วันนี้ (17 เม.ย.) ห้าง-โรงงาน เอชนต่างๆ เข้าร่วมลดใช้ไฟฟ้าเพื่อลดความเสี่ยงจากก๊าซเมียนมาร์ปิดซ่อม เดินห้างอาจเย็นน้อยลงบ้าง ส่วนค่าไฟฟ้าเอฟทีย้ำลดลงแน่ รอตัวเลขแอลเอ็นจีและการใช้น้ำมัน

17 เม.ย. 2558 สำนักข่าวไทยรายงานว่านายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า ในวันนี้ (17 เม.ย.) เป็นวันที่สองที่เอกชนซึ่งใช้ไฟฟ้สราว 720  เมกะวัตต์ จะต้องลดการใช้ไฟฟ้าตามที่ได้สมัครโครงการความร่วมมือลดการใช้ไฟฟ้า (Demand Response)  เพื่อบริหารความต้องการใช้กำลังไฟฟ้าในช่วงเหตุการณ์แหล่งก๊าซยาดานาและซอติก้าหยุดผลิต ในช่วงวันที่ 10 – 27 เมษายน 2558 โดยช่วงที่ลดใช้ไฟฟ้า10.00 – 12.00น., 14.00 – 17.00 น. และ 19.00 – 22 .00 น. ในวันที่10 ,17 ,18 และ 20 เมษายนนี้ โดยคาดว่าวันนี้ช่วงบ่ายความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มสูงขึ้นเพราะหลายฝ่ายเริ่มกลับมาทำงานตามปกติ

“ห้างสรรพสินค้าและไฮเปอร์มาเก็ตหลายแห่งเข้าร่วมโครงการ ซึ่งการลดใช้ไฟฟ้าอาจะต้องปิดชิลเลอร์ลง และอาจทำให้แอร์ในห้างอาจเพิ่มสูงขึ้นบ้าง ก็นับเป็นความร่วมมือลดความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม จนจบโครงการหากมีการลดใช้ไฟฟ้าได้เพียง 500 จากที่สมัครมา 720. เมกะวัตต์ก็นับว่าประสบความสำเร็จ”นายวีระพล กล่าว

ส่วนแนวโน้มค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ หรือเอฟทีงวดใหม่ ( พ.ค.-ส.ค.) มีทิศทางลดแน่นอน แต่ขณะนี้กำลังถกเถียงเรื่องราคานำเข้าแอลเอ็นจี ซึ่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ.) ประเมินแตกต่างจากตัวเลขของ บมจ.ปตท.ที่เป็นผู้นำเข้า จึงต้องหาข้อยุติที่เป็นตัวเลขที่แท้จริง ซึ่งทั้งหมดจะสรุปได้ในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ยังรอตัวเลขสรุปเรื่องการใช้น้ำมันผลิตไฟฟ้าทดแทนก๊าซเมียนมาร์ซึ่งพบว่าตัวเลขสูงกว่าแผนเล็กน้อย

ด้านศูนย์เฝ้าระวังวิกฤติพลังงานช่วงเทศกาลสงกรานต์ กระทรวงพลังงาน ประจำวันที่ 17 เมษายน  2558 ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด หรือพีคไฟฟ้าประจำวัน (Daily Load Peak) จาก โดยเมื่อวานนี้  (16 เม.ย.) อุณหภูมิในช่วงที่ใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 31.9 องศาเซลเซียส เมื่อเวลา 19.40 น. ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในระบบจาก กฟผ. อยู่ที่ 21,098.9 MW คาดว่า Peak สูงสุดของปีนี้ ประมาณการว่าจะอยู่ที่ 27,500 MW ในระหว่างวันที่ 23-25 เมษายน 2558

ส่วนการขนส่งและสำรองน้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล  สนับสนุน   การใช้ที่โรงไฟฟ้าจังหวัดราชบุรีนั้น ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้โดยมีการใช้น้ำมันเตาสะสม 27.6 ล้านลิตร การใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มอีก 1.9 ล้านลิตร รวมใช้สะสม 4.0 ล้านลิตร ส่วนการใช้ NGV ในภาคตะวันตกพบว่ามีการใช้อีก 18 ล้าน-ลบ.ฟ. ในขณะที่ระบบ Line-Pack ยังมีปริมาณก๊าซฯ สำรองเหลืออยู่อีก 267 ล้าน-ลบ.ฟ น่าจะมีเพียงพอต่อการใช้งานตามแผน ยังใช้ต่อเนื่องได้อีกอย่างน้อย 8 วัน