โครงการปุ๋ย อบจ.บุรีรัมย์พ่นพิษ เกษตรกรนับแสนโดนลอยแพ ถูกพ่อค้าปุ๋ยไล่ฟ้องตัวแทนกลุ่ม 500 ราย ให้ชำระค่าปุ๋ยมูลค่าประมาณ 40-50 ล้านบาท ชาวบ้านร้องทุกไร้คนเหลียวแล ผู้ว่าฯ เมินจัดหาทนายช่วย อ้างต้องสำรวจฐานะรวย-จนก่อน ชาวบ้านครึ่งจังหวัดเคว้ง (ที่มาภาพข่าว: ประชาชาติธุรกิจ)

เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ รายงานเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2559 ที่ผ่านมาว่าเครือข่ายกลุ่มแม่บ้นาเกษตรกรจังหวัดบุรีรัมย์จำนวนกว่า 500 คน ได้เดินทางมาขึ้นศาลจังหวัดนางรอง ครั้งที่ 6 เพื่อต่อสู้คดีปุ๋ย อบจ.บุรีรัมย์ โดยคดีนี้มีตัวแทนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกร 88 กลุ่ม หรือ จำนวนเกือบ 500 รายในพื้นที่ 5 อำเภอ (โนนสุวรรณ หนองหงส์ หนองกี่ ปะคำ นางรอง) ได้ถูก หจก.ดีสิงห์ทวีโชค ผู้ค้าปุ๋ยฟ้องให้ชำระค่าปุ๋ยมูลค่าประมาณ 40-50 ล้านบาท ภายใต้โครงการส่งเสริมอาชีพของคนบุรีรัมย์ ปี 2555-2558 โครงการนี้ต่อเนื่องมา 4 ปี ซึ่งดำเนินการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ 

ทั้งนี้ศาลได้จำหน่ายคดีชั่วคราวไว้ เพื่อรอผลทางคดีอาญาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) โดยศาลได้นัดคู่ความพร้อมกันอีกครั้งในวันที่ 27 มกราคม 2560 

นางระเบียบ ศรีรักษา เกษตรกรที่ถูกฟ้อง กล่าวว่า สิ่งที่ชาวบ้านต้องการในตอนนี้ คือ ขอทนายมาสู้คดีกับโรงงานปุ๋ย โดยขอให้นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนยุติธรรมจังหวัด ได้อนุมัติให้จัดหาทนายมาช่วยต่อสู้คดีให้กับชาวบ้าน ถ้าผู้ว่าฯ ช่วยไม่ได้ก็ขอให้นำเรียนท่านนายกรัฐมนตรีมาช่วยชาวบ้านด้วย เพราะเหตุการณ์ทหารถูกตีท่านก็ยังมองเห็น แต่เกษตรกรยิ่งกว่าถูกทหารตีอีก เกษตรกรเป็นหมื่นเป็นแสนคนไม่มีพึ่งแล้ว 

ด้านนางหนูแดง ทองใบ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.ทุ่งจังหัน อ.โนนสุวรรณ ผู้ถูกฟ้องอีกราย กล่าวว่า เกษตรกรกำลังเดือดร้อนหนัก เพราะยังไม่มีทนายมาต่อสู้คดี ที่ผ่านมาเกษตรกรได้ขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อช่วยอำนวยความยุติธรรมให้แก่ชาวบ้านที่ตกเป็นแพะคดีปุ๋ย โดย กลุ่มเกษตรกรได้เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กับผู้ว่าราชการจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ และ ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

นอกจากนั้นยังได้ยื่นขอสนับสนุนเงินกองทุนยุติธรรมจากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์เป็นประธานเพื่อใช้เป็นค่าจ้างทนายมาต่อสู้คดีแต่ขณะนี้เวลาล่วงเลยมา9เดือนแล้ว ก็ยังไม่จัดหาทนายมาให้ชาวบ้าน โดยอ้างว่าต้องทำตามระเบียล ต้องไปสำรวจรายได้ และ ฐานะรวย-จนของตัวแทนกลุ่มแม่บ้านเกษตรก่อน จึงจะพิจารณาจัดหาทนายให้ได้หรือไม่ ล่าสุดเพิ่งส่งเจ้าหน้าที่ลงมาสอบสวนถามข้อมูลจากผู้ตกเป็นจำเลย และ ถ่ายภาพบ้านพักอาศัยของเกษตรกร

"ชาวบ้านจึงขอให้ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ลงมาดูแลชาวบุรีรัมย์บ้าง เพราะเกิดปัญหาผิดพลาดการดำเนินงานโครงการของรัฐ จึงขอความยุติธรรมให้จัดหาทนายส่วนกลางมาช่วยต่อสู้คดี เพราะเป็นคดีที่ซับซ้อน มีเจ้าหน้าที่รัฐมาเกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน และ ยังมีผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างจำนวนมาก"