คพ.เตือน ฝุ่นละออง จ.สระบุรี ถึงระดับอันตรายกระทบต่อสุขภาพรุนแรง

30 ม.ค. 2558 | อ่านแล้ว 3797 ครั้ง

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2557 นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง ธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า ผลการเฝ้าระวังสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM10 ของกรมควบคุมมลพิษ พบว่าตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗ – ๒๘ มกราคม ๒๕๕๘  มีจำนวนวันที่ฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐานแล้วถึง ๖๙ วัน โดยพบว่าตั้งแต่วันที่ ๑ - ๒๘ มกราคม ๒๕๕๘ มีจำนวนวันที่ฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐานแล้วถึง ๑๗ วัน โดยพบค่าสูงสุดเท่ากับ ๓๐๘ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในช่วงมีผล     กระทบต่อสุขภาพรุนแรงจนถึงระดับอันตราย ทั้งนี้พบว่า PM10  มีค่าสูงในช่วงเย็นถึงค่ำ กลางคืน และเช้าตรู่ของทุกวัน  จึงขอแจ้งเตือนมายังประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองปกคลุม หากหลีกเลี่ยงไม่ได้   ควรสวมหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดจมูก ประชาชนทั่วไปขอให้ติดตามข่าวสารและปฏิบัติตามข้อแนะนำจากภาคราชการ และหากเกิดอาการเจ็บป่วยควรปรึกษาแพทย์

ปัจจุบันในพื้นที่ตำบลหน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี และพื้นที่ข้างเคียง มีจำนวนโรงโม่บดหรือ

ย่อยหินประมาณ ๓๖ แห่ง โรงปูนซิเมนต์ ๓ แห่ง โรงงานปูนขาวประมาณ ๑๒ แห่ง และเหมืองหินจำนวน ๖ ประทานบัตร

ผลการศึกษาวิจัยของกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่าแหล่งกำนิดหลักของฝุ่นละอองในพื้นที่หน้าพระลานมีสาเหตุหลักมาจากถนนและการจราจรมากที่สุดถึงร้อยละ ๔๓ โรงโม่บดหรือย่อยหินร้อยละ ๓๕ และโรงงานปูนขาว/โรงงานปูนซิเมนต์ร้อยละ ๒๑ เหมืองแร่ร้อยละ ๑  ดังนั้นหากสามารถควบคุมฝุ่นละอองจากถนนและการจราจร รวมทั้งแหล่งกำเนิดอุตสาหกรรมในพื้นที่ได้จะสามารถ   ลดและควบคุมปริมาณฝุ่นละอองในพื้นที่ได้อย่างชัดเจน

มาตรการควบคุมและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง

๑) กรมควบคุมมลพิษ จัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถตรวจการณ์ประจำในพื้นที่หน้าพระลานในช่วงวิกฤติตลอด ๒๔ ชั่วโมงเพื่อตรวจสอบปัญหาและประสานแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกรณีพบว่ามีแนวโน้มฝุ่นละอองในพื้นที่สูง

๒) ให้มีการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในเขตควบคุมมลพิษ ตำบลหน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี  เพิ่มขึ้นเป็นเดือนละ ๒ ครั้ง

๓) ให้มีการควบคุมการระบายฝุ่นละอองจากแหล่งกำเนิดอุตสาหกรรมทุกประเภทอย่างเคร่งครัด ทั้งภายในเขตควบคุมมลพิษ และเขตพื้นที่โดยรอบ

๓) ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจจับรถบรรทุกขนส่งที่ไม่ปิดคลุมผ้าใบ หรือปิดคลุม       ไม่มิดชิด โดยให้เปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุด (๕,๐๐๐ บาท)

๔) ให้จังหวัดสระบุรีตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบควบคุม และเฝ้าระวังปัญหา    ฝุ่นละอองในช่วงเวลากลางคืน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ได้ชุดเฉพาะกิจฯ ได้เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๘ เป็นต้นไป

๕) ให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง (อปท.และผู้ประกอบการในพื้นที่) ทำความสะอาดถนนสายหลัก

ได้แก่ ถนนพหลโยธิน ถนนคุ้งเขาเขียว ถนนหน้าพระลาน-หนองจาน ด้วยการฉีดพรมน้ำและล้างถนนเป็นประจำทุกวัน วันละหลายรอบอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการและ อปท.ในพื้นที่เป็นอย่างดี

                ๖) ให้จังหวัดสระบุรีดำเนินการเร่งรัดซ่อมแซมถนนที่ชำรุดให้มีสภาพเหมาะสมกับการใช้งาน โดยล่าสุดสำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดสระบุรีได้รับงบประมาณสำหรับปรับปรุงถนนคุ้งเขาเขียวแล้วและอยู่ระหว่างการดำเนินการประกวดราคาดังกล่าว

                ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา คพ. ร่วมกับทางจังหวัดสระบุรี จัดชุดเฉพาะกิจตรวจสอบและควบคุมฝุ่นละอองในพื้นที่หน้าพระลาน จ.สระบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งในเบื้องต้นมีแผนการตรวจในช่วงเวลากลางคืนตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค. - 8 ก.พ.58 ตั้งแต่เวลา 17.30 น. เป็นต้นไปของทุกคืน

สำหรับการรายงานผลการตรวจสอบพบว่า 1. ได้ตรวจจับรถบรรทุกที่ไม่ปิดคลุมได้รวมทั้งสิ้น 12 ราย แยกเป็น ออกใบสั่ง 9 ราย และ เปรียบเทียบปรับ 3 ราย ตาม พรบ.จราจร และ 2. การตรวจโรงโม่และโรงแต่งแร่ รวมทั้งสิ้น 6 โรง ประกอบด้วย โรงที่ไม่ได้ผลิตในช่วงกลางคืนพบ 3 โรง คือ บ.ศิลาไทยสระบุรี , บ.เกียร์เอนจิเนียร์  และ บ. พรพิศศิลา ส่วนโรงโม่ที่มีการผลิตในช่วงกลางคืนพบ 3 โรง คือ บ. สหพงษ์นราพันธ์ และ บ. สุธากัญจน์ ไม่มีข้อสั่งการจากทีมตรวจ ส่วน บ.ธนชาติคอนสตรัคชั่น หรือคูเปงเซ้ง มีข้อสั่งการให้มีการฉีดพรมน้ำก่อนการตักเทหิน และพื้นที่ลานกอง

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์

www.facebook.com/tcijthai

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: