รฟท.คาดลงนามสัญญารถไฟทางคู่ 6 เส้นทางทันสิ้นปีนี้ พร้อมเตรียมขอ ครม.ขยายวงเงินสัญญา 3 รถไฟฟ้าสายสีแดงเป็น 32,399 ล้านบาท และเตรียมเดินหน้าทางคู่ระยะ 2 อีก 6 เส้นทาง มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท (ที่มาภาพประกอบ: railway.co.th)
22 ต.ค. 2558 สำนักข่าวไทย รายงานว่า นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายผู้บริหารการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า ได้เร่งรัดให้ รฟท. ดำเนินการก่อสร้างรถไฟทางคู่ คาดว่าปลายปีนี้จะสามารถลงนามก่อสร้างและประกวดราคาได้ 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย ,เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น และเส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ส่วนอีก 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ, เส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ และเส้นทางนครปฐม-หัวหิน ยังไม่ผ่านการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม แต่จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อขอให้เปิดประมูลโครงการได้ภายในปลายปีนี้และใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง รวมสัญญา 1 และ 2 คืบหน้าร้อยละ 40 ส่วนสัญญา 3 ประกอบด้วยงานระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมถึงตู้รถไฟฟ้าช่วงบางซื่อ-รังสิต และตลิ่งชัน-บางซื่อ จะขอขยายวงเงินเป็น 32,399 ล้านบาท จากเดิมตั้งไว้ 30,500 ล้านบาท โดยขณะนี้องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (ไจก้า) ในฐานะผู้ให้กู้เห็นชอบโครงการแล้ว ดังนั้น ร.ฟ.ท.จึงนำเสนอโครงการให้กระทรวงคมนาคมอนุมัติเดินหน้าโครงการก่อนที่จะมีการเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) พิจารณาต่อไป ซึ่งเชื่อว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จภายในปีนี้
นอกจากนี้ จะเดินหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะ 2 อีก 6 เส้นทาง คือ 1.ปากน้ำโพ-เด่นชัย 2. ขอนแก่น-หนองคาย 3. หัวหิน-ประจวบขีรีขันธ์ 4. จิระ-อุบล 5. ชุมพร-สุราษฎร์ธานี และ 6.สุราษฎร์ธานี-หาดใหญ่-สงขลา ระยะทางรวม 1,349 กิโลเมตร มูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ปี 2560 และก่อสร้างเสร็จปี 2564
ด้านนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดหาที่ดินในเขต ร.ฟ.ท. เพื่อนำมาสร้างที่อยู่อาศัยให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยตามนโยบายของรัฐบาล ว่า ปัจจุบันพื้นที่ของ รฟท.กว่าร้อยละ 80 ใช้เพื่อการเดินรถเหลือพื้นที่เพียงร้อยละ 20 ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ แต่พื้นที่ข้างต้นกระจายตัวทั่วประเทศ จึงจะขอศึกษาพื้นที่ที่เหมาะสมก่อน คาดว่าได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า เบื้องต้นมองว่าพื้นที่เหมาะสมอยู่บริเวณเชียงรากน้อย จังหวัดปทุมธานี ส่วนการจัดหารถโดยสารใหม่ 115 คัน คาดว่าจะมีการรับมอบรถโดยสารชุดแรกในช่วงเดือนพฤษภาคม 2559
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ