อธิบดีกรมการจัดหางาน เผยต่างด้าวขึ้นทะเบียนแรงงานลดลง จ่อทำโครงการเขตปลอดแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายทั่วประเทศ ให้แต่ละจังหวัดกำหนดโซน วางมาตรฐาน 4 ระดับ คุยนายจ้าง ก่อนขยายพื้นที่ใกล้เคียง รับห่วงสุดเมืองหลวงทำงานยาก เหตุคนกระจายไปอยู่ตามบ้านพัก (ที่มาภาพ: colourbox.com)
5 ก.พ. 2559 ASTV ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่านายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน แถลงถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมาว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคทำให้มีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาเป็นจำนวนมาก จึงมีการจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกิจการประมง และแปรรูปสัตว์น้ำ ที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องขึ้นมา และขยายเวลามา 3 ครั้งแล้ว ซึ่งจำนวนตัวเลขผู้มาขึ้นทะเบียนลดลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจากนี้จำนวนแรงงานจะเกิดความสมดุลขึ้น
นายอารักษ์กล่าวต่อว่า ขณะนี้เรามีแรงงานต่างด้าวอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านคน และเตรียมจัดทำโครงการ เขตปลอดแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายขึ้นมา โดยจะดำเนินการทั่วประเทศ ให้แต่ละจังหวัดกำหนดพื้นที่ขึ้นมา และวางมาตรฐานเป็น 4 ระดับในการพัฒนาตามโครงการ แล้วให้เจ้าหน้าที่เข้าไปทำความเข้าใจกับนายจ้าง ในการจดทะเบียนแรงงานให้ถูกต้อง และขยายไปยังพื้นที่ใกล้เคียงเป็นในลักษณะป่าล้อมเมืองในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งพื้นที่ที่เป็นห่วงที่สุดคือพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพราะเป็นพื้นที่ซึ่งทำงานได้ยาก แรงงานต่างด้าวส่วนใหญ่จะกระจายไปเป็นคนงานในบ้านพัก ต่างจากพื้นที่ต่างจังหวัดที่มีการรวมตัวทำงานที่โรงงาน ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเสนอเข้าไปในรายงานทริปรีพอร์ต ที่จะเสนอไปยังสหรัฐอเมริกาด้วย ทั้งนี้ยืนยันเราดำเนินการแก้ปัญหาแรงงานมาตั้งแต่ปี 39 ไม่ใช่เพิ่งมาดำเนินหลังมีปัญหาเรื่องการประมงผิดกฎหมาย
ขณะที่ น.ส.พรรณี ศรียุทธศักดิ์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการปรับปรุงกฎหมายในการคุ้มครองแรงงานอย่างต่อเนื่อง และมีการเข้าตรวจสอบสถานประกอบการมาโดยตลอด เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและทำความเข้าใจกับสถานประกอบการในพื้นที่ และสิ่งที่เราจะดำเนินการหลังจากนี้ คือการสำรวจการทำงานของเด็กในประเทศไทย เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการวางแผนการดำเนินการแก้ปัญหาแรงงานเด็กในประเทศ และส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิของแรงงานต่างด้าวในประเทศไทย เพราะเราดูแลแรงงานทุกคนในประเทศไทย รวมถึงเร่งพัฒนาการสื่อสารระหว่างแรงงานกับนายจ้างในประเทศให้สามารถสื่อสารกันได้ดีขึ้นด้วย
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ