เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มส่งหนังสือถึงกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ขอให้เลิกการปรับสัดส่วนไบโอดีเซลจาก บี 5 เหลือ บี 3 เพราะมีผลกระทบอย่างหนัก (ที่มาภาพข่าว: สำนักข่าวไทย)
15 ส.ค. 2559 สำนักข่าวไทย รายงานว่านายชโยดม สุวรรณวัฒนะ ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ได้ยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงานและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กรณีที่อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ได้ประกาศลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซล จากบี 7 เป็นบี 5 เพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำมันพืชเพื่อการบริโภค มีผลบังคับตั้งแต่ 25 กรกฎาคม 2559 ทำให้สต็อคน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้น และราคาผลปาล์มทะลายปรับลดลง มีเสถียรภาพมากขึ้น
แต่เมื่อ 10 สิงหาคม กรมธุรกิจพลังงานได้ปรับลดไบโอดีเซลจากบี 5 เป็นบี 3 อีกครั้ง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 25 สิงหาคม 2559 และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันทั้งระบบ ตลาดชะงัด หยุดการซื้อขายน้ำมันปาล์มดิบ ราคาผลปาล์มทะลายลดลงอย่างรุนแรงต่อเนื่อง และยังไม่มีท่าทีจะหยุดลดลง โดยราคาผลปาล์มลดลงจาก 6.40 บาท เหลือเพียง 5.40 บาทต่อกิโลกรัม
ตัวแทนเกษตรกรระบุว่า ปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญเพียงตัวเดียวที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาคใต้ การปรับลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้ให้เวลาตลาดปรับตัว เป็นการทำงายตลาดน้ำมันปาล์มอย่างสิ้นเชิง และจะกระทบต่อชาวสวนปาล์มที่มีกว่า 2 แสนครัวเรือน สวนปาล์มกว่า 5 ล้านไร่ในที่สุด และทำให้เกิดความแคลงใจว่า เป็นนโยบายที่ทำเพื่อโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม หรือเพื่อเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มทั้งประเทศ
ดังนั้นจึงเรียกร้องให้เลิกการประกาศปรับลดสัดส่วนการผสมบี 5 เป็นบี 3 เพื่อให้ราคาน้ำมันปาล์มเป็นไปตามกลไกตลาด รองรับปริมาณผลผลิตที่จะออกมามากขึ้นในเดือนกันยายนนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้นอกจากราคาผลปาล์มจะลดลงมากกว่า 1 บาทและ โรงกลั่นในพื้นที่ก็ไม่รับซื้อน้ำมัน และโรงสกัดไม่กรับซื้อปาล์มจากเกษตรกรด้วย
www.facebook.com/tcijthai
ป้ายคำ