เว็บไซต์แนวหน้าอ้างแหล่งข่าวกระทรวงการคลังเผยกรมสรรพสามิตได้เสนอแผนการปฏิรูปภาษีให้คณะกรรมการปฏิรูปภาษีเสนอให้จัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันหล่อลื่นทุกประเภท เนื่องจากเห็นว่าน้ำมันหล่อลื่นและบรรจุภัณฑ์มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมมาก รวมทั้งเสนอการยกเลิกการเก็บภาษีบางตัวที่เห็นว่าไม่มีความจำเป็น ได้ภาษีน้อย เช่น การเก็บภาษีสนามกอล์ฟ และภาษีอาบอบนวด (ที่มาภาพประกอบ: bureauveritas.com)
9 ธ.ค. 2558 เว็บไซต์แนวหน้า รายงานว่าแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่ากรมสรรพสามิตได้เสนอแผนการปฏิรูปภาษีให้คณะกรรมการปฏิรูปภาษีที่มีนายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลังโดยส่วนหนึ่งมีการเสนอให้จัดเก็บภาษีสินค้าที่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม โดยเสนอให้จัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันหล่อลื่นทุกประเภท เนื่องจากเห็นว่าน้ำมันหล่อลื่นและบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นมีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมมาก ย่อยสลายได้ยากต้องใช้เวลานานหลายปี
นอกจากนี้ ภาษีสรรพสามิตมีอัตราพิกัดภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันในกฎหมายของกรมสรรพสามิตอยู่แล้วที่เพดาน 10% สามารถดำเนินการได้ทันทีเพียงแต่ออกเป็นประกาศกระทรวงเพิ่มเติมกำหนดอัตราที่จะจัดเก็บเท่านั้น
ทั้งนี้การเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมจากน้ำมันหล่อลื่นไม่ได้เม็ดเงินภาษีเป็นจำนวนมาก แต่เป็นการเก็บเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมของประเทศและโลก ซึ่งเป็นความร่วมมือของทุกประเทศในโลกที่พยายามรณรงค์การรักษาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาโลกร้อนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ กรมสรรพสามิตได้เปลี่ยนการเก็บภาษีรถยนต์จากความจุกระบอกสูบ มาเป็นการเก็บจากการเก็บการปล่อยค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งก็มีเป้าหมายเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
แหล่งข่าวกล่าวว่า กรมสรรพสามิตยังเสนอการเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมอีกหลายตัว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบายและต้องให้แน่ใจว่าการเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมในสินค้าต่างๆ จะทำให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด คือ ให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่รับภาระส่วนนี้ได้ และไม่ผลักภาระภาษีไปให้ผู้บริโภคทั้งหมด
นอกจากนี้ กรมสรรพสามิตยังเสนอการยกเลิกการเก็บภาษีบางตัวที่เห็นว่าไม่มีความจำเป็น ได้ภาษีน้อย เช่น การเก็บภาษีสนามกอล์ฟ และภาษีอาบอบนวด ให้คณะกรรมการปฏิรูปพิจารณาด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าไปเพิ่มประสิทธิภาพด้านอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การยกเลิกการเก็บภาษีดังกล่าวต้องพิจารณาให้รอบคอบเพราะอาจถูกมองว่ายกเลิกเก็บภาษีให้คนรวยได้ และเป็นการยกเลิกภาษีอบายมุขได้
สำหรับในส่วนของการกลับมาเก็บภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคม ทางกรมสรรพสามิตไม่ได้เสนอให้คณะกรรมการปฏิรูปภาษีพิจารณา เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ฝ่ายนโยบายจะสั่งการลงมาว่าควรให้เก็บหรือไม่ เพราะรัฐบาลส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงการสื่อสารในต้นทุนที่ถูก ดังนั้น หากจะมีการเก็บภาษีสรรพสามิตโทรคมนาคมอาจจะกระทบกับนโยบายของรัฐบาลได้
ในส่วนของการปฏิรูปกรมสรรพสามิตเรื่องสำคัญที่สุด คือ การแก้ไขกฎหมายที่มีอยู่ 7 ฉบับ ให้เป็น พ.ร.บ.สรรพสามิตเพียงฉบับเดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการและการทำงานของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ ยังมีการเปลี่ยนฐานการเก็บภาษีสินค้าทุกประเภทจากราคาหน้าโรงงานหรือราคาสำแดงนำเข้า มาเป็นราคาขายปลีกแนะนำ คาดว่ากฎหมายจะเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติ(สนช.) ต้นปีหน้า และมีผลบังคับในช่วงกลางปี
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ