทศเพื่อคืนความสุข ให้คนไทย กลับหวั่นเกรงต่อการเคลื่อนไหวปัญหาปากท้องของประชาชน

เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2557 ชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อม จัดเสวนาในหัวข้อ ‘เตะตัดขา ปฏิรูปพลังงาน’ โดยนายสมบูรณ์ คำแหง เลขาธิการกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ กล่าวถึงสถานการณ์การเดินของกลุ่มขาหุ้นปฏิรูปพลังงานครั้งนี้ว่า เพื่อขอให้มีการปฏิรูปพลังงานอย่างถูกต้องและเป็นธรรมต่อประเทศชาติและประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาประเด็นเรื่องการพัฒนาภาคใต้ ภาคประชาชนและองค์กรเอกชนที่ขับเคลื่อนร่วมกัน ต่างถูก เตะตัดขา ทั้งในเชิงการเข้าร่วมเวทีระดมความเห็น การให้ข้อมูลกับชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายการพัฒนาของภาครัฐ โดยเฉพาะหลังการยึดอำนาจโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โครงการพัฒนาต่าง ๆ ในภาคใต้ อาทิ สร้างท่าเรือน้ำลึกที่ปากบารา จ.สตูล การเร่งเปิดสัมปทานปิโตรเลียมของประเทศไทยรอบ 21 ที่แต่เดิมเคยถูกชะลอไว้เพราะแรงต้านของภาคประชาชนในพื้นที่ กลับถูกคสช.นำมาปัดฝุ่นเดินหน้าต่อ ปิดล็อคการเข้าร่วมจากภาคประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาแม้จะมีการลงพื้นที่จัดเวทีระดมความเห็นของภาคประชาชนโดยภาครัฐ แต่ก็เป็นเพียงการให้ประชาชนเข้าไปร่วมฟังและเสนอความเห็นเพียงคนละไม่ถึง 5 นาที

ไม่เฉพาะการนำโครงการพัฒนาฯ ที่ประชาชนต่อต้านนำกลับมาเดินหน้าต่อ แต่การไม่เปิดพื้นที่ให้ประชาชนเคลื่อนไหวในประเด็นที่พวกเขาเดือดร้อน อีกทั้งไม่เปิดเผยข้อมูลกับประชาชนให้ครบทุกด้าน สมบูรณ์เชื่อว่า หากวัดกันด้วยข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมา ตนเชื่อว่าอย่างไรเสียภาคประชาชนที่ขับเคลื่อนในประเด็นต่าง ๆ ไม่เฉพาะเรื่องพลังงานที่ไม่เป็นธรรม ยังรวมถึงโครงการพัฒนาต่างๆ ของรัฐที่สร้างผลกระทบต่อความมั่นคงของคนในพื้นที่ ก็จะชนะ

สอดคล้องกับที่ นายอานนท์ วาทยานนท์ กลุ่มเครือข่ายปกป้องเกาะแห่งชีวิต (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า และหมู่เกาะอ่างทอง) ซึ่งเป็นพื้นที่สัมปทานขุดเจาะน้ำมันบริเวณใกล้กับแหล่งท่องเที่ยว กล่าวว่า จากการขับเคลื่อนร่วมกับประชาชนในพื้นที่คัดค้านการสัมปทานดังกล่าว เรายื่นหนังสือต่อทุกรัฐบาล ทำข้อเสนอต่อองค์กรเอกชนและรัฐบาลที่ลงไปในพื้นที่ กระทั้งยื่นหนังสือต่อศาลปกครองยังไร้ความคืบหน้า และยิ่งในสถานการณ์บ้านเมืองที่อยู่ภายใต้อาจทหาร ไม่เอื้อให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นหรือข้อเรียกร้องเรื่องความเดือดร้อนในพื้นที่ ทางออกแรกจึงต้องเร่งสร้างประชาธิปไตยแล้วดึงภาคประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการปฏิรูป ไม่ใช่เพียงการปฏิรูปของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: