เศรษฐกิจซบฉุดยอดจดทะเบียนธุรกิจเดือน ก.พ.ลด

13 มี.ค. 2558 | อ่านแล้ว 1569 ครั้ง


	เศรษฐกิจซบฉุดยอดจดทะเบียนธุรกิจเดือน ก.พ.ลด

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยยอดจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใหม่เดือนกุมภาพันธ์ยังลดลงต่อเนื่องจากเศรษฐกิจยังชะลอตัวต่อเนื่อง

13 มี.ค. 2558 ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่าการจดทะเบียนธุรกิจเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ 5,631 ราย ลดลง 349 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2558 ซึ่งมีจำนวน 5,980 ราย และเพิ่มขึ้น 777 ราย คิดเป็น ร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งมีจำนวน 4,854 ราย สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวน 1,113 ราย

สำหรับทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีทั้งสิ้น 14,815 ล้านบาท ลดลง 3,805 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2558 ซึ่งมีจำนวน 18,620 ล้านบาท และลดลง 3,717 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ซึ่งมีจำนวน 18,532 ล้านบาท  ส่วนธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป 657 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 299 ราย ธุรกิจทำบัญชีและตรวจสอบบัญชี 164 ราย ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ 125 ราย และขายส่งเครื่องจักร 116 ราย

ขณะที่ผลการติดตามการจดทะเบียนธุรกิจค้าสลาก พบว่าช่วงก่อนออกคำสั่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพื่อกำกับดูแลธุรกิจค้าสลาก โดยกำหนดให้ผู้ที่จะจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลากต้องแสดงหลักฐานต้นฉบับยืนยันตัวบุคคล เอกสารสิทธิ์ของสถานที่ตั้งสำนักงาน และหลักฐานแสดงฐานะทางการเงิน มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลากจำนวนมาก โดยปี 2556 (ม.ค. – ส.ค.) มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลาก เฉลี่ยเดือนละ 607 ราย และจดทะเบียนเลิกเฉลี่ยเดือนละ 77 ราย คิดเป็นอัตราส่วนตั้งใหม่ต่อเลิก 8 : 1  ทั้งนี้ หลังจากออกคำสั่งครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2556 บังคับเฉพาะผู้ที่จะจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลาก ส่งผลให้มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลาก (ก.ย. – พ.ย.56) เฉลี่ยเดือนละ 112 ราย และจดทะเบียนเลิกเฉลี่ยเดือนละ 102 ราย คิดเป็นอัตราส่วนตั้งใหม่ต่อเลิก 1 : 1 ต่อมาเมื่อออกคำสั่งครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2556 บังคับผู้ที่จดทะเบียนจัดตั้งหรือเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ให้ประกอบธุรกิจค้าสลาก ส่งผลให้มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลาก (ธ.ค.56 – ม.ค.58) เฉลี่ยเดือนละ 14 ราย และจดทะเบียนเลิกเฉลี่ยเดือนละ 235 ราย คิดเป็นอัตราส่วนตั้งใหม่ต่อเลิก 1 : 17 และล่าสุดกรมฯ ได้ออกคำสั่งครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 บังคับผู้ที่จดทะเบียนจัดตั้งหรือเปลี่ยนแปลงทุกประเภทที่เกี่ยวกับธุรกิจค้าสลากส่งผลให้เดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจค้าสลาก 3 ราย และจดทะเบียนเลิก 446 ราย คิดเป็นอัตราส่วนตั้งใหม่ต่อเลิก 1 : 149

อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจำกัดดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ 602,976 ราย มีทุนจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 15.91 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 421,433 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,080 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 180,463 ราย โดยเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านคิดเป็นร้อยละ 6 และพบว่าการจดทะเบียนจัดตั้งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี มีอัตราลดลงเฉลี่ยร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมของทุกปี สำหรับแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งไตรมาส 1 ปี 2558 มีแนวโน้มสูงขึ้นจากช่วงเดียวของปีก่อน โดยจำนวนการจัดตั้ง 2 เดือนแรกไตรมาส 1 ปี 2558 สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนคิดเป็นร้อยละ 14 และคาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการของรัฐบาลในการเร่งรัดการเบิกจ่ายและการลงทุนจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อไป แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจด้านต่าง ๆ ได้แก่ ราคาน้ำมัน ราคาสินค้าเกษตร การบริโภคภาคเอกชน การลงทุน การท่องเที่ยว และการส่งออกที่มีสัญญาณดีขึ้น แต่ยังคงเปราะบางตามภาวะเศรษฐกิจโลก ซึ่งจะส่งผลต่อการจดทะเบียนจัดตั้งโดยรวม

สำหรับการเปิดให้บริการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดข้ามเขตจังหวัดตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2557 โดยเดือนกุมภาพันธ์ 2558 มีการยื่นขอจดทะเบียนข้ามเขต 808 ราย จากการจดทะเบียนทั่วประเทศ 5,631 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 14 แบ่งเป็นส่วนกลาง 585 ราย คิดเป็นร้อยละ 10 ซึ่งสำนักงานในส่วนกลางที่รับจดทะเบียนข้ามเขตมากที่สุด คือ ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง (กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สนามบินน้ำ) 143 ราย รองลงมา สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 5 (บางนา) 100 ราย และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 3 (รัชดาภิเษก) 92 ราย ส่วนภูมิภาค 223 ราย คิดเป็นร้อยละ 4โดยสำนักงานในส่วนภูมิภาคที่รับจดทะเบียนข้ามเขตมากที่สุด คือ สพค.จังหวัดปทุมธานี 30 ราย รองลงมา สพค.ชลบุรี 22 ราย และสพค.จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 18 รายเป็นต้น

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: