เพราะเหตุใด? พบหลายหน่วยงานรัฐ 'อั้น' เบิกจ่ายงบปี 58

24 มี.ค. 2558 | อ่านแล้ว 2178 ครั้ง


	เพราะเหตุใด? พบหลายหน่วยงานรัฐ 'อั้น' เบิกจ่ายงบปี 58

หลังเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ส่งหนังสือจี้หัวหน้าทุกส่วนราชการ กระทรวงและรัฐวิสาหกิจต่างๆ  ให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผน พบหลายหน่วยงานอั้นยังไม่เบิกจ่ายงบปี 58 กรมประชาสัมพันธ์ยังไม่มีการเบิกจ่ายสักบาท จากที่ได้จัดสรรงบ 1,169 ล้านบาท ส่วนหน่วยงานที่เบิกจ่ายงบลงทุนได้สูงที่สุดคือ มหาวิทยาลัยมหิดล เบิกจ่ายได้ถึง 78.86% รองลงมาคือ ศาลยุติธรรมเบิกจ่ายได้ 69.10% สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 54.90% กองบัญชาการกองทัพไทย เบิกจ่าย 51.08% กรมพัฒนาที่ดิน 36.35% กรมชลประธาน 35.53% และกรมทางหลวงชนบท 33.09% ส่วนหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญมีการเบิกจ่ายไปถึง 74%

24 มี.ค. 2558 สืบเนื่องมาจากกรณีที่นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ส่งหนังสือถึงหัวหน้าทุกส่วนราชการ รวมถึงรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเจ้าสังกัดกำกับดูแลส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่างๆ เพื่อกำชับให้ส่วนราชการ หน่วยงานอื่นของรัฐ และผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้นั้น เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมาเว็บไซต์มติชนออนไลน์ได้เผยแพร่รายละเอียดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 ของหน่วยงานต่างๆ ไว้ดังนี้

การเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปี 2558 ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณวันที่ 1 ตุลาคม 2557-13 มีนาคม 2558 กรมบัญชีกลางได้รายงานว่า หน่วยงานที่ได้รับงบประมาณรายจ่ายลงทุนเกิน 1,000 ล้านบาท เบิกจ่ายได้ต่ำที่สุด 10 อันดับ คือ 

1.กรมประชาสัมพันธ์ ยังไม่ได้มีการเบิกจ่ายแม้แต่บาทเดียว จากงบลงทุนที่ได้รับจัดสรร 1,169 ล้านบาท 

2.กรมการท่องเที่ยว เบิกจ่าย 6 หมื่นบาท คิดเป็น 0.05% จากงบลงทุนที่ได้รับจัดสรร 1,384 ล้านบาท 

3.สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เบิกจ่าย 8.34 ล้านบาท คิดเป็น 0.33% จากงบลงทุนที่ได้รับจัดสรร 2,533 ล้านบาท 

4.กรมบรรเทาและป้องกันสาธารณภัย เบิกจ่าย 52 ล้านบาท หรือ 1.40% จากงบลงทุนที่ได้รับ 3,765 ล้านบาท 

5.กรมที่ดินเบิกจ่าย 74 ล้านบาท คิดเป็น 4.16% จากงบลงทุนที่ได้รับ 1,798 ล้านบาท

6.กรมการปกครองเบิกจ่าย 94 ล้านบาท คิดเป็น 7.86% จากงบลงทุนที่ได้รับ 1,204 ล้านบาท 

7.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เบิกจ่าย 586 ล้านบาท คิดเป็น 8.53% จากงบลงทุนที่ได้รับ 6,868 ล้านบาท 

8.กรมราชทัณฑ์เบิกจ่าย 122 ล้านบาท คิดเป็น 8.61% จากงบประมาณที่ได้รับ 1,423 ล้านบาท 

9.กรมเจ้าท่า เบิกจ่าย 337 ล้านบาท คิดเป็น 8.86% จากงบประมาณที่ได้รับ 3,813 ล้านบาท 

10.สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเบิกจ่าย 1,578 ล้านบาท คิดเป็น 9.71% จากงบประมาณที่ได้รับ 16,253 ล้านบาท

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เบิกจ่ายงบลงทุนได้สูงที่สุดคือ มหาวิทยาลัยมหิดล เบิกจ่ายได้ถึง 78.86% รองลงมาคือ ศาลยุติธรรมเบิกจ่ายได้ 69.10% สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 54.90% กองบัญชาการกองทัพไทย เบิกจ่าย 51.08% กรมพัฒนาที่ดิน 36.35% กรมชลประธาน 35.53% และกรมทางหลวงชนบท 33.09%

การจัดอันดับกระทรวงที่เบิกจ่ายงบประมาณในภาพรวมต่ำกว่า 10 อันดับแรก พบว่ากระทรวงที่เบิกจ่ายได้ต่ำสุดคือ 

1.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเบิกจ่าย 2,089 ล้านบาท คิดเป็น 26.35% ของวงเงินงบประมาณที่ได้รับกว่า 7,931 ล้านบาท 

2.กระทรวงคมนาคมเบิกจ่าย 32,140 ล้านบาท คิดเป็น 29.03% จากงบประมาณ 110,722 ล้านบาท

3.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเบิกจ่าย 10,581 ล้านบาท คิดเป็น 34.99% จากงบประมาณ 30,245 ล้านบาท

4.กระทรวงอุตสาหกรรมเบิกจ่าย 2,057 ล้านบาท คิดเป็น 35.13% จากงบประมาณ 5,856 ล้านบาท

5.กระทรวงกลาโหมเบิกจ่าย 70,541 ล้านบาท คิดเป็น 36.56% จากงบประมาณ 192,949 ล้านบาท 

6.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เบิกจ่าย 30,251 ล้านบาท คิดเป็น 37.35% จากงบประมาณ 80,999 ล้านบาท 

7.กระทรวงวัฒนธรรมเบิกจ่าย 2,692 ล้านบาท คิดเป็น 38.20% จากงบประมาณ 7,047 ล้านบาท 

8.กระทรวงสาธารณสุขเบิกจ่าย 43,593 ล้านบาท คิดเป็น 39.75% จากงบประมาณ 109,658 ล้านบาท 

9.ส่วนราชการที่ไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงเบิกจ่ายได้ 47,579 ล้านบาท คิดเป็น 39.80% จากงบประมาณ 119,538 ล้านบาท 

10.กระทรวงพลังงานเบิกจ่าย 793 ล้านบาท คิดเป็น 40.13% จากงบประมาณ 1,976 ล้านบาท 

ในส่วนของกระทรวงที่เบิกจ่ายงบสูงๆ อาทิ หน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญมีการเบิกจ่ายไปถึง 74% กระทรวงแรงงานเบิกจ่ายไปถึง 63.07% กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเบิกจ่าย 60.93% กระทรวงมหาดไทยเบิกจ่าย 49.26% กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเบิกจ่าย 46.51% กระทรวงพาณิชย์เบิกจ่ายไปได้ 46.34% และสำนักนายกรัฐมนตรีเบิกจ่าย 45.31%

 

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

 
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: