กระทรวงพาณิชย์เตรียมทดลองระบายข้าวเสียสู่ภาคอุตสาหกรรม เบื้องต้นจะคัดเลือกจากคลังขนาดเล็กไม่เกิน 1,000 ตัน เพื่อทดสอบระบบควบคุมไม่ให้รั่วไหลสู่การบริโภค ขณะที่การระบายข้าวคุณภาพดียืนยันจะระบายหลังสิ้นสุดช่วงฤดูข้าวใหม่ คาดเปิดประมูลอีกครั้งเดือนมีนาคมปีหน้า (ที่มาภาพข่าว: tnamcot.com)
3 พ.ย. 2558 สำนักข่าวไทย รายงานว่านางสาวชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวยืนยันว่าเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมาว่าจะยังไม่มีการระบายข้าวในสตอกของรัฐ โดยเฉพาะคุณภาพดีเพื่อการบริโภคในช่วงต้นฤดูกาลผลิตข้าวนาปี (พ.ย. 58 – ก.พ.59) เพื่อไม่ให้กระทบราคาข้าวที่เกษตรกรจะได้รับ ส่วนข้าวเสื่อมคุณภาพจะเป็นเพียงการทดลองระบาย ไปสู่ภาคอุตสาหกรรมเท่านั้น เพื่อทดสอบระบบควบคุมการรั่วไหล ไม่ให้กลับเข้าสู่การบริโภค ดังนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อราคาข้าวบริโภคและตลาดจะนำมาเป็นข้ออ้างในการกดราคาข้าวฤดูใหม่ไม่ได้
ทั้งนี้ในเบื้องต้นจะคัดเลือกจากคลังขนาดเล็กไม่เกิน 1,000 ตัน เพื่อทดสอบระบบการกำกับดูแล และประสิทธิภาพของข้อกำหนดและกลไกภาคปฏิบัติ ซึ่งจะมีมาตรการกำกับดูแลและบทลงโทษที่รัดกุม โดยจะเปิดกว้าง เพื่อเปิดโอกาสให้แก่อุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ เข้ามาร่วมประมูลและให้เกิดการแข่งขันด้านราคา อย่างไรก็ตามการระบายข้าวดีที่ยังเหลือในสตอก คาดว่าจะเปิดระบายอีกครั้งในเดือนมีนาคม 2559 เพื่อไม่ให้กระทบราคาข้าวที่จะออกมาในฤดูกาลใหม่ แต่เชื่อว่าราคาข้าวฤดูกาลใหม่จะดีกว่าปีก่อน เนื่องจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวปีนี้จะลดลงจากปีก่อนร้อยละ 10 ประกอบกับมาตรการพยุงราคาข้าวของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการชดเชยดอกเบี้ยให้กับเกษตรกร มาตรการประกันยุ้งฉาง และมาตรการจากภาคเอกชน จะช่วยดูดซับผลผลิตข้าวในระบบได้ในปริมาณมาก โดยราคาข้าวขณะนี้ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูกาลอยู่ที่ 8,500-8,800 บาทต่อตัน ถือว่าสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 39/2558 หรือคำสั่งตามมาตรา 44 เรื่องการคุ้มครองการบริหารจัดการข้าวคงเหลือในการดูแลรักษาของรัฐโดยให้บุคคล คณะบุคคล คณะทำงาน คณะกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ได้รับการแต่งตั้งจากหัวหน้า คสช. สามารถดำเนินการ เพื่อบริหารจัดการข้าว ไม่ให้เกิดความเสียหายแก่รัฐและคุ้มครองเจ้าหน้าที่ในการทำงาน แต่ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตถูกต้องเท่านั้น ซึ่งทุกกระบวนการจะต้องดำเนินงานภายใต้มติจากคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) เท่านั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงและสินค้ามีมูลค่ามาก ซึ่งเมื่อมีกฎหมายรองรับจะทำให้เจ้าหน้าที่กล้าตัดสินใจรวดเร็วขึ้นดีต่อการบริหารจัดการสตอกข้าวของรัฐบาลที่มีจำนวนมากให้สามารถระบายออกไปได้ตามความเหมาะสมและไม่กระทบกับราคาตลาด
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ