สรุปข่าวอาเซียนประจำสัปดาห์ 5 - 11 ธ.ค. 2559

11 ธ.ค. 2559 | อ่านแล้ว 2400 ครั้ง


	สรุปข่าวอาเซียนประจำสัปดาห์ 5 - 11 ธ.ค. 2559

โรฮิงญา-มุสลิมมาเลเซียชุมนุมประท้วงรบ.พม่า Najib โผล่ร่วมด้วย / มุสลิมในมาเลเซียและชาวโรฮิงญาร่วมชุมนุมประท้วงในกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อประณามสิ่งที่รัฐบาลพม่าปราบปรามกลุ่มโรฮิงญา มีผู้เข้าร่วมราว 7,000 ในวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม โดยนายกรัฐมนตรี Najib Razak ของมาเลเซียก็ร่วมการชุมนุมครั้งนี้และเผยว่า การกระทำของรัฐบาลพม่าเป็นการเหยียดหยามชาวมุสลิม อย่างไรก็ตามชายชาวโรฮิงญาผู้หนึ่งที่เข้าร่วมการประท้วงด้วยกล่าวแสดงความหวังว่าแรงกดดันจากรัฐบาลมาเลเซียจะช่วยทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ของพม่ายังคงปฏิบัติการปราบปรามกลุ่มโรฮิงญาหลังจากที่กลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญาโจมตีใส่กองกำลังรักษาความมั่นคงเมื่อเดือนตุลาคมในรัฐยะไข่ ลิงค์ข่าว

เวียดนาม

เวียดนามทุ่มสองพันล้านผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานสะอาด / Pham Trong Thuc ผู้อำนวยการหน่วยพลังงานทดแทนสำนักงานพลังงานแห่งชาติเวียดนามกล่าวว่า ตามแผนปฏิบัติการการเจริญเติบโตสีเขียวแห่งชาติปี 2014-2020 เวียดนามจะทุ่มเทกำลังผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานทดแทนเช่น พลังลม พลังแสงอาทิตย์ พลังน้ำ พลังความร้อนใต้พิภพ และเชื้อเพลิงชีวภาพ เป็นต้น เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อน โดยเตรียมเซ็นสัญญากับบริษัทสัญชาติไอร์แลนด์ในโครงการก่อสร้างดังกล่าว นอกจากนี้เวียดนามยังมีแผนว่าจะบรรลุเป้าหมายที่ปริมาณไฟฟ้าผลิตจากพลังงานทดแทนเป็น 7% ของยอดปริมาณไฟฟ้าในปี 2020 ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเป็น 10.7% ในปี 2030 และกล่าวว่า ขณะนี้ การผิลตไฟฟ้าของเวียดนามใช้พลังงานถ่านหินและพลังน้ำเป็นหลัก ในอนาคตต้องพัฒนาการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังลมและพลังแสงอาทิตย์ คาดว่า 5 ปีข้างหน้า ความต้องการพลังงานไฟฟ้าของเวียดนามจะเพิ่มขึ้น 13% ทุกปี ลิงค์ข่าว

อินโดนีเซีย

ชาวเมือง Rembang เดินขบวนต้านโรงงานปูน Semen Indonesia / ชาวบ้านจากเมือง Rembang ในส่วนกลางของหมู่เกาะชวาเดินขบวนกว่า 150 กิโลเมตร จากบ้านเกิดในเมือง Gunem ไปยังเมือง Semrang เพื่อคัดค้านการสร้างโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ของบริษัท รัฐวิสาหกิจ Semen Indonesia และเรียกร้องให้ผู้ว่า Ganjar Pranowo เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง Joko Prianto ผู้ประสานงานกลุ่มเผยว่า เราเดินทางมาถึงบ้านของ Gus Mus ในตัวเมือง Rembang ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำการต่อต้านโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ในชุมชน Kendang โดยกระต่อต้านในครั้งนี้เพื่อปกป้องภูเขา Kendeng Kart ในบริเวณดังกล่าว ลิงค์ข่าว

สิงคโปร์

สิงคโปร์เพิกเฉยคดีลักลอบนำเข้าทราย / ประเทศสิงคโปร์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่โปร่งใสและไม่มีปัญหาการทุจริต โดยได้ถูกจัดอันดับที่ 8 จากการจัดลำดับความโปร่งใสนานาชาติประจำปี 2015 เทียบกับประเทศกัมพูชาที่ถูกจัดอันดับที่ 150 แต่ล่าสุดกัมพูชาออกมาเรียกร้องให้ประเทศสิงคโปร์ให้ความสนใจคดีการลักลอบนำเข้าทราย ที่สิงคโปร์อ้างว่านำเข้ามาจากกัมพูชา ด้านนาย Alex Gonzalez-David หัวหน้ากลุ่มสิ่งแวดล้อม Mother Nature กล่าวว่า สิงคโปร์ต้องให้คำตอบกับการกล่าวหาจากกระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของกัมพูชา ว่าด้วยเรื่องที่สิงคโปรแอบลักลอบนำเข้าทรายจากแหล่งผิดกฏหมายและรายงานเท็จว่าเป็นทรายจากกัมพูชา โดยตัวเลขจำนวนทรายอย่างเป็นทางการที่สิงคโปร์ระบุว่าได้นำเข้าจากกัมพูชาตั้งแต่ปี 2007 ถึงปีที่แล้วคือ 73.5 ล้านตัน ทั้งๆ ที่ทางกัมพูชาระบุว่าได้ส่งออกทรายไปยังสิงคโปร์แค่ 2.8 ล้านตันเท่านั้น ลิงค์ข่าว

ฟิลิปปินส์

ฟิลิปปินส์เล็งสร้าง'เขตปกป้องสัตว์ทะเล'บริเวณที่มีข้อพิพาทกับจีน / โรดิโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ประกาศเตรียมตั้งเขตปกป้องสัตว์ทะเลช่วงแนวสันดอน Scarborough ในทะเลจีนใต้ ที่เป็นกรณีพิพาทอยู่กับจีนในขณะนี้ โดยให้เหตุผลว่า เขตห้ามทำการประมงในพื้นที่ราว 158 ตารางกิโลเมตรดังกล่าว จะช่วยให้ปลาต่างๆ ที่ลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วสามารถขยายพันธุ์ได้ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีนยืนยันว่าเรื่องนี้จะไม่มีผลกระทบต่อการอ้างกรรมสิทธิ์ของของฟิลิปปินส์เหนือสันดอน Scarborough แต่อย่างใด โดยปัจจุบันจีนอ้างกรรมสิทธิ์เป็นเจ้าของพื้นที่ราว 95% ในทะเลจีนใต้ ซึ่งรวมถึงท้องทะเลทางด้านตะวันตกของฟิลิปปินส์ด้วย ด้าน Jonathan Spangler องค์กรวิเคราะห์นโยบายเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ เชื่อว่าการประกาศตั้งเขตปกป้องสัตว์ทะเลในน่านน้ำ Scarborough เท่ากับเป็นการยืนยันอำนาจอธิปไตยของฟิลิปปินส์ และอาจทำให้ประเทศคู่กรณีอื่นๆ ขุ่นเคืองใจได้ ลิงค์ข่าว

ผุดไอเดีย 'ห้องครัวดูเตอร์เต' แจกอาหารเด็กเร่ร่อนในฟิลปปินส์ / ห้องครัวดูเตอร์เต (Duterte's Kitchen) ได้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ภายใต้การสนับสนุนของพรรคพลังประชาชนประชาธิปไตยฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลที่นายดูเตร์เตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เป็นหัวหน้าพรรค โดยร้านอาหารแห่งนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อแจกอาหารเด็กเรร่อน เปิดครัวตั้งแต่ 07.00 น. ถึง19.00 น. สามารถแจกจ่ายอาหารให้เด็กเร่ร่อนในจำนวนประมาณ 40 คนต่อวัน อย่างไรก็ตามห้องครัวดังกล่าวอาศัยการบริจาคจากคนใจบุญ โดยรับบริจาคเพียงอาหาร ไม่รับบริจาคเงินสด ทำให้เมนูอาหารในแต่ละวันจะถูกกำหนดตามอาหารที่ได้รับบริจาค เจ้าหน้าที่ดูแลร้านอาหารนี้เผยว่า การเปิดห้องครัวนี้ได้ไอเดียจากดูเตร์เอตที่เสนอให้แจกอาหารและเครื่องดื่มให้กับเด็กเร่ร่อน โดยเริ่มแรกคิดไว้เพียงแค่ข้าวต้มเปล่าและข้าวต้มช็อกโกเเลตเท่านั้น แต่ต่อมาเนื่องจากได้รับอาหารบริจาคมากขึ้น จึงให้มีอาหารหลากหลายให้กับเด็กเร่ร่อน แต่ยังรองรับปริมาณของเด็กในแต่ละวันได้น้อย ลิงค์ข่าว

ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: