ชาวบ้านบ้านม้งดอยปุยเผยกำลังประสานผู้เชี่ยวชาญกฎหมายและเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการทางกฎหมายกรณีเด็กหญิงม้งสองพี่น้องถูกฝรั่งกล่าวหาขโมยนาฬิกาบนดอยสุเทพ และเรียกร้องให้สื่อที่นำเสนอข่าวแสดงความรับผิดชอบหลังความจริงเริ่มปรากฏ ขณะที่ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่เรียกร้องภาครัฐปกป้องสิทธิเด็กและเยียวยาจิตใจ (ที่มาภาพข่าว: ASTV ผู้จัดการออนไลน์)
ASTV ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่าจากกรณีสื่อออนไลน์ในต่างประเทศมีการนำเสนอข่าวว่านักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพถ่ายลงในสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่ามาเที่ยววัดพระธาตุดอยสุเทพ ที่จังหวัดเชียงใหม่ แล้วถ่ายภาพกับเด็กผู้หญิงชาวเขาเผ่าม้งสองคนที่แต่งกายชุดประจำเผ่า ต่อมาปรากฏว่านาฬิกาข้อมือได้หายไป โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของเด็กหญิงทั้งสองคนที่ขโมยไป ซึ่งก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2559 ที่ผ่านมานายเมธาพันธ์ เพื่องฟูกิจการ ผู้ใหญ่บ้านดอยปุย หมู่ที่ 11 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า จากการประสานงานกับเครือข่ายชาวม้งในต่างประเทศที่มีการกระจายตั้งรกรากอยู่หลายประเทศทั่วโลก ที่สนใจประเด็นที่เกิดขึ้นนี้และช่วยกันสืบค้นหาข้อเท็จจริง รวมทั้งมีการติดต่อไปยังสื่อในประเทศอังกฤษที่นำเสนอข่าวนี้แล้ว
ขณะนี้เป็นที่ค่อนข้างชัดเจนว่า เรื่องที่นักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษกล่าวหาสองเด็กหญิงชาวม้งดอยปุยไม่เป็นความจริง โดยเพื่อนชายของนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษคนดังกล่าวได้หานาฬิกาที่หายไปพบแล้ว แต่ไม่ได้มีการนำเสนอข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ทั้งนี้กรณีที่เกิดขึ้นและข้อเท็จจริงที่เริ่มปรากฏนั้น ชาวม้งทั้งในประเทศไทยและเครือข่ายชาวม้งที่กระจายตั้งรกรากอยู่หลายประเทศทั่วโลกต่างไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเวลานี้ในส่วนของชาวม้งดอยปุยและพี่น้องชาวม้งในประเทศกำลังอยู่ระหว่างปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย และกำลังรวบรวมข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ ในครบถ้วนสมบูรณ์และมีความชัดเจน เพื่อที่จะดำเนินการแสดงท่าทีต่อกรณีที่เกิดขึ้นนี้
ทั้งการเรียกร้องให้สื่อที่นำเสนอข่าวดังกล่าวนี้ และนักท่องเที่ยวหญิงชาวอังกฤษที่กล่าวหาเด็กหญิงชาวม้งทั้งสองคนแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น รวมทั้งอาจจะมีการดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายด้วย
ด้านนายพรชัย จิตรนวเสถียร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ แสดงความเห็นว่า ที่ผ่านมากรณีของการนำเสนอข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียเกิดเหตุมาแล้วหลายครั้งที่สังคมตัดสินผิดถูกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งที่เป็นเรื่องที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีนี้ที่เรื่องที่เกิดขึ้นกับเด็ก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจเด็กเป็นอย่างมาก จากการที่มีการนำเสนอข่าวออกไปทางสื่อต่างๆ
ทั้งนี้สิ่งที่ควรจะมีการเร่งดำเนินการในเวลานี้ก็คือ การที่ภาครัฐควรจะเร่งเข้าไปเยียวยาสภาพจิตใจเด็กและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับผู้คนและสภาพแวดล้อมรอบข้าง เพื่อไม่ให้เกิดเป็นตราบาปของเด็กตลอดไป
รายงานข่าวแจ้งว่าผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมคณะจะเดินทางลงพื้นที่ผู้ใหญ่บ้านดอยปุย หมู่ที่ 11 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมเด็กหญิงชาวม้งสองพี่น้องและครอบครัวจากกรณีที่เกิดขึ้นนี้ด้วย
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ