พม่า

สื่อพม่าใช้คำเรียกโรฮิงญาว่า "เห็บหมัด" / หนังสือพิมพ์ Global New Light ที่ทำงานภายใต้การกำกับของรัฐบาลที่ผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย โดยมีนางออง ซาน ซูจี ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เขียนข่าวถึงโรฮิงญาว่าเป็นกลุ่มคนที่ไร้คุณธรรม ถูกรังเกียจเพราะมีกลิ่นสาป และดูดเลือดชาวพม่า ทำให้ชาวพม่าต้องระวังอันตรายจากพวกเห็บมนุษย์ที่น่ารังเกียจกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตามข่าวชิ้นนี้ถูกเขียนขึ้นระหว่างกองทัพพม่าใช้ความรุนแรงโจมตีโรฮิงญาที่อาศัยในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของพม่าในช่วงเดือนพฤศจิกายน นอกจากนี้ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลพม่าเคยเรียกโรฮิงญาว่าเป็นกลุ่มคนที่น่าเกลียดเหมือนยักษ์ และสกปรกเกินกว่าที่ทหารจะข่มขืนได้ ขณะที่สมาชิกรัฐสภาบางส่วนยังส่งเสริมมาตรการการขับไล่โรฮิงญาออกจากประเทศอย่างเปิดเผยอีกด้วย ลิงค์ข่าว

ดอว์ซูจีระบุความปรองดองและสันติภาพมีความสำคัญต่อพม่า แต่ไร้เงาโรฮิงญา / นาง ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐพม่ากล่าวขณะร่วมงานเสวนาที่จัดขึ้นโดยกรมพัฒนาวิสาหกิจระหว่างประเทศของสิงคโปร์ว่า ความปรองดองของคนในชาติและสันติภาพมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อพม่า ซึ่งทั้งสองอย่างนี้จะทำให้ประเทศพัฒนาได้ "สันติภาพกับการพัฒนาแยกกันไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง" ดอว์ซูจีได้แนะนำนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะกฎหมายการลงทุนฉบับใหม่ที่มีความสำคัญมากในการระดมทุนต่างชาติ โดยตามคำเชิญของนายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ นางออง ซาน ซูจีจะเยือนสิงคโปร์ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนถึงวันที่ 2 ธันวาคม นับเป็นการเยือนสิงคโปร์ครั้งแรกของนางออง ซาน ซูจีตั้งแต่ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาแห่งรัฐ อย่างไรก็ตามในงานเสวนาดังกล่าวไม่มีการพูดถึงประเด็นโรฮิงญาแต่อย่างใด ลิงค์ข่าว

อดีตเลขาฯ UN เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีโรฮิงญา / นายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติได้เดินทางถึงรัฐยะไข่ทางตะวันตกของพม่มาเพื่อตรวจสอบกรณีที่เป็นที่กล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อมุสลิมโรฮิงญา โดยคณะกรรมการจะสัมภาษณ์บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการในท้องถิ่นและพลเมืองกลุ่มหนึ่ง และในวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม คณะกรรมการมีแผนจะเดินทางไปยังเมือง Muangdaw ซึ่งมีการต่อสู้กันอย่างรุนแรงระหว่างกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญากับกองกำลังรักษาความมั่นคง ที่ผ่านมาชนกลุ่มน้อยชาวโรฮิงญาซึ่งคาดว่ามีอยู่ราว 800,000 คนได้ร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยมีผู้คนอย่างน้อย 10,000 คนได้หนีจากรัฐยะไข่ไปยังบังกลาเทศซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านของพม่า ขณะที่มาเลเซียและบรรดาประเทศที่มีประชากรมุสลิมจำนวนมากได้วิพากษ์วิจารณ์ต่อวิธีที่พม่ารับจัดการกับชาวโรฮิงญาอย่างต่อเนื่อง ลิงค์ข่าว

เวียดนาม

ศุลกากรเวียดนามตรวจพบงาช้างแอฟริกา 619 กิโลกรัม / ศุลกากรเวียดนามได้ตรวจพบงาช้างน้ำหนัก 619 กิโลกรัมที่ลักลอบนำเข้าจากแอฟริกา โดยซุกซ่อนอยู่ในตู้สินค้า 2 ตู้ ที่ส่งไปยังท่าเรือ Cat Lai เมืองโฮจิมินห์ ทางตอนใต้ของเวียดนาม เจ้าหน้าที่รัฐบาลเวียดนามเผยว่า ผู้ลักลอบนำสินค้าเข้าเมืองมีวิธีการที่หลากหลาย ส่วนงาช้างที่ตรวจพบครั้งนี้ ห่อด้วยกระดาษกันน้ำ ซุกซ่อนอยู่ในไม้ที่ขุดข้างในเป็นโพรง เพื่อให้ผ่านการเอ็กซเรย์ อย่างไรก็ตาม กรุงฮานอยเตรียมจัดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าขายสัตว์ป่า เชิญร่วมประชุมจากหลายประเทศกว่า 40 คนหารือเพื่อเพิ่มมาตรการการปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่าและสินค้าจากสัตว์ป่า ลิงค์ข่าว

ฟิลิปปินส์

ฟิลิปปินส์เล็งยกเลิกวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน / เจ้าหน้าที่กระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์เผยว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์กำลังศึกษาการยกเลิกการขอวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจีนที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุดของฟิลิปปินส์ ผ.อ.สำนักงานการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวกระทรวงการท่องเที่ยวฟิลิปปินส์กล่าวว่า นักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนมหาศาล ปีที่แล้วจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางออกนอกประเทศมีถึง 120 ล้านคน แต่ที่มาฟิลิปปินส์มีเพียง 491,000 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนน้อยมาก เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในเอเชีย โดยการทำวีซ่าเป็นสาเหตุหนึ่งที่นักท่องเที่ยวจีนเลี่ยงจะเดินทางมาฟิลิปปินส์ ขณะที่บรรดาประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ ต่างออกนโยบายฟรีวีซ่าหรือวีซ่าข้ามแดนให้กับนักท่องเทียวจีน ดึงดูดชาวจีนไปเที่ยวจำนวนมาก แต่ปัจจุบันฟิลิปปินส์มีนโยบายฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณเพียง 50 ประเทศเท่านั้น ลิงค์ข่าว

ทีมอารักขาดูเตอร์เตถูกลอบวางระเบิด ฝ รถยนต์ทหารชุดคุ้มกันประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตร์เต ถูกลอบโจมตีด้วยระเบิดแสวงเครื่อง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 คน ในจำนวนนี้ มีทหารอารักขา 7 นาย และทหารเทศบาลท้องถิ่น 2 นาย โดยถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่งโรงพยาบาลในค่ายทหารที่อยู่ใกล้เคียง ขณะเกิดเหตุ ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เตกำลังเดินทางไปร่วมพิธีเปิดศูนย์บำบัดยาเสพติดที่อยู่ทางเหนือของกรุงมะนิลา โดยก่อนหน้านี้ เขาวางแผนจะไปเยี่ยมทหารที่ต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธที่เมืองมาลาวี ในวันที่ 30 พฤศจิกายน หลังจากได้ทราบรายงาน ดูเตอร์เตที่กำลังตรวจเยี่ยมค่ายทหารทางภาคเหนือกล่าวว่า ทีมอารักขาส่วนหน้าของเขาถูกลอบโจมตี แต่ยังยืนยันจะเดินทางไปภาคใต้ตามแผน แม้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจะแนะนำให้เลื่อนการเดินทาง อย่างไรก็ตามยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเหตุการณ์ครั้งนี้ โฆษกทีมอารักขากล่าวว่า ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป้าหมายการโจมตีคือประธานาธิบดี ลิงค์ข่าว