จับตา 8 อุตสาหกรรมเสี่ยง เผย 5 เดือนแรกแรงงานภาคการผลิตลดลง 122,000 คน

14 ก.ค. 2559 | อ่านแล้ว 2268 ครั้ง


	จับตา 8 อุตสาหกรรมเสี่ยง เผย 5 เดือนแรกแรงงานภาคการผลิตลดลง 122,000 คน

จับตา 8 อุตสาหกรรม คอมพิวเตอร์ รถยนต์ประหยัดพลังงาน อัญมณีและเครื่องประดับ รถจักรยานยนต์ ไก่ปรุงสุก วงจรไฟฟ้า รถกระบะ และเครื่องปรับอากาศ ได้รับผลกระทบจากการส่งออกหลังจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว 5 เดือนแรก แรงงานภาคการผลิตลดลงไปแล้ว 122,000 คน เนื่องจากการส่งออกไม่ดี ผู้ผลิตในไทยปรับตัวนำเทคโนโลยีมาใช้แทนภาคแรงงานเพิ่ม (ที่มาภาพประกอบ: wvmetronews.com)

14 ก.ค. 2559 เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานว่า น.ส.ณัฏ ฐริยา วิทยธนเศรษฐ์ ผู้ชำนาญการงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่าธนาคารได้จับตา 8 กลุ่มอุตสาหกรรม ที่มีความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ได้แก่ คอมพิวเตอร์ รถยนต์ประหยัดพลังงาน อัญมณีและเครื่องประดับ รถจักรยานยนต์ ไก่ปรุงสุก วงจรไฟฟ้า รถกระบะ และเครื่องปรับอากาศ ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากการส่งออก หลังจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมถึงผลกระทบด้านการนำเข้าของสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักร จากกรณีเบร็กซิท ที่น่าจะได้รับผลกระทบจากการส่งออกไปยุโปรอีกไม่ต่ำกว่า 2 ปี พร้อมกันนี้แนะนำให้ผู้ส่งออกสินค้าทั้ง 8 กลุ่ม ปรับตัวหาตลาดส่งออกใหม่ มาทดแทนกำลังซื้อในยุโรปอาจชะลอตัวระยะยาวไปอีกนับสิบปี   

ส่วนสถานการณ์แรงงานในไทย น่าเป็นห่วงแรงงานในภาคอุตสาหกรรมจะลดได้อีก หลังแนวโน้มใน 5 เดือนแรก แรงงานภาคการผลิตลดลงไปแล้ว 122,000 คน เนื่องจากการส่งออกไม่ดี ประกอบการผู้ผลิตในไทยปรับตัวนำเทคโนโลยีมาใช้แทนภาคแรงงานเพิ่ม เช่นเดียวกับกลุ่มทุนต่างชาติ เข้ามาลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานในไทยน้อยลง และหันไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้านแทน หลังจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ปรับการให้สิทธิประโยชน์ในกลุ่มเทคโนโลยีชั้นสูงเป็นหลัก         

นายกอบ สิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่าต้องจับตาการลงมติร่างรัฐธรรมนูญวันที่ 7 ส.ค.นี้ หากผ่านไปได้ด้วยดี จะเป็นปัจจัยบวกเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน และทำให้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่หากไม่เป็นไปตามคาดหมาย อาจไปถึง 37 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ และสิ้นปีนี้ โอกาสเคลื่อนไหวระดับ 36.20 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งต้องจับตาใกล้ชิด และธนาคารแห่งประเทศไทย ต้องดูแลไม่ให้แข็งค่าเกิน 35 บาทต่อดอลลลาร์ ไม่เช่นนั้นจะคุมได้ยากและกระทบต่อการหลายอุตสาหกรรม

 
ร่วมเป็นแฟนเพจเฟสบุ๊คกับ TCIJ ออนไลน์
www.facebook.com/tcijthai

ป้ายคำ
Like this article:
Social share: