แม่ทัพภาค 1 ชี้ยังไม่ควรยกเลิกกฎอัยการศึกหลังเหตุระเบิดที่พารากอน

2 ก.พ. 2558 | อ่านแล้ว 1143 ครั้ง

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยผลตรวจสอบเหตุระเบิด 2 ครั้ง ที่บริเวณทางเชื่อมระหว่าง สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สยาม และทางเข้าห้างสยามพารากอน เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยระบุว่า เป็นวัตถุระเบิดชนิดแสวงเครื่อง 2 ลูก ถูกจุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากนาฬิกาดิจิตอล ระเบิดถูกซุกซ่อนไว้หลังหม้อแปลงไฟฟ้า บริเวณชั้น 2 ช่วงทางเชื่อมจากรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสยามกับห้างสรรพสินค้าดังกล่าว คาดว่าผู้ก่อเหตุมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความปั่นป่วน  โดยไม่พบมีผู้เสียชีวิต มีเพียงผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่เพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุแล้ว

ทั้งนี้เหตุระเบิดดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงหัวค่ำวันอาทิตย์ ที่ยังมีผู้คนสัญจรไปมา เนื่องจากเป็นแหล่งธุรกิจสำคัญใจกลางกรุงเทพ ทำให้เกิดความแตกตื่น โดยมีผู้สามารถถ่ายคลิประเบิดดังกล่าวเผยแพร่ในสื่อโซเชียลออนไลน์จนเป็นประเด็นกล่าวถึงความปลอดภัยในเมืองหลวงของกรุงเทพฯ อย่างกว้างขวาง โดยก่อนหน้าจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับชนิดของระเบิด เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเป็นเพียงแค่หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดเท่านั้น

ด้านสำนักข่าวบีบีซี รายงานเหตุระเบิดดังกล่าว โดยอ้างข้อมูลจาก สำนักข่าวรอยเตอร์ ระบุถึงการให้สัมภาษณ์ของ พลโทกัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ว่าเป็นเหตุระเบิดครั้งแรกที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ นับตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุรัฐประหาร ชี้ให้เห็นว่ายังไม่สมควรยกเลิกกฎอัยการศึก

ขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ไทยมีประวัติในเรื่องของอุบายทางการเมือง จึงมีความเป็นไปได้ที่ทั้งรัฐบาลและฝ่ายตรงข้ามต่างตกเป็นเป้าถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุเสียเองซึ่งจะถือเป็นเหตุผลให้ยังคงต้องอยู่ภายใต้การควบคุมต่อไป

เอพีรายงานด้วยว่า ยังมีกลุ่ม “บุคคลที่ 3” ที่อาจกระทำการเพื่อเป้าหมายของตนเอง ผู้ที่เข้าข่ายอาจรวมถึงนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวะที่มีชื่อเสียงในเรื่องการก่อเหตุรุนแรง และแห่งหนึ่งก็อยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุ

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: