อากาศร้อนจัดส่งผลการใช้ไฟทำสถิติใหม่เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 27,139 เมกะวัตต์

22 เม.ย. 2558 | อ่านแล้ว 2250 ครั้ง


	อากาศร้อนจัดส่งผลการใช้ไฟทำสถิติใหม่เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 27,139 เมกะวัตต์

อากาศร้อนจัดเมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) อุณหูมิเฉลี่ยทั่วประเทศ 38.3 องศา ส่งผลให้เกิดการใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือพีก เวลา 14.13 น. 27,139.0 เมกะวัตต์ ทำลายสถิติพีกเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ระดับ 27,056.8 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นสถิติของประเทศไทย (ที่มาภาพ: สำนักข่าวไทย)

22 เม.ย. 2558 สืบเนื่องจากสภาวะอากาศร้อนจัดเมื่อวานนี้ (21 เม.ย.) ที่มีอุณหูมิเฉลี่ยทั่วประเทศสูงถึง 38.3 องศา ได้ส่งผลให้ยอดใช้ไฟฟ้าสูงสุดสร้างสถิติใหม่ อยู่ที่ 27,139 เมกะวัตต์ ทำลายสถิติปี 2557

สำนักข่าวไทยรายงานว่านายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้รับรายงานจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถึงสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือพีก (Peak) ของประเทศไทย ที่ล่าสุดได้สร้างสถิติใหม่ของประเทศเป็นที่เรียบร้อย โดยมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 27,139 เมกะวัตต์ เมื่อเวลา 14.13 น. ทำลายสถิติพีกเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา (วันที่ 7 เม.ย.) ที่ระดับ 27,056.8 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นสถิติที่ได้ทำลายสถิติพีกของปี 2557 ที่ระดับ 26,942.1 เมกะวัตต์มาแล้ว โดยสถิติพีกใหม่ที่เกิดขึ้นครั้งนี้มาจากสาเหตุสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวอุณหภูมิเฉลี่ยสูงถึง 38.3 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้ จากสถิติการใช้ไฟฟ้าสูงสุดดังกล่าว กระทรวงพลังงานคาดว่ามีโอกาสที่ประเทศไทยจะได้สร้างสถิติพีกของปีนี้อีกหลายครั้ง หากสภาพอากาศยังคงร้อนอบอ้าว และมีแนวโน้มที่อุณหภูมิจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งจะทำให้เกิดการใช้พลังงานมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะจากภาคธุรกิจ อาคารสำนักงาน ออฟฟิศ และประชาชนทั่วไป ซึ่งสาเหตุหลักมาจากกรณีที่มีการใช้เครื่องปรับอากาศที่ต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้นในช่วงนี้

ดังนั้น กระทรวงพลังงานจึงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนและประชาชนทั่วไปช่วยกันประหยัดไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อนนี้ โดยเฉพาะการทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศ หรือล้างแอร์ในช่วงหน้าร้อนนี้ เพื่อให้แอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และทำความเย็นได้ดีขึ้น ร่วมกันปิดไฟดวงที่ไม่ใช้ การปรับแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส หรือถ้าสามารถปรับอุณหภูมิแอร์เพิ่มขึ้นทุก 1 องศาเซลเซียส จะช่วยประหยัดไฟฟ้าลงได้ร้อยละ 10 เช่น การปรับอุณหภูมิแอร์ที่ 26 องศาเซลเซียส การปลดปลั๊กไฟที่ไม่ใช้ เปลี่ยนหลอดไฟประหยัดพลังงาน โดยมาตรการดังกล่าวจะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของประเทศ และลดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานขอแจ้งสรุปผลในช่วงที่มีการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติจากประเทศเมียนมาร์ ระหว่างวันที่ 10 – 19 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติเพื่อซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซยานาดา-เยตากุน นั้น ไม่ได้มีการส่งผลกระทบใด ๆ ต่อประเทศไทย และปัจจุบันอยู่ระหว่างการหยุดซ่อมบำรุงที่แหล่งซอติก้า ประเทศเมียนมาร์ (20 – 27 เมษายน 2558) โดยกระทรวงพลังงานขอยืนยันว่าสถานการณ์การผลิตไฟฟ้าในประเทศมีความมั่นคงต่อเนื่อง และพร้อมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงปลายเดือนเมษายนนี้

 
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: