จากการศึกษาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ 2543 ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม นอกจากนี้คุณภาพน้ำบาดาลที่จะอนุญาตให้ใช้ได้ต้องเป็นตามมาตรฐานน้ำบาดาลที่จะบริโภค ได้ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพและอนามัยของประชาชน รวมทั้ง เป็นการป้องกันในเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นพิษด้วย
ส่วนการผ่อนผันให้ใช้น้ำบาดาล ตามความจำเป็น ดังนี้
1) การใช้น้ำบาดาลในหมู่บ้านจัดสรรและบ้านเดี่ยว ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อระบบประปาได้ จะผ่อนผันให้ใช้น้ำบาดาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนไปพลางก่อน จนกว่าการประปาจะเชื่อมต่อระบบประปาให้ได้ จำนวนประมาณ 67 ราย ปริมาณน้ำไม่เกิน 15,500 ลบ.ม. ต่อวัน
2) กลุ่มอุตสาหกรรมฟอกย้อมและแผ่นเหล็กเคลือบ ผ่อนผันให้ใช้น้ำบาดาลได้เฉพาะในกระบวนการผลิตเท่านั้น จำนวนประมาณ 607 ราย ปริมาณน้ำไม่เกิน 267,000 ลบ.ม. ต่อวัน
3) กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม อาหาร และห้องเย็น ผ่อนผันให้ใช้น้ำบาดาลเพื่อเป็นวัตถุดิบและในกระบวนการผลิตได้ จำนวนประมาณ 782 ราย ปริมาณน้ำไม่เกิน 262,000 ลบ.ม. ต่อวัน
4) กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ จำนวนประมาณ 1,636 ราย ปริมาณน้ำไม่เกิน 399,000 ลบ.ม. ต่อวัน โดยจะพิจารณาถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
5) สำหรับบ่อน้ำบาดาลที่มีสภาพบ่อและคุณภาพน้ำบาดาลยังใช้การได้ดี จะใช้นโยบายเก็บบ่อน้ำบาดาลนั้นไว้เป็นบ่อสำรอง ในกรณีที่เห็นว่ามีความจำเป็นในยามฉุกเฉิน หรือกรณีเร่งด่วน หรือใช้เป็นบ่อสังเกตการณ์ โดยมีแนวทางและหลักการปฏิบัติตามที่กำหนด จำนวนประมาณ 850 บ่อ ปริมาณน้ำไม่เกิน 207,600 ลบ.ม. ต่อวัน
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ