รัฐบาลตั้งเป้าทวงคืนผืนป่า 600,000 ไร่

6 มิ.ย. 2558 | อ่านแล้ว 1914 ครั้ง


	รัฐบาลตั้งเป้าทวงคืนผืนป่า 600,000 ไร่

รัฐบาลตั้งเป้าทวงคืนผืนป่า 600,000 ไร่ หลังพบรุกป่าอนุรักษ์ปลูกยางเกือบทั้งประเทศ ภาคใต้เจอทุกจังหวัด เล็งจัดการนายทุนอันดับแรกปรามอย่าปลุกม๊อบชาวบ้านเป็นหนังหน้าไฟ (ที่มาภาพ: mcot.net)

6 มิ.ย. 2558 สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าปฏิบัติการเพื่อบังคับใช้กฎหมายต่อพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกปลูกยางพาราเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่าจากการรวบรวมข้อมูล ทั้งจากแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศและการเดินเท้าเข้าสำรวจในพื้นที่ป่าอนุกรักษ์ทั่วประเทศ  จนนำมาสู่การออกแผนปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า พบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่าทั่วประเทศ  รวม 62 จังหวัด  โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้พบการบุกรุกทุกจังหวัด  พื้นที่ที่ถูกบุกรุก แล้วแผ้วถางปลูกยางพารา มีทั้งที่เป็น ป่าสงวน อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า วนอุทยาน และเตรียมการประกาศเป็นวนอุทยาน

“รัฐบาลไม่สามารถยอมให้เกิดพฤติกรรมละเมิดกฎหมาย เอาเปรียบประเทศ  และรังแกทรัพยากรที่ควรสงวนรักษาไว้ให้ลูกหลาน แบบนี้ต่อไปได้ ในปีนี้ มอบหมายให้ กรมอุทยานแห่งชาติทวงคืนผืนป่า จำนวน 200,000 ไร่  และดำเนินการโดยกรมป่าไม้อีก 400,000 ไร่ โดยเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา  จนถึงวันนี้ ดำเนินการไปได้แล้วประมาณ 23,000 ไร่ ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้  ทั้ง 600,000 ไร่ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับการดำเนินการกับผู้บุกรุกป่าในกรณีอื่น เช่นการสร้างที่พัก สร้างบ้าน ซึ่งส่วนนั้นก็ต้องดำเนินการต่อไปเช่นกัน”พล.ต.สรรเสริญ กล่าว

พล.ต.สรรเสริญ  กล่าวว่า แนวทางดำเนินการของเจ้าหน้าที่  มีขั้นตอนชัดเจน โดยให้ดำเนินการในพื้นที่นอกแปลงพิสูจน์สิทธิ์การครอบครองที่ดินตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 และต้องไม่มีพื้นที่ทับซ้อนกับเอกสารสิทธิ์อื่น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการบุกรุกอย่างชัดเจน  ก่อนการดำเนินการในทุกขั้นตอน ยังให้เจ้าหน้าที่ทั้งของกรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้ ประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจกับผู้นำชุมชน และผู้ครอบครองที่ดินปลูกยางพาราให้ทราบถึงนโยบายของรัฐบาลอย่างชัดเจน  การเข้าไปตัดฟันต้นยางพาราในพื้นที่ก็ต้องแจ้งผู้นำชุมชน  เช่น  ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการดำเนินการ

“นายกรัฐมนตรีกำชับ 2 เรื่อง  คือ 1.การปฏิบัติการตามนโยบายนี้ต้องไม่ให้มีเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตหรือแอบอ้างผลประโยชน์  หากพบจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทุกกรณี  2. ให้ดำเนินการแปลงที่เป็นการบุกรุกจากนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลเป็นอันดับแรก  ตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  อย่างไรก็ตามในขั้นต้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตัดต้นยาง  เพียงร้อยละ 60 ของพื้นที่  ส่วนอีกร้อยละ 40  คงเหลือไว้ให้เป็นพื้นที่ที่ราษฎรผู้ยากไร้  ซึ่งมักจะเข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะผู้รับจ้างกรีดยางจากนายทุนได้ทำมาหากินต่อไปก่อน”พล.ต.สรรเสริญกล่าว

รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า  การพยายามสร้างข่าวเท็จ หรือปลุกปั่นกระแสว่า รัฐเลือกปฏิบัติกับบางพื้นที่ หรือ รังแกประชาชนผู้ยากไร้  ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย   ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนบริโภคข่าวสารอย่างมีเหตุผล  ส่วนผู้ที่กระทำผิดกฎหมายก็อย่าได้ปลุกปั่นสร้างกระแสเอาประชาชนรายเล็กรายน้อยออกมาเป็นหนังหน้าไฟกำบังความผิดของตน   เพราะเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามเอกสารหลักฐาน และสามารถพิสูจน์ตรวจสอบได้ทุกกรณี

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: