กรมการขนส่งทางบก เร่งติดตั้งระบบ GPS ในรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถโดยสารสาธารณะทุกคัน เพื่อควบคุมพฤติกรรมการขับขี่ให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น พบช่วงปีใหม่ ตรวจจับความเร็วรถจากจำนวนรถ 52,046 คัน ใช้ความเร็วเกินกำหนดจำนวน 661 คัน (ที่มาภาพ: synoviasolutions.com)

12 ม.ค. 2559 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยรายงานว่า นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากผลการตรวจจับความเร็วรถตามพระราชบัญญัติการขนส่ง ตลอดช่วงปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2558 – 4 มกราคมที่ผ่านมา สามารถตรวจจับความเร็วรถจากจำนวนรถ 52,046 คัน พบมีการใช้ความเร็วเกินกำหนดจำนวน 661 คัน ในจำนวนนี้พบรถตู้โดยสารกระทำความผิดสูงสุดจำนวน 351 คัน รถโดยสารขนาดใหญ่ 189 คัน รถบรรทุก 121 คัน ซึ่งกรมการขนส่งทางบกดำเนินการลงโทษทั้งในส่วนของพนักงานขับรถ และผู้ประกอบการต้นสังกัดที่ไม่สามารถควบคุมดูแลพนักงานขับรถให้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย

อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวอีกว่า จากสถิติอุบัติเหตุรถสาธารณะช่วงเทศกาลปีใหม่ เกิดขึ้นทั้งหมด 30 ครั้ง เป็นรถโดยสารสาธารณะจำนวน 21 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้บาดเจ็บ 46 ราย ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 4.54 ส่วนรถบรรทุกเกิดอุบัติเหตุ 9 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า การใช้ความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ยังเป็นสาเหตุอันดับแรก คิดเป็นร้อยละ 23 อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งทางบก ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลรถโดยสารสาธารณะให้มีความปลอดภัย จึงต้องปรับมาตรการในการป้องกันและลดอุบัติเหตุให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้นกว่าเดิม สำหรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ รวมถึงเทศกาลวันหยุดต่อเนื่องอื่น ๆ ที่มีประชาชนเดินทางใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก จะมีการบังคับใช้มาตรการกฎหมายและกำหนดบทลงโทษที่เข้มข้นขึ้น การเร่งรัดดำเนินการติดตั้ง GPS ในรถบรรทุกขนาดใหญ่และรถโดยสารสาธารณะทุกคัน เพื่อควบคุมพฤติกรรมการขับรถให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในป้องกันและลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ