สรุปข่าวอาเซียนประจำสัปดาห์ 13 - 19 เม.ย. 2558

19 เม.ย. 2558 | อ่านแล้ว 1798 ครั้ง


	สรุปข่าวอาเซียนประจำสัปดาห์ 13 - 19 เม.ย. 2558

ฟิลิปปินส์

Ameril Umbra Kato ผู้นำกลุ่มกบฏบังซาโมโรฟิลิปปินส์ (The Bangsamoro Islamic Freedom Fighters) เสียชีวิตด้วยวัย 68 หลังตกเป็นบุคคลที่ทางการต้องการตัวมากที่สุดอย่างยาวนาน โดยสาเหตุของการเสียชีวิตมาจากสุขภาพที่ย่ำแย่จากที่เคยหัวใจล้มเหลวมาก่อนหลายครั้ง อย่างไรก็ตามหลังจากการเสียชีวิตของเขากลับไม่ได้ส่งผลให้กลุ่มบังซาโมโรหยุดการเคลื่อนไหว เนื่องจากยังมีกองทัพอีกจำนวนมาก และคาดว่ากลุ่มจะเลือกผู้นำคนใหม่ในเร็วๆ นี้ ลิงค์ข่าว

พบตัวเลขนักข่าวเสียชีวิตอย่างต่ำ 23 คน เป็นนักข่าววิทยุ 16 คน และนักข่าวหนังสือพิมพ์ 7 คน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2010 ถึงเดือนตุลาคม 2013 ซึ่งเป็น 40 เดือนแรกของการปกครองสมัยประธานาธิบดี เบนิกโน อากีโนที่ 3 (Benigno Aquino III) ถือเป็นช่วงที่วงการสื่อสารมวลชนในฟิลิปปินส์สูญเสียนักข่าวไปมากที่สุด เมื่อเทียบกับช่วงของประธานาธิบดีก่อนหน้านี้ 4 คน รวมถึงสมัยที่แม่ของประธานาธิบดีคนปัจจุบัน Corazon 'Cory' C. Aquino เป็นประธานาธิบดีอีกด้วย ลิงค์ข่าว

พม่า 

ภายหลังการสู้รบระหว่างรัฐบาลพม่าและกลุ่มโกกั้ง รวมถึงทหารจากชายแดนจีน ส่งผลให้เมืองล่าเสี้ยว (Lashio) กลายเป็นที่พักพิงของผู้ลี้ภัยจำนวนมากที่หลบหนีการสู้รบ ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดการให้ที่พักตามวัด บางแห่งต้องสร้างโรงเรียนและอาคารเพื่อรองรับผู้คนจากที่ต่าง ๆ และจากหลากศาสนาที่อาศัยในเมืองนี้ สำนักข่าว Irrawaddynews ประมวลภาพชีวิตของผู้คนในเมืองหลังเกิดเหตุการปะทะระหว่างคนแต่ละกลุ่ม ที่คาดว่าการสู้รบจะยืดเยื้อต่อไป อย่างไรก็ตามผู้นำศาสนาในล่าเสี้ยว โดยเฉพาะพุทธและมุสลิม เตรียมจัดกิจกรรมส่งเสริมความเข้าใจในความหลากหลายของชาติพันธุ์และศาสนาโดยเน้นไปที่เยาวชน หวังจะลอดทอนความขัดแย้งโดยไม่รอการช่วยเหลือจากรัฐบาลพม่าและจีน ลิงค์ข่าว

อินโดนีเซีย

ในการประชุม Asia-Africa Summit ที่หลายประเทศในเอเชียร่วมพูดคุยและเซ็นสัญญาทางการค้า ภายหลังมีแผนลดภาษีสินค้า นำเข้า- ส่งออก ระหว่างสองทวีป ส่งผลให้อินโดนีเซียเตรียมเดินหน้าลงทุนในแอฟริกาภายในปีนี้ โดยหัวหน้าศูนย์ความสัมพันธ์เอเชีย-แอฟริกา ของกระทรวงต่างประเทศอินโดนีเซียเผยว่า "แอฟริกาเป็นแหล่งโอกาสที่ดีมาก และเราควรเรียนรู้โมเดลความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอินเดีย ซึ่งถือเป็นบทเรียนที่อินโดนีเซียควรให้ความสำคัญ เพราะภาษีที่เคยเป็นกำแพงการค้า ถูกลดทอนลงแล้ว" นอกจากนี้ ทวีปแอฟริกามีเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วแห่งหนึ่งในโลก จากจำนวนชนชั้นกลางเพิ่มขึ้น คล้ายคลึงกับสถานการณ์ในทวีปเอเซีย รายได้จากการค้าระหว่างสองทวีปนี้กระโดดจาก 2.8 พันล้านในปี 1990 เป็น 270 พันล้านในปี 2012 ลิงค์ข่าว

พรรค The Islam-based United Development Party (PPP) ของอินโดนีเซียเตรียมร่างกฏหมายห้ามผลิต ขาย หรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศอินโดนีเซีย โดยได้รับการสนับสนุนจากพรรค The Prosperous Justice Party (PKS) หากกฏหมายฉบับนี้ได้รับการบังคับใช้ ผู้ที่ลักลอบดื่มเครื่องดื่มที่บรรจุแอลกอฮอล์เกิน 1 เปอร์เซ็นต์จะถูกจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนถึง 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 500 ล้านรูเปีย ขณะที่ผู้ผลิตจะถูกจำคุก 2 ถึง 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000 ล้านรูเปีย (ราว 2.5 ล้านบาท) อย่างไรก็ตามที่นั่งในสภาของทั้งสองพรรครวมกันคือ 79 ที่นั่ง ขณะที่สภาประกอบด้วย 560 ที่นั่ง และพรรคอื่นๆ ยังไม่มีทีท่าใดๆ ต่อร่างกฏหมายฉบับนี้ ลิงค์ข่าว

ภายหลังกฏหมายห้ามการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านค้าสะดวกซื้อของอินโดนีเซียริ่มมีผลบังคับใช้ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้บริโภคต้องซื้อเครื่องดื่มที่บรรจุแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 1-5% ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะเท่านั้น โดยรัฐบาลเผยว่าต้องการปกป้องศีลธรรมของประชาชนและป้องกันการดื่มของเด็กอายุน้อย นอกจากนี้ยังเตรียมเพิ่มมาตรการควบคุมการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายเห็นว่ากฏหมายดังกล่าวจะส่งผลกับอุตสากรรมการท่องเที่ยวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะที่ผ่านมาอินโดนีเซียมีรายได้จากการขายเบียร์ให้นักท่องเที่ยวมากพอสมควร ลิงค์ข่าว

มาเลเซีย

มาเลเซียคาดการสั่งซื้อปาล์มในประเทศจะเพิ่มขึ้น หลังอินโดนีเซียเตรียมใช้มาตรการเก็บภาษีอัตราใหม่ ซึ่งจะเพิ่มขึ้น 50 ดอลลาร์ต่อการนำเข้าปาล์ม 1 ตัน การปรับภาษีดังกล่าวจะถูกปรับใช้เมื่อได้รับการอนุญาตจากประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ขณะที่นักลงทุนคาดว่าการเพิ่มภาษีจากอินโดนีเซียจะทำให้เกิดการซื้อปาล์มจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียเพิ่มขึ้น เพราะภาษีที่น้อยกว่า และยังไม่มีที่ท่าการปรับภาษีเพิ่มขึ้นในมาเลเซีย ลิงค์ข่าว

ชาวมาเลเซียหนึ่งในสองรายที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่ม ISIS (The Islamic State of Iraq and Syria) ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศซีเรีย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมาเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงโดยกระบวนการสืบสวนไม่เปิดต่อสาธารณะ โดยรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเผยว่า ตำรวจอยู่ระหว่างการตามหาผู้ต้องสงสัยอีกหนึ่งราย ที่หน่วยงานที่รับผิดชอบมีข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัว เพื่อน และการเคลื่อนไหวของเขาแล้ว อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวอาจสร้างความไม่พอใจให้กับชาวมาเลเซียบางกลุ่มที่สนับสนุนกลุ่ม ISIS ซึ่งเป็นเรื่องที่ตำรวจมาเลเซียต้องเตรียมมาตรการป้องกันต่อไป  ลิงค์ข่าว

 

ที่มา

http://www.irrawaddy.org

http://thejakartaglobe.beritasatu.com

http://www.themalaysianinsider.com

http://edition.cnn.com

news.xinhuanet.com/english

www.bbc.com

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: