คณบดีคณะแพทย์เปิดจุดยืนการเมือง เส้นแบ่งหน่วยงานรัฐ-บุคคล-การเมือง

รวิวรรณ รักถิ่นกำเนิด ศูนย์ข่าว TCIJ 31 ม.ค. 2557 | อ่านแล้ว 2377 ครั้ง

เมื่อวันที่ 30 มกราคม ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าว TCIJ รายงานว่า สำนักข่าว Hfocus : เจาะลึกระบบสุขภาพ ได้สัมภาษณ์แนวคิดทางการเมืองของ กลุ่มแพทย์ น.พ.ภีศเดช สัมมานนท์ ตัวแทน “กลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย” สนับสนุนการเลือกตั้งตามกติกาประชาธิปไตย และศ.ดร.นพ.ศุภสิทธิ์ พรรณารุโนทัย คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร 1 ใน 8 คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ ร่วมออกแถลงการณ์ในนาม 8 คณบดี คณะแพทย์ศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ชั้นนำของเมืองไทย เรียกร้องให้รัฐบาลรักษาการลาออก

เพื่อนสธ.เพื่อประชาธิปไตย-โรงเรียนแพทย์

น.พ.ภีศเดช สัมมานนท์ ตัวแทนกลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงการรวมตัวในครั้งนี้ว่าเป็นการรวมกลุ่มในนามบุคคลโดยบอกแค่ว่าทำอาชีพอะไร แต่ว่าไม่ได้บอกว่าสังกัดอะไร หรือว่าเป็นคนขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง ตอนนี้มีสมาชิกเกือบ 700 คน

สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มคือ ต้องการให้เกิดความสงบขึ้นในบ้านเมือง อยากให้คนทุกคนเคารพกฎหมาย และก็เคารพกติกาคือรัฐธรรมนูญ ตีความกฎหมายรัฐธรรมนูญตามตัวหนังสือ ไม่ใช่ทัศนคติส่วนตัวเข้ามามีอิทธิพลต่อการตีความกฎหมาย ทั้งกฎหมายบ้านเมืองทั่วไปหรือรัฐธรรมนูญ

ด้าน ศ.ดร.น.พ.ศุภสิทธิ์ พรรณารุโนทัย คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่ระบุว่า การออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศไทยก่อนการเลือกตั้ง

ศ.ดร.น.พ.ศุภสิทธิ์ พรรณารุโนทัย คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร 

เมื่อถามถึงกระบวนการหารือร่วมในการเคลื่อนไหวภายใต้ชื่อ สถาบันทางการแพทย์  ศ.ดร.น.พ.ศุภสิทธิ์ชี้แจงว่า ระยะเวลาไม่สามารถที่จะทำได้ถึงขั้นการหารือได้ทุกคน เนื่องจากความเร่งด่วน การเคลื่อนไหวครั้งเป็นการออกมาในนามของคณบดีในฐานะผู้ดูแลสถาบันมิได้เป็นการอ้างสถาบันแต่อย่างใด

            “เนื่องจากมีความสูญเสีย คณบดีก็เห็นว่าต้องแสดงอะไรบางอย่าง เพื่อให้เกิดความเป็นกลางขึ้นมา กลุ่มที่จะเป็นกลางเป็นกลุ่มที่ประเทศต้องการ ระยะเวลา ไม่สามารถที่จะทำได้ถึงขั้นการหารือได้ทุกคน เนื่องจากความเร่งด่วน แต่ตรงนี้เป็นการออกมาในนามของคณบดี” น.พ.ศุภสิทธิ์ กล่าว

เมื่อหมอ(ไม่)ต้องเป็นกลาง

เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มแพทย์ที่ออกมาร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มกปปส.ชัตดาวน์กทม.อย่างไร โดยเฉพาะการใช้ชื่อสถาบัน เช่น โรงพยาบาล คณะแพทย์ และการนำสัญลักษณ์กาชาดมาใช้ในการเคลื่อนไหว น.พ.ภีศเดชกล่าวว่า แพทย์ วงการสาธารณสุขต้องมีความเป็นกลาง เพราะต้องให้ทุกฝ่ายเชื่อใจว่า เราจะเป็นกลางหากมีความหวาดระแวง ไม่ไว้ใจวงการแพทย์เกิดขึ้น จะทำให้แพทย์ไม่ได้รับความไว้วางใจ กระทบการทำงานของแพทย์และวงการสาธารณสุข ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างสถานการณ์ในภาคใต้ แพทย์ในภาคใต้ ไม่ต้องการให้นำข้อมูลจากสถานพยาบาลทางการแพทย์ ไปใช้ในการจับกุมคนร้าย เพราะเกรงว่าผู้ก่อการร้ายไม่ไว้วางใจสถานพยาบาล หรือบุคลากรที่ทำงานอยู่ทางภาคใต้ อาจถูกมองว่าไม่เป็นกลาง และถูกทำร้าย หรือทำลายทรัพย์สินของสถานพยาบาลทำให้ยิ่งขาดแคลน ผู้ที่จะมาทำหน้าที่ดูแลสุขภาพผู้ป่วยในภาคใต้ ดังนั้นเราต้องดำรงความเป็นกลางไว้ ถ้าจะแสดงออกก็ต้องแสดงออกในลักษณะส่วนตัว เป็นลักษณะที่ทำได้ คือจะมี 2 อย่าง ไม่อยากให้แสดงออกในรูปแบบขององค์กร และไม่อยากให้แสดงออกไปในทางที่ขัดต่อกฎหมายหรือขัดต่อรัฐธรรมนูญ

ด้าน น.พ.ศุภสิทธิ์กล่าวถึงความเป็นกลางว่า หมายถึงว่า แต่ละคนอาจจะเอียงไปตรงนั้น ตรงนี้ เมื่อมารวมกันก็จะเป็นอะไรที่เรียกว่าเป็นกลาง และการหารือในลักษณะที่ว่า ประชาชนมีตัวแทนเพิ่มขึ้นด้วยอะไรทำนองนี้ เพราะเท่าที่สังเกตสมัชชาปฏิรูปก็มีการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนเยอะมาก ในกรณีถ้าหากรัฐบาลยอมยุติบทบาทและมีรัฐบาลกลาง “บทบาทคนกลาง” ที่จะเข้ามา น.พ.ศุภสิทธิ์ระบุว่า ในระยะหลัง ตนเห็นว่ามีการคุยกันถึงเรื่องดังกล่าว จะเป็นเรื่องของความเป็นหมู่คณะ

สำหรับกรณีกระทรวงสาธารณสุขแสดงจุดยืนสนับสนุน กปปส. น.พ.ภีศเดช มองว่า ในนามของสถาบันการแพทย์เป็นการกระทำที่ไม่สมควร เพราะกระทรวงสาธารณสุขต้องดูแลทุกฝ่าย คือหน่วยงานด้านสาธารณสุข ไม่ควรแสดงตัวว่าฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

กรณีการใช้สัญลักษณ์กาชาดมาเคลื่อนไหวในทางการเมือง สภากาชาดระบุว่า เครื่องหมายกาชาดไม่ควรนำมาใช้แสดงจุดยืนทางการเมือง น.พ.ศุภสิทธิ์กล่าวว่า ตนไม่ได้เข้าไปร่วม แต่เท่าที่ดูน่าจะเป็นการเอาธงกาชาดมาเดิน ซึ่งทางสภากาชาดก็ได้ท้วงติงไปแล้ว โดยส่วนตัวเห็นว่า ถ้าเป็นหน่วยพยาบาลไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรเพราะจะต้องดูแลประชาชนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน

น.พ.ภีศเดช สัมมานนท์ ตัวแทนกลุ่มเพื่อนสาธารณสุขเพื่อประชาธิปไตย (นั่ง)

หรือหมอไม่เคียงข้างคนจน

แต่เดิมแพทย์จะมีภาพลักษณ์ ว่าอยู่เคียงข้างคนยากคนจน เช่น ชมรมแพทย์ชนบท ทว่าการเคลื่อนไหวในวันนี้ กลับแตกต่าง หาได้เชื่อมั่นในสิทธิการออกเสียงของคนจน แต่กลับมองว่ากลุ่มชาวบ้านถูกซื้อเสียง เหตุใดจึงเป็นนั้น

น.พ.ภีศเดชกล่าวว่า เป็นเพียงแพทย์บางกลุ่มที่เชื่ออย่างนั้น และอาจจะไม่ใช่ส่วนใหญ่ด้วยซ้ำไป เพราะมีแพทย์จำนวนหนึ่ง ที่ไม่ค่อยมีปากมีเสียงมากนัก จะไม่มีโอกาสได้แสดงออกถือเป็นกลุ่มใหญ่ ส่วนการจะกล่าวหาว่าใครซื้อเสียง ก็ไม่ควรจะกล่าวหากันลอย ๆ เพราะการกล่าวหากันลอย ๆ ในสังคมไทยปัจจุบันนี้มีมากแล้ว สร้างความเกลียดชังกันและกันมากขึ้น และสะสมมาเรื่อย ๆ จนหลายครั้งมีการแสดงออกที่ทำให้เกิดความรุนแรง ปัจจุบันก็มีความเกลียดชังที่เกิดขึ้น จนเกิดการบาดเจ็บล้มตายของเจ้าหน้าที่และประชาชน ก็ไม่ควรจะมีการกล่าวหากันแบบนี้ หากสงสัยในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น ก็นำข้อมูลการทุจริตคอร์รัปชั่นที่เรามีมาเผยแพร่ นำมาแสดงออกให้ประชาชนรู้ ไม่ให้เลือก หรือจะดำเนินการผ่านกระบวนการยุติธรรมก็ได้ เพื่อให้ลงโทษผู้กระทำผิด รวมถึงการซื้อสิทธิขายเสียงด้วย ควรพยายามหาข้อเท็จจริงมาเสนอต่อสังคม หรือเพื่อดำเนินการฟ้องร้องผู้กระทำผิด

ไม่ได้เลือกข้าง แค่ต้องการปฏิรูป

ขณะที่ น.พ.ศุภสิทธิ์ที่ระบุว่า การออกแถลงการณ์เรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศไทยก่อนการเลือกตั้ง ไม่ได้สนับสนุน กปปส. แต่เป็นข้อเสนอ 5 ข้อคือ หนึ่ง เรื่องปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ เนื่องจากประเทศไทย ความจริงเรามีการประชุมเรื่องการปฏิรูปมาหลายปี ปฏิรูประบบสุขภาพ ปฏิรูปประเทศไทย ทำมามากกว่า 3 ปี ก็ไม่ได้ทำเป็นจริงเป็นจัง ไม่ทำให้เห็นชัดเจนว่าปฏิรูปอะไรไปบ้าง อย่างกระทรวงสาธารณสุข ก็พยายามวางตัวเป็นกลาง เพราะเรายังต้องดูแลประชาชน โดยในส่วนของคณะแพทย์เห็นว่า ปัญหาประเทศถึงขั้นที่มีความสูญเสียมาก ฉะนั้นคณะแพทย์เห็นว่า หนึ่ง ประเทศไทยต้องปฏิรูปโครงสร้างต่าง ๆ โครงสร้างอำนาจและโครงสร้างการตรวจสอบการใช้อำนาจต่าง ๆ  ซึ่งเป็นความเห็นของหลายฝ่าย

            “เนื่องจากมีความสูญเสีย คณบดีก็เห็นว่าต้องแสดงอะไรบางอย่าง เพื่อให้เกิดความเป็นกลางขึ้นมา กลุ่มที่จะเป็นกลางเป็นกลุ่มที่ประเทศต้องการ ระยะเวลาไม่สามารถที่จะทำได้ถึงขั้นการหารือได้ทุกคน เนื่องจากความเร่งด่วน แต่ตรงนี้เป็นการออกมาในนามของคณบดี” น.พ.ศุภสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามต่อว่า เหตุใดทางกลุ่มคณบดีเห็นควรให้เลื่อนการเลือกตั้ง ทั้งที่ตอนนี้ในสังคมมีกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวให้มีการเลือกตั้ง 2 กุมภาฯ

น.พ.ศุภสิทธิ์กล่าวว่า จากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 24 ม.ค.ระบุชัดว่า สามารถที่จะเลื่อนได้ ฉะนั้นก็อยู่ที่การตีความ ก็จะเห็นว่าเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.ก็ยิ่งจะทำให้เกิดปัญหารุนแรงต่อไปอีก เพราะการเลือกตั้งไม่สามารถทำให้เกิดข้อยุติได้เราเลยมีข้อเสนอนี้ การเลือกตั้งวันที่ 2 น่าจะมีแต่ความสูญเสียไม่ว่าจะสูญเสียงบประมาณ หรือสูญเสียโอกาสที่จะเดินได้อย่างดี

ถึง...หมอในการเมือง

อยากฝากอะไรถึงแพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข ที่ออกมาแสดงจุดยืน มาเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้ น.พ.ภีศเดชระบุว่า การแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิส่วนบุคคล การแสดงออกทางการเมือง วิธีการต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย รัฐธรรมนูญ ข้อสองจุดมุ่งหมายของการแสดงออกก็เช่นเดียวกันจะต้องเป็นจุดมุ่งหมายภายใต้ระบอบประชาธิปไตยคือเรียกร้องให้ทุกคนอยู่ภายใต้หลักการที่ว่าทุกคนมี 1 สิทธิ 1 เสียง มีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน และอีกข้อหนึ่งคือเสียงส่วนใหญ่ก็ต้องฟังเสียงส่วนน้อยด้วย ก็ต้องไม่ขัดต่อ 2 หลักการนี้เพราะเราอยู่ในระบอบประชาธิปไตย

ขณะที่น.พ.ศุภสิทธิ์กล่าวว่า เป็นเสรีภาพที่จะแสดงได้ เป็นเสียง แต่อย่างที่เรียนแล้วว่าเราพยายามออกมาไม่ได้จะมาสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ได้บอกว่าเป็นการสนับสนุนกปปส.อย่างเต็มที่ เพราะบางประเด็นที่ กปปส.แสดงท่าทีออกมาก็ไม่ได้ตรงกับแถลงการณ์ 5 ข้อที่เราเสนอ ก็เป็นโอกาสที่ทำให้สังคมได้เห็นว่าแต่ละฟาก แต่ละกลุ่มมีความคิดเห็นอย่างไร เรื่องจริยธรรมพื้นฐานที่ว่าต้องดูแลบุคคลทุกกลุ่มโดยไม่เลือกปฏิบัติ ตรงนี้ก็ต้องให้สังคมเห็นชัด เพราะเป็นสิ่งที่ยึดมั่นมาและจะต้องยึดมั่นต่อไป ส่วนเรื่องความคิดเห็นอะไรต่างๆ ก็ต้องพยายามกลั่นกรองให้เห็นว่าเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมดีขึ้น

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: