รัฐบาลตั้งเป้าทวงคืนผืนป่า 600,000 ไร่ หลังพบรุกป่าอนุรักษ์ปลูกยางเกือบทั้งประเทศ ภาคใต้เจอทุกจังหวัด เล็งจัดการนายทุนอันดับแรกปรามอย่าปลุกม๊อบชาวบ้านเป็นหนังหน้าไฟ (ที่มาภาพ: mcot.net)
6 มิ.ย. 2558 สำนักข่าวไทย รายงานว่า พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าปฏิบัติการเพื่อบังคับใช้กฎหมายต่อพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกปลูกยางพาราเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่าจากการรวบรวมข้อมูล ทั้งจากแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศและการเดินเท้าเข้าสำรวจในพื้นที่ป่าอนุกรักษ์ทั่วประเทศ จนนำมาสู่การออกแผนปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า พบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่าทั่วประเทศ รวม 62 จังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้พบการบุกรุกทุกจังหวัด พื้นที่ที่ถูกบุกรุก แล้วแผ้วถางปลูกยางพารา มีทั้งที่เป็น ป่าสงวน อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า วนอุทยาน และเตรียมการประกาศเป็นวนอุทยาน
“รัฐบาลไม่สามารถยอมให้เกิดพฤติกรรมละเมิดกฎหมาย เอาเปรียบประเทศ และรังแกทรัพยากรที่ควรสงวนรักษาไว้ให้ลูกหลาน แบบนี้ต่อไปได้ ในปีนี้ มอบหมายให้ กรมอุทยานแห่งชาติทวงคืนผืนป่า จำนวน 200,000 ไร่ และดำเนินการโดยกรมป่าไม้อีก 400,000 ไร่ โดยเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ ดำเนินการไปได้แล้วประมาณ 23,000 ไร่ ตั้งเป้าให้แล้วเสร็จในเดือนธันวาคมนี้ ทั้ง 600,000 ไร่ ซึ่งเป็นคนละส่วนกับการดำเนินการกับผู้บุกรุกป่าในกรณีอื่น เช่นการสร้างที่พัก สร้างบ้าน ซึ่งส่วนนั้นก็ต้องดำเนินการต่อไปเช่นกัน”พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า แนวทางดำเนินการของเจ้าหน้าที่ มีขั้นตอนชัดเจน โดยให้ดำเนินการในพื้นที่นอกแปลงพิสูจน์สิทธิ์การครอบครองที่ดินตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2541 และต้องไม่มีพื้นที่ทับซ้อนกับเอกสารสิทธิ์อื่น ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการบุกรุกอย่างชัดเจน ก่อนการดำเนินการในทุกขั้นตอน ยังให้เจ้าหน้าที่ทั้งของกรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้ ประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจกับผู้นำชุมชน และผู้ครอบครองที่ดินปลูกยางพาราให้ทราบถึงนโยบายของรัฐบาลอย่างชัดเจน การเข้าไปตัดฟันต้นยางพาราในพื้นที่ก็ต้องแจ้งผู้นำชุมชน เช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการดำเนินการ
“นายกรัฐมนตรีกำชับ 2 เรื่อง คือ 1.การปฏิบัติการตามนโยบายนี้ต้องไม่ให้มีเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตหรือแอบอ้างผลประโยชน์ หากพบจะดำเนินการขั้นเด็ดขาดทุกกรณี 2. ให้ดำเนินการแปลงที่เป็นการบุกรุกจากนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลเป็นอันดับแรก ตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ อย่างไรก็ตามในขั้นต้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตัดต้นยาง เพียงร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนอีกร้อยละ 40 คงเหลือไว้ให้เป็นพื้นที่ที่ราษฎรผู้ยากไร้ ซึ่งมักจะเข้าไปเกี่ยวข้องในฐานะผู้รับจ้างกรีดยางจากนายทุนได้ทำมาหากินต่อไปก่อน”พล.ต.สรรเสริญกล่าว
รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า การพยายามสร้างข่าวเท็จ หรือปลุกปั่นกระแสว่า รัฐเลือกปฏิบัติกับบางพื้นที่ หรือ รังแกประชาชนผู้ยากไร้ ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย ขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนบริโภคข่าวสารอย่างมีเหตุผล ส่วนผู้ที่กระทำผิดกฎหมายก็อย่าได้ปลุกปั่นสร้างกระแสเอาประชาชนรายเล็กรายน้อยออกมาเป็นหนังหน้าไฟกำบังความผิดของตน เพราะเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามเอกสารหลักฐาน และสามารถพิสูจน์ตรวจสอบได้ทุกกรณี
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ