จากกรณีไฟไหม้ป่าพรุ-กระจูด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร กินพื้น 2 ตำบลคือ ต.ปากน้ำและหาดทรายรี มาตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าวันที่ 26 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่า เกิดเหตุไฟไหม้พื้นที่ป่าพรุกระจูด หมู่ 1 ต.หาดทรายรี อีกครั้ง เมื่อเดินทางเข้าไปตรวจสอบพบ ไฟป่ากำลังลุกลาม ครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง นอกจากนี้ควันไฟและเศษขยะยังปลิวฟุ้งกระจายไปทั่วปกคลุมรัศมีกว่ากิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิง อาสาสมัคร และรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลหาดทรายรี เทศบาลตำบลปากน้ำชุมพร เทศบาลตำบลท่ายาง และเทศบาลเมืองชุมพร กว่า 10 คัน กำลังช่วยกันควบคุมเพลิง แต่ไม่สามารถควบคุมไฟได้ เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปด้านในของป่าพรุได้ ทำได้เพียงการป้องกันไม่ให้ลุกลามเข้าสู่บ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง และโรงเรียนปากน้ำวิทยาที่อยู่รอบข้างของป่าพรุกระจูดให้ได้ มิเช่นนั้นไฟอาจจะลุกลามไปยังคลังน้ำมัน ซึ่งอยู่ห่างไปเพียง 300 เมตร รวมไปถึง โรงแรมโนโวเทล ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง โดยจนถึงขณะนี้ ไฟยังลุกลามขยายวงกว้างได้รับความเสียหายแล้วกว่า 800 ไร่

นายไกรเดช ตันพานิช รองนายกเทศมนตรีตำบลหาดทรายรี เปิดเผยว่า ป่าพรุกระจูดเป็นป่าเก่าแก่ที่ชุมชนให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ไว้ให้เป็นป่าของชุมชน มีพื้นที่ประมาณ 1,050 ไร่ ซึ่งมีการนำสัตว์ป่าหลากหลายชนิดมาปล่อย เพื่อให้ผืนป่าสมบูรณ์ตามธรรมชาติที่สุด แต่ป่าแห่งนี้จะเกิดเหตุไฟไหม้อยู่เป็นประจำทุกปีแต่สามารถดับได้ไม่ได้ขยายวงกว้างแบบปีนี้ ซึ่งครั้งนี้ไฟได้เริ่มไหม้มาตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้เลย ในการที่เพลิงไหม้ในครั้งนี้  เดิมเริ่มที่บ้านหัวกรูด ต.หาดทรายรี ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากประชาชนพวกเก็บของป่าขายไม่ว่าจะเห็ด เต่ายางชึ่งเป็นเต่าหายาก หรือเป็นพวกบุกรุกเพื่อปลูกพืชรุกป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งกำลังเร่งตรวจสอบอยู่

ส่วนสาเหตุที่ไฟลุกไหม้มาอีกครั้งในวันนี้สาเหตุมาจากอากาศร้อน และหญ้าแห้ง สะเก็ดไฟจึงปะทุขึ้นมา ประกอบกับเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดับไฟในพื้นที่ป่าพรุกระจูดได้ ทำได้เพียงป้องกันและเตรียมพร้อมไม่ให้ไฟลุกลามไปไหม้ในพื้นที่ชุมชนเท่านั้น โดยในวันนี้มีรถดับเพลิงเพียงคันเดียว ของหาดทรายรี  โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิง ชุดควบคุมไฟฟ้า กรมป่าไม้ และอาสาสมัคร กระจายกำลังดูแลอยู่รอบๆ ไม่สามารถเข้าไปดับถึงต้นเพลิงได้ เพราะกลัวพื้นพรุจะยุบตัวลงไป ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้พยายามผลักดันให้มีการขุดคูรอบผืนป่าพรุกระจูดแห่งนี้ เพื่อเป็นแนวกันไฟไม่ให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน แต่ก็มีนักวิชาการออกมาคัดค้านโครงการดังกล่าว ส่งผลให้เมื่อเกิดไฟไหม้ป่าพรุแห่งนี้ และยังเกรงว่าไฟจะลุกลามมาถึงชายป่า เผาไหม้บ้านชาวบ้าน โรงเรียนปากน้ำชุมพรวิทยาและคลังน้ำมันทั้งสองแห่ง

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai