มาแล้วร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2559 พบกระทรวงศึกษาธิการของบมากที่สุด 

21 พ.ค. 2558 | อ่านแล้ว 4844 ครั้ง


	มาแล้วร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2559 พบกระทรวงศึกษาธิการของบมากที่สุด 

พบ 4 อันดับกระทรวงที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณสูงสุดในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2559 ได้แก่ ศึกษาธิการ, มหาดไทย, กลาโหม และคลัง  (ที่มาภาพ: วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา)

21 พ.ค. 2558 สืบเนื่องจากสำนักนายกรัฐมนตรีได้ส่งรายละเอียดร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 พร้อมเอกสารงบประมาณรายจ่าย ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ผ่านประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติลงวันที่ 14 พ.ค. 2558 ที่ผ่านมานั้น

พบว่ามีการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 เป็นจำนวนไม่เกิน 2,720,000,000,000 บาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่น เป็นจำนวน 2,706,463,896,000 บาท และเพื่อชดใช้เงินคงคลัง เป็นจำนวน 13,536,104,000 บาท

โดยอันดับกระทรวงที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณสูงสุด ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ได้แก่ 

1.กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 520,132,166,300 บาท หรือร้อยละ 19.1 

2.กระทรวงมหาดไทย จำนวน 343,707,272,300 บาท หรือร้อยละ 12.6 

3.กระทรวงกลาโหม จำนวน 207,718,946,800 บาท หรือร้อยละ 7.6 

4.กระทรวงการคลัง จำนวน 199,328,807,200 บาท หรือร้อยละ 7.3 

ที่มาภาพ: วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา

สำหรับงบประมาณ 8 ยุทธศาสตร์ และรายการค่าดำเนินการภาครัฐ ได้แก่

1.ยุทธศาสตร์เร่งรัดวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ วงเงิน 2.47 แสนล้านบาท (247,342.7 ล้านบาท)

2.ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งรัฐ วงเงิน 2.40 แสนล้านบาท (240,418.3 ล้านบาท)

3.ยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม วงเงิน 2.22 แสนล้านบาท (222,375.9 ล้านบาท)

4.ยุทธศาสตร์การศึกษา สาธารณสุข คุณธรรม จริยธรรมและคุณภาพชีวิต วงเงิน 9.94 แสนล้านบาท (994,414.6 ล้านบาท)

5.ยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วงเงิน 7.10 หมื่นล้านบาท (71,060.4 ล้านบาท)

6.ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม วงเงิน 2.73 หมื่นล้านบาท (27,335.5 ล้านบาท)

7.ยุทธศาสตร์การต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ วงเงิน 9 พันล้านบาท (9,099.3 ล้านบาท)

8.ยุทธศาสตร์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี วงเงิน 3.64 แสนล้านบาท (364,645.7 ล้านบาท)

สุดท้ายรายการค่าดำเนินการภาครัฐ วงเงิน 5.43 แสนล้านบาท (543,307.6 ล้านบาท) เพื่อรองรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นโดยมิได้คาดหมายสำหรับกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นการบริหารจัดการบุคลากรภาครัฐให้มีประสิทธิภาพรวมทั้งการบริหารหนี้ภาครัฐและรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง

ที่มาภาพ: วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา

โดยเมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมาสำนักข่าวไทยรายงานว่าที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ชี้แจงรายละเอียดร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 2.72 ล้านล้านบาท ว่า ต้องร่วมสร้างอนาคตประเทศไทย หลักการและเหตุผลการจัดงบเพื่อเป็นเครื่องมือผลักดันนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะไทยมีแนวโน้มการขยายตัวการท่องเที่ยวมากขึ้น ในปี2559 รวมถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 3.7-4.7 การใช้จ่ายของภาครัฐได้เร่งรัดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ในปัจจุบัน รัฐมีฐานะการคลังรายได้สุทธิกว่า 2 ล้านล้านบาท มีงบขาดดุลกว่า 3 แสนล้านบาท

“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเร่งรัดวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ทั้งการพัฒนาคน การสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายหลักใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม ให้ประเทศชาติมีความมั่นคงทุกมิติ มั่งคั่งในการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักใช้ตลอดเวลา พร้อมวาง 8 ยุทธศาสตร์ในการจัดทำเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงทรัพยากรอย่างทั่วถึง โดยนโยบายและแนวทางการจัดสรรงบประมาณ คือพิจารณาให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงิน เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบปี 2559 และจัดทำงบในลักษณะบูรณาการ 19 เรื่อง” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงงบประมาณการเตรียมพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน วงเงิน  6,013.7 ล้านบาท เพื่อให้ไทยดำเนินการตามพันธกิจการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ขณะที่การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 30,550.9 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนบูรณาการหน่วยงานภาครัฐให้ดำเนินการอย่างเป็นระบบ มีเอกภาพและประสิทธิภาพ สำหรับการพูดคุยสันติภาพ รัฐบาลยังดำเนินการต่อเนื่อง แต่การพูดคุยต้องกำหนดหัวข้อการพูดคุยให้ชัดเจน เพื่อให้เห็นผล

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ วงเงินทั้งสิ้น 1,168.8 ล้านบาท  เพื่อแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองและบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฏหมายให้เป็นระบบ รวมถึงดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ สร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และดำเนินการตามกระบวนการทางการทูตและต่างประเทศ เพื่อให้ประชาคมโลกเข้าในสถานการณ์ของไทยอย่างถูกต้อง

“การแก้ไขปัญหาชาวโรฮิงญา ยืนยันว่าไทยจะไม่ตั้งศูนย์พักพิง การดำเนินการจะเป็นไปตามขั้นตอน คือการควบคุมตัวไว้  เพราะไทยจะแบกรับภาระไม่ไหว เนื่องจากที่ผ่านมาไทยตั้งศูนย์พักพิงตามแนวชายแดนแล้ว และขณะนี้ยังต้องดูแลหลายด้าน โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้ ถือว่าไทยปฎิบัติตามองค์การสหประชาชาติแล้ว ส่วนหากใครจะให้การช่วยเหลือก็ยินดี  ทั้งนี้ ขอให้สื่อมวลชนช่วยกันนำเสนอเรื่องนี้ในทางที่ดี ขณะเดียวกันคนไทยต้องมีข้อมูลที่ชัดเจน และต้องช่วยกันไม่ให้เกิดผลกระทบตามแนวชายแดน ซึ่งไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือทุกมิติ อาเซียนจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกิจการภายในของต่างประเทศ รัฐบาลทำทุกอย่างให้เส้นเขตแดน เป็นเส้นแห่งความร่วมมือและจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อคนไทยมากที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ชี้แจงยุทธศาสตร์ในการจัดสรรงบฯ ปี 2559  โดยแบ่งเป็น 8 ยุทธศาสตร์ได้แก่ 1.ยุทธศาสตร์เร่งรัดวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืน เน้นการจัดสรรงบประมาณในการวางรากฐานการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ สร้างเสริมอาชีพและรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน  2.ยุทธศาสตร์ความมั่นคงแห่งรัฐ เน้นการใช้จ่ายเพื่อรักษาความมั่นคง เทิดทูนและพิทักษ์รักาสถาบันพระมหากษัตริย์ รักษาความสงบเรียบร้อยส่งเสริมการบังคับใช้กฏหมายอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในประเทศ 3.ยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม เน้นการสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจในระยะยาวและมีเสถียรภาพทางการคลังในระยะยาว ส่งเสริมประสิทธิภาพในภาคการผลิต ยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมอย่างเป็นระบบ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 4.ยุทธศาสตร์การศึกษา สาธารณสุข คุณธรรม จริยธรรมและคุณภาพชีวิต ที่เป็นการสนับสนุนการขยายโอกาสและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม รวมทั้งมีสวัสดิการทางสังคมในการขยายโอกาสทางสังคม 5. ยุทธศาสตร์การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นการจัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างความมั่นคงของฐานทรัพยากรธรรมชาติรวมทั้งการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม จัดทำแผนฟื้นฟูและป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ 6.ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันด้านวิทยาสาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและนวัตกรรม รวมทั้งสร้างกระบวนการวิจัยและพัฒนาที่เป็นระบบ 7.ยุทธศาสตร์การต่างประเทศและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีและขยายความร่วมมือระหว่างประเทศและให้ความช่วยเหลือในการร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อบ้าน และ 8.ยุทธศาสตร์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ที่จะสร้างสมดุลการพัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการภาครับให้มีความพร้อมเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ มีความคุ้มค่าและโปร่งใสสามารถตรวจสอบได้

“ขอขอบคุณสมาชิกสนช. ที่รับฟัง ยืนยันและให้ความมั่นใจว่าจะใช้งบประมาณให้มีประสิทธิภาพ และจะให้คสช.เข้าไปดูแลตรวจสอบทุกโครงการให้เกิดความโปร่งใส ยอมรับว่าการทำงานมีแรงกดดันและมีความคาดหวัง แต่ยืนยันว่าไม่เอื้อประโยชน์ให้กับใครทั้งสิ้น ส่วนการปรับย้ายข้าราชการ เป็นการปรับย้ายเพื่อการบริหารราชการแผ่นดิน พระพุทธเจ้าสอนว่าคนมีทั้งคนดีและคนไม่ดี จะคัดออกทั้งระบบคงไม่ได้ มีคนบอกว่าให้ใช้มาตรา 44 ในการปรองดองและการนิรโทษกรรม แต่ยังไม่เข้าขั้นตอนซักเรื่อง” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ทั้งนี้ สมาชิก สนช. ได้แสดงความจำนงอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 จำนวน 22 คน โดยจะให้เวลาอภิปรายคนละ 8 นาที

 

>>ดาวน์โหลดร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559<<

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: