18 ก.พ. 58 ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) เสนอเรื่อง การดำเนินงานสนับสนุนงานด้านความมั่นคงของภาครัฐ (การลงทะเบียนการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงิน และการลงทะเบียนการใช้บริการอินเทอร์เน็ตแบบ Free WiFi) โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. ให้ประชาชนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบเติมเงินทุกคนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนให้ลงทะเบียนให้เสร็จสิ้นภายใน 6 เดือน นับตั้งแต่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบและให้สำนักงาน กสทช. ติดตามและประเมินผล หากไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ให้สำนักงาน กสทช. เสนอมาตรการการบังคับการทางกฎหมายที่เหมาะสมต่อไปต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา
2. ให้ประชาชนลงทะเบียนแสดงตัวตนในการใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบ Free WiFi และให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต รวมทั้งผู้จัดให้มีบริการอินเทอร์เน็ตแบบ Free WiFi สนับสนุนการลงทะเบียนผู้ใช้บริการดังกล่าว
ทั้งนี้ ให้สำนักงาน กสทช. เป็นหน่วยงานหลักผู้รับผิดชอบในการดำเนินงานโดยให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และภาคเอกชนให้การสนับสนุนตามที่สำนักงาน กสทช. ร้องขอโดยการดำเนินงานในส่วนของสำนักงาน กสทช. นั้น จะดำเนินการภายใต้กรอบงบประมาณของสำนักงาน กสทช. แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป
อนึ่งก่อนหน้านี้นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีความตกลงร่วมมือกันเพื่อลดกระบวนการในการทำงานร่วมกันให้สั้นที่สุด เพื่อสร้างความอุ่นใจและความมั่นคงให้กับประชาชน โดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ุม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ความมั่นคงของประเทศ และผลกระทบต่างๆ ในเรื่องเหล่านี้ รวมถึงความมั่นคงในเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากการที่มีการใช้ซิมเติมเงินที่ไม่ได้มีการลงทะเบียน เพื่อใช้ในการข่มขู่ต่างๆ ตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์ ข่มขู่หน่วยงานของรัฐ ข่มขู่หลอกลวงประชาชน
สำหรับเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการ ได้แก่ 1. การส่งข้อมูลเกี่ยวกับซิมเติมเงิน โดย กสทช. จะประสานงานในการแจ้งข้อมูลการใช้บริการของผู้ใช้งานซิมเติมเงิน กรณีนำซิมไปใช้ในการกระทำความผิดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือก่ออาชญากรรมต่างๆ ให้กับ สตช.ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด รวมถึงเพื่อเฝ้าระวัง และลดปัญหาจากการใช้ซิมเติมเงินไปก่ออาชญากรรม เพื่อลดระดับความรุนแรงของเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในพื้นที่อื่นๆ
2. จะมีการรณรงค์ให้สถานีตำรวจในทุกท้องที่ร่วมประชาสัมพันธ์แจ้งประชาชนที่ใช้ โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินให้มาลงทะเบียน ภายในวันที่ 31 ก.ค. 58 เพื่อลดการนำซิมเติมเงินไปใช้ก่ออาญชญากรรม ซึ่งในขณะนี้เรื่องการลงทะเบียนซิมนี้อยู่ในระหว่างคณะรัฐมนตรีเตรียมบรรจุเป็นวาระแห่งชาติ
3. เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ เดิมจะมีการพัฒนาโดยการใช้เทคโนโลยีโทรคมนาคมเข้ามาช่วยในการดำเนินการ ปรับเป็นโครงการตู้แดงออนไลน์ ให้ประชาชนมั่นใจว่าเมื่อมีการฝากบ้านไว้กับตำรวจแล้ว จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปดูแลอย่างจริงจัง โดยเจ้าของบ้านสามารถตรวจสอบ และรับทราบได้ทันที่ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าไปดูแลตรวจสอบบ้านผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเจ้าของบ้านเอง
4. โครงการเกี่ยวกับวิทยุชุมชน การออกตรวจตราวิทยุชุมชนที่ออกอากาศ เมื่อมีการออกตรวจตรา จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมออกตรวจไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ กสทช.ทุกที่ กรณีที่ไม่ได้รับการอนุญาตให้ทดลองออกอากาศจะดำเนินการจับกุมทันที
5. เรื่องการตรวจสอบเนื้อรายการที่มีการออกอากาศผ่านวิทยุและโทรทัศน์ รวมทั้งผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความมั่นคง หมิ่นสถาบันต่างๆ หรือกระทบต่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน หากตรวจพบ กสทช.จะรีบส่งเรื่องให้ สตช.ดำเนินการทันที
นอกจาก เรื่องเร่งด่วนดังกล่าว ในเรื่องของการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม ทาง กสทช. ร่วมกับ สตช. จะเร่งดำเนินการเพื่อไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอาเปรียบต่อไป
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ