คมชัดลึกออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงแนวทางการปฏิรูปการเลือกตั้งว่า กรอบคณะการทำงานในการเตรียมการปฏิรูปมีอยู่ 11 ประเด็น หนึ่งในนั้นคือประเด็นการปฏิรูปทางการเมือง โดยมีการแบ่งข้อย่อยไว้ 6 ข้อ คือ 1.โครงสร้างฝ่ายนิติบัญญัติ 2.โครงสร้างฝ่ายบริหาร 3.การสรรหา หรือการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม 4.การตรวจสอบการใช้อำนาจการควบคุม รวมถึงการถอดถอนการลงโทษ 5.การปฏิรูปพรรคการเมือง และ 6.การกระจายอำนาจ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการโดยยังไม่ได้มีข้อยุติ ทั้งนี้การเชิญกกต.มาหารือในวันนี้ จะพูดคุยถึงเรื่องกติกาการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม รวมถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาของกกต.ถึงปัญหาอุปสรรคของการเลือกตั้งและช่องว่างการทุจริตในการหาเสียงการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาได้มีการหารือกับฝ่ายการเมืองทั้งกลุ่มนปช.กลุ่มกปปส. ตัวแทน พรรคเพื่อไทย และตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งหมดแล้ว โดยเราจะรวบรวมความคิดเห็นพูดของทุกฝ่ายมาเป็นกรอบความคิดเห็นร่วมในการปฏิรูป หากนำคำพูดของคนใดคนหนึ่งก็จะมีแต่ความขัดแย้งกัน
เมื่อถามถึงการดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม จะสานต่อนโยบายอย่างไรในช่วง 3 เดือน พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า พล.อ.นิพันธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ได้วางกรอบชัดเจน ทั้งนี้กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบทางยุทธศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์ทางภูมิภาคและกลุ่มประเทศในอาเซียน รวมถึงประเทศมหาอำนาจ ซึ่งทุกอย่างจะเหมือนเดิม เพียงแต่จะทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ตนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหมถูกมองว่าเชื่อมโยงกับฝ่ายการเมือง เนื่องจากสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นฝ่ายอำนวยการให้กับรมว.กลาโหม จึงต้องเกี่ยวพันกับฝ่ายการเมืองมาโดยตลอด แต่เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร เนื่องจากเราทำงานในหน้าที่ของเรา สำหรับการพูดคุยกับต่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศนั้น โดยปกติก็ได้ทำงานตามแผนและมีการะประชุมร่วมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ซึ่งความสัมพันธ์กับต่างประเทศยังอยู่ในกรอบเดิม โดยมีแผนล่วงหน้า 3-5 ปี เหมือนเดิมไม่มีอะไรแปลกใหม่
คสช.ได้ตั้งศูนย์เตรียมความพร้อมการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยมี พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ที่กำกับดูแลงานด้านความมั่นคง เป็นหัวหน้าศูนย์ ส่วนผมทำหน้าที่เป็นรองหัวหน้าศูนย์ และปลัดกระทรวงกลาโหมจะเป็นหัวหน้าคณะทำงานด้านการเมืองและความมั่นคง โดยจะเน้นหนักมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ผมไม่หนักใจที่ได้มาเป็นปลัดกระทรวงกลาโหม แม้ว่าจะเหลืออายุราชการอีก 3 เดือนข้างหน้าก็ตาม เพราะได้ผ่านการทำงานในตำแหน่งรักษาการปลัดกระทรวงกลาโหมมา 1 เดือนแล้ว
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ