ซัสโก้หวังต่อยอดธุรกิจเอ็นจีวีเจรจาซื้อปั๊มเอ็นจีวีจาก ปตท.หลังมีนโยบายขายปั๊มนอกแนวท่อบางแห่ง ลดภาระการดำเนินงาน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปรอผลการเจรจา (ที่มาภาพประกอบ: energy24hours.com)

เว็บไซต์ ฐานเศรษฐกิจ รายงานว่านายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทมีแผนที่จะรุกเข้าสู่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับใช้ในรถยนต์ (เอ็นจีวี) เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสถานีบริการอยู่ประมาณ 12 แห่ง จะลงทุนเพิ่มขึ้นในปีนี้อีก 2-3 แห่ง เพื่อรองรับความต้องการในอนาคต และเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้มากขึ้น ถึงแม้ว่าปัจจุบันยอดจำหน่ายเอ็นจีวีของปีนี้จะอยู่ในภาวะทรงตัว จากผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ แต่เชื่อว่าในระยะต่อไปโดยเฉพาะรถแท็กซี่และรถบรรทุกที่เป็นกลุ่มใช้ขนาดใหญ่ จะยังมีความต้องการเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ จากการที่บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) มีนโยบายที่จะขายสถานีบริการเอ็นจีวีบางแห่งที่อยู่นอกแนวท่อก๊าซ เพื่อเปิดโอกาสให้เอกชนที่มีความสนใจในธุรกิจเอ็นจีวีมาดำเนินการมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องก่อสร้างใหม่ เพื่อลดภาระการดำเนินงาน และจะหันไปลงทุนก่อสร้างสถานีบริการเอ็นจีวีตามแนวท่อส่งก๊าซแทน ในส่วนนี้บริษัทมีความสนใจที่จะเข้าซื้อ และได้มีการติดต่อไปทางปตท.แล้ว แต่คงต้องรอความชัดเจนจากทางปตท.อีกครั้ง ว่าจะพิจารณาอย่างไรออกมา โดยปัจจุบันปตท.มีสถานีบริการเอ็นจีวีอยู่ 377 แห่ง แบ่งเป็นสถานีแม่ 15 แห่ง สถานีลูก 280 แห่ง และอยู่แนวท่อ 82 แห่ง ส่วนที่เหลือเป็นของเอกชนอีก 114 แห่ง

ส่วนการดำเนินงานในธุรกิจน้ำมันนั้น ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ บริษัทมียอดขายเติบโตมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันที่เติบโตสูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากราคาขายปลีกน้ำมันที่ปรับลดลง ทำให้ผู้บริโภคเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น โดยในปีนี้บริษัทมีแผนขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 230 แห่งภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 224 แห่ง ใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท และในปี 2560 จะขยายเพิ่มเป็น 250 แห่ง ใช้เงินลงทุนอีก 200 ล้านบาท

นายชัยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันบริษัทจะขยายธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (นอนออยล์) ในสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้น โดยมีแผนลงทุนร้านสะดวกซื้อลอว์สันในสถานีบริการน้ำมันของซัสโก้ เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีเพียง 2 แห่ง เป็น 10 แห่งภายในสิ้นปีนี้ รวมทั้งบริษัทจะเข้ามาดำเนินธุรกิจร้านกาแฟภายใต้แบรนด์ชาวดอย ขยายเพิ่มเป็น 10 แห่ง จากปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว 3 แห่ง อย่างไรก็ตามปัจจุบันร้านกาแฟที่เปิดในสถานีบริการน้ำมันซัสโก้มากกว่า 30 แห่ง จะเป็นลักษณะการเช่าพื้นที่เพื่อเปิดร้านกาแฟ ทำให้มีแบรนด์แตกต่างกันไป ดังนั้นบริษัทจึงต้องการเข้ามาทำธุรกิจนอนออยล์เพิ่มขึ้น ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 2 ล้านบาทต่อแห่ง

สำหรับเป้ารายได้ปี 2559 ยังคงตั้งเป้าไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 1.96 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากยอดขายน้ำมันที่เติบโตขึ้นมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกันก็มีรายได้จากธุรกิจเอ็นจีวีและนอนออยล์เพิ่มขึ้นด้วย

“การเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในธุรกิจนอนออยล์ใช้เงินลงทุนไม่มากนักเมื่อเทียบกับธุรกิจน้ำมัน โดยในปีนี้และปีหน้าจะมีการขยายปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ และร้านกาแฟเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าสัดส่วนเงินลงทุนในธุรกิจนอนออยล์จะอยู่ที่ 10% ของเงินลงทุนทั้งหมดเท่านั้น ขณะที่การขยายปั๊มน้ำมันเพิ่มขึ้น มีทั้งปรับปรุงปั๊มเดิมและลงทุนใหม่ พร้อมเสริมธุรกิจนอนออยล์ให้มากขึ้นเพื่อยกระดับเป็นปั๊มพรีเมียมรองรับการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น”นายชัยฤทธิ์ กล่าว