สมาคมการขนส่งทางอากาศนานาชาติ หรือ International Air Transport Association (IATA) ออกข้อกำหนดฉบับใหม่เกี่ยวกับขนาดของกระเป๋าสัมภาระที่ผู้โดยสารจะถือขึ้นเครื่อง (carry-on bags) ให้มีขนาดเล็กลงจากเดิม (ขอบคุณภาพจาก Washington Post , travel.truelife)
19 มิ.ย. 2558 เว็บไซต์2baht อ้างรายงานจากสำนักข่าว Washington Post และ BBC ระบุว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้สมาคมการขนส่งทางอากาศนานาชาติ หรือ International Air Transport Association (IATA) ออกข้อกำหนดฉบับใหม่เกี่ยวกับขนาดของกระเป๋าสัมภาระที่ผู้โดยสารจะถือขึ้นเครื่อง (carry-on bags) ให้มีขนาดเล็กลงจากเดิม โดยขนาดของกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องตามข้อกำหนดฉบับใหม่คือ 21.5 x 13.5 x 7.5 นิ้ว (หรือ 55 x 35 x 20 ซม.) ซึ่งเล็กลงจากเดิมร้อยละ 21 เมื่อคิดเทียบกับขนาดกระเป๋าที่สายการบินในสหรัฐอเมริกาคือ American Airlines, Delta, United และสายการบินฝั่งอังกฤษอย่าง Easyjet, Ryanair, Virgin Atlantic อนุญาตในปัจจุบัน
กฎข้อนี้ออกแบบมาโดยคำนึงว่าผู้โดยสารทุกคนบนเครื่องจะมีพื้นที่เก็บกระเป๋าเสมอ เพราะสายการบินเริ่มประสบปัญหาว่าที่เก็บกระเป๋าเหนือศีรษะเต็ม เนื่องจากกระเป๋าของผู้โดยสารมีขนาดใหญ่เกินไป และส่งผลให้ผู้โดยสารบางคนที่มาทีหลังต้องโหลดกระเป๋าใต้เครื่อง
ตัวแทนของ IATA ระบุว่าพยายามแก้ปัญหาความไม่แน่นอนของผู้โดยสารคนที่มาขึ้นเครื่องท้ายๆ ว่าสุดท้ายแล้วจะมีที่ว่างสำหรับวางกระเป๋าของตัวเองในห้องโดยสารหรือไม่
ตอนนี้มีสายการบิน 8 รายที่ประกาศว่าจะนำกฎฉบับใหม่นี้มาใช้งาน ได้แก่ Air China, Avianca, Azul, Cathay Pacific, China Southern, Emirates, Lufthansa, Qatar และจะมีสายการบินอื่นๆ เข้าร่วมเพิ่มด้วย
อย่างไรก็ตาม กฎข้อนี้ของ IATA ไม่บังคับว่าสายการบินต้องปฏิบัติตาม และสายการบินสามารถเลือกใช้ขนาดกระเป๋าตามต้องการ
สำหรับขนาดกระเป๋า Carry-on ถือขึ้นเครื่องที่การบินไทยอนุญาตคือ 56x45x25 ซม. หรือ 22 x 18 x 10 นิ้ว โดยมีน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่กว่าข้อกำหนดของ IATA ซึ่งนักเดินทางควรระวังในเรื่องขนาดกระเป๋าของสายการบินที่ปรับมาใช้ตามกฎของ IATA ด้วย โดยตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์ของสายการบินก่อนเดินทาง
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ