กรมป่าไม้เผยมีการกระทำผิดกับผู้ทำลายทรัพยากรป่าไม้ระหว่างปี 2557 ถึงเดือนพฤษภาคม 2559 คดีรวมกันกว่า 13,877 คดี มีผู้ต้องหา 5,677 ราย ยึดไม้แผ่น/ไม้ท่อนรวมปริมาตรไม้ 35,376 ลูกบาศก์เมตร แต่สิ่งที่น่าห่วงในช่วงครึ่งปีนี้มีจำนวนคดีสูงถึง 2,557 คดี มีผู้ต้องหา 873 ราย รวมปริมาตรไม้ 5,431 ลูกบาศก์เมตร (ที่มาภาพ: radio.prd.go.th)

13 มิ.ย. 2559 สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่า นายสมชัย มาเสถียร รองอธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2559 ที่ผ่านมาว่าจากการปราบปรามการกระทำผิดกับผู้ทำลายทรัพยากรป่าไม้ระหว่างปี 2557 ถึงเดือนพฤษภาคม 2559 มีคดีรวมกันกว่า 13,877 คดี มีผู้ต้องหา 5,677 ราย ยึดไม้แผ่น/ไม้ท่อนรวมปริมาตรไม้ 35,376 ลูกบาศก์เมตร แต่สิ่งที่น่าห่วงในช่วงครึ่งปีนี้มีจำนวนคดีสูงถึง 2,557 คดี มีผู้ต้องหา 873 ราย รวมปริมาตรไม้ 5,431 ลูกบาศก์เมตร ส่วนใหญ่คดีอยู่ในชั้นระหว่างการสอบสวน โดยจับกุมตัวบุคคลที่ทำผิดได้เพียงร้อยละ 10 ทำให้ไม่สามารถขยายผลไปถึงกลุ่มนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งการข่าวในพื้นที่ยังเป็นจุดอ่อนของการสกัดการเข้าลักลอบตัดไม้ออกจากเขตป่า ทำให้จับกุมได้แต่ไม้พะยูง ไม้ชิงชัน และไม้ประดู่ ที่ถูกตัดออกจากป่าแล้วเตรียมส่งขายไปยังประเทศลาว ทั้งนี้ค่อนข้างกังวลเพราะไม้ถูกตัดออกจากป่ามีการเคลื่อนย้ายไม้ออกมาทุกวัน แล้วนำไปพักไว้ตามโกดังต่างๆ ทั้งด่านใกล้กับประเทศเพื่อนบ้านบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณท่าเรือ และบริเวณโรงเลื่อยไม้ ซึ่งกรมป่าไม้ยังติดตาม(แกะรอย)ไม่ถึงต้นทางขบวนการลักลอบตัดและค้าไม้ผิดกฎหมาย ที่สำคัญกังวลว่ากลุ่มนายทุนอาจปล้นไม้พะยูงของกลางที่เก็บรักษาไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีมูลค่าไม้กว่า 1,000 ล้านบาท จึงมีแนวคิดจะสร้างโกดังเก็บไม้ของกลางทั้งหมดรวมไว้ในจุดเดียวกันและมีระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา

สำหรับคดีไม้ที่ถูกลักลอบตัดออกจากเขตป่ามากที่สุด 5 อันดับ คือ ไม้พะยูง 1,034 คดี รวมปริมาตรไม้ 776 ลูกบาศก์เมตร // ไม้สัก 621 คดี รวมปริมาตรไม้ 1,242 ลูกบาศก์เมตร // ไม้ประดู่ 304 คดี รวมปริมาตรไม้ 564 ลูกบาศก์เมตร // ไม้ชิงชัน 136 คดี รวมปริมาตรไม้ 232 ลูกบาศก์เมตร และไม้แดง 116 คดี รวมปริมาตรไม้ 125 ลูกบาศก์เมตร